Home รีวิวและทดสอบ Zontes 368G รีวิว รถขนขิง..ขิงเต็มคัน!!

Zontes 368G รีวิว รถขนขิง..ขิงเต็มคัน!!

0

Zontes 368G รีวิว รถขนขิง..ขิงเต็มคัน!!

รถขนขิง พร้อมระเบิดเนิน

รถขนขิง..ขิงเต็มคัน กับโมเดลโฉมใหม่จากค่าย Zontes (ซอน-เทส) ในสไตล์แอดเวนเจอร์สกูตเตอร์อย่าง Zontes 368G ซึ่งแค่เปิดตัวมาก็พร้อมจะขิงคู่แข่งซะแล้ว พร้อมเขย่าตลาดสายสกูตเตอร์ด้วยราคาโดนใจที่ 178,800 บาท เอาหล่ะเปิดราคามาขนาดนี้ ต้องดูรายละเอียดกันซะหน่อยแล้วว่ารถขนขิงรุ่นนี้ จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

Zontes 368G รีวิว First Impression

โฉมคันจริง ดีไซน์สวยมาก

จุดเด่นเรื่องแรกที่น่าสนใจเลยก็คือ การออกแบบดีไซน์มาในสไตล์แอดเวนเจอร์สกูตเตอร์ที่มีความโฉบเฉี่ยว เฉียบคมกับสัดส่วนเส้นสายที่ให้ความทันสมัย ถึงจะเป็นโมเดลพิกัด 368 แต่รูปร่างค่อนข้างกระชับเสมือนใบหน้าที่มีสันกราม ดูเรียวและดูเพรียวในมิติความคมโฉบเฉี่ยวของซอนเทส 368G รุ่นนี้ ไฟโปรเจ็กต์เตอร์ออกแบบ 4 ดวงสองชั้นตวัดปลายคิ้วยกสูงด้วยไฟ DRL บวกกับไฟท้ายดีไซน์ 4 เส้นวาดเส้นโฉบเฉี่ยวขนานกับตัวแฟริ่งด้านข้าง ดูมีความสวยงามและให้ความสว่างชัดทั้งกลางวันและกลางคืน

ติดตั้งแครชบาร์มาจากโรงงาน
เบาะพร้อมพนักพิง

แต่ถ้าหากเทียบกันกับรุ่นพี่บิ๊กสกูตเตอร์ไซส์ใหญ่ ในเรื่องความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวอาจไม่สู้ อย่างไรทาง Zontes ได้แก้เกมแบบทันใจด้วยการใส่แครชบาร์กันล้ม การ์ดแฮนด์และสปอร์ตไลท์ 2 ดวงด้านหน้า มีฟังก์ชันเปิด-ปิดได้ผ่านปุ่มควบคุมบริเวณประกับแฮนด์ ทั้งไฟขาว ไฟเหลืองและไฟกระพริบ บวกกับลวดลายกราฟิกในรหัส 368G Enduro เพื่อเสริมภาพลักษณ์ของความเป็นแอดเวนเจอร์สกูตเตอร์ตัวเด็ดของทาง Zontes โดยทั้ง 2 อุปกรณ์ชุดนี้ติดตั้งมาให้จากโรงงานโดยไม่เสียเงินแต่งเพิ่ม

พักเท้าที่ “3” ติดมาทำไม ?

พักเท้าถูกใจสุด ๆ

พร้อมกับ “พักเท้า” แบบพิเศษบริเวณคอนโซลกลาง หลังจากมองครั้งแรกก็แอบเอ๊ะใจว่า มันออกแบบมาเพื่อซ้อน 3 หรือเปล่า ขนขิงไม่พอขนคนเพิ่มอีกด้วยหรือ สรุปมันไม่ใช่ ซึ่งหลังจากได้สอบถามพี่เทคนิคเชียลจากทางค่าย ได้คำตอบมาว่า..มันคือที่พักเท้าของผู้ขับขี่ออกแบบไว้เพื่อสำหรับการยืนขับขี่ในสถานการณ์เผชิญบนเส้นทางฝุ่น แค่นั้นแหล่ะ…อ๋อเลย แค่นั้นยังไม่พอพักเท้าของผู้ขับขี่ยังมีคุณสมบัติที่สามารถถอดแผ่นยางออกได้โดยใช้หกเหลี่ยมที่ติดมากับชุดอุปกรณ์ ขันออกง่ายเพียงปลายนิ้ว เพื่อเป็นการเพิ่มการยึดเกาะระหว่างดอกยางของรองเท้าและแผ่นอลูมิเนียมเพิ่มความเสถียรและการยึดเกาะที่ดียิ่งขึ้น

พอร์ตชาร์จไฟ USB 3 จุด
แบ่งเป็นไทป์ A และ ไทป์ C
ถังน้ำมัน Airplane Tank Cap
สามารถเปิดออกใช้งานได้ง่าย

ต่อด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมจะ “ขิง” ด้วยพอร์ตชาร์จไฟ USB 3 จุด ทั้งบริเวณใต้หน้าจอ บริเวณใต้เบาะและช่องเก็บของฝั่งซ้ายด้านหน้า โดยแต่ละจุดแบ่งเป็นพอร์ตไทป์ A และไทป์ C อย่างละ 1 จุด รวมทั้งหมด 6 ช่อง ที่แขวนของเอนกประสงค์ด้านหน้าสามารถพับเปิด-ปิดได้ และอีกหนึ่งไฮไลท์ทีเด็ดก็คือฝาถังน้ำมัน (ความจุ 17.5 ลิตร) แบบ Airplane Tank Cap สามารถเปิดออกใช้งานได้ง่ายเพียงใช้มือดึงก้านฝาถังออกมา (กุญแจรถต้องอยู่ในระยะที่เซ็นเซอร์จับได้)

ส่วนอื่น ๆของเจ้ารุ่นนี้ มีอะไรให้ขิงกันอีก ?

  • ระยะกราวด์เคลียแร้นท์สูงกว่ารุ่นแอดเวนเจอร์สกูตเตอร์ค่ายคู่แข่ง สามารถขี่ลุยทางฝุ่นหรืออุปสรรคได้มากยิ่งขึ้น หรือจะนอนใต้รถก็ยังได้ (นอนทำไม) 
  • ชิลด์หน้าปรับได้ 5 ระดับ มากกว่าคลาสเดียวกันที่ปรับได้ 4 ระดับ 
  • ช่องเก็บของใต้เบาะความจุขนาด 52 ลิตร พร้อมไฟส่องสว่างใต้เบาะ ใหญ่จุใจ ผู้หญิงตัวเล็กขนาดไซส์แม่บ้านเข้าไปนอนได้
  • แผ่นยางบริเวณใต้มือจับคนซ้อน เพิ่มการยึดเกาะและมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น
  • ก้านเบรกปรับได้ ตามความถนัดของผู้ขับขี่
  • มีระบบเบรกมือไว้ใช้สำหรับใช้งาน
  • เบาะดีไซน์ใหม่ ทำชั้นพนักพิงด้านหลังสำหรับผู้ขับขี่สายเดินทาง
  • ล้อซี่ลวด เดิมจากโรงงาน
  • ท่อไอเสียใบใหญ่ 
  • กล้องหน้า-หลัง (อุปกรณ์เสริม)

ขิงกันต่อด้วย “เครื่องยนต์”

พละกำลังเกือบ 40 แรงม้า

ด้วยบทพิสูจน์ของเจ้า 350E และ 350D จึงเป็นที่ประจักษ์สายตาแก่ชาวสองล้อมากมาย จึงคลายความสงสัยในเรื่องสมรรถนะของรถค่ายใหม่ไปโดยปริยายทันที สำหรับรุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์สูบเดียวขนาด 368 ซีซีระบายความร้อนด้วยน้ำ มีพละกำลังแรงม้าสูงสุดที่ 38.23 แรงม้าที่ 7,500 รอบ และแรงบิดสูงสุด 40 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบ ซึ่งมีกำลังมากกว่าเกือบ 10 ตัวทีเดียว

โช้คอัปหลังพร้อมซัปแทงค์ ปรับพรีโหลดและรีบาวด์ได้

โช้คหน้าเป็น Up Side Down ขนาดแกน 41 มม. ปรับรีบาวด์และคอมเพรสชันได้โช้คหลังเป็นแบบสปริงคู่พร้อมซับแทงค์ สามารถปรับพรีโหลดและรีบาวด์ได้เช่นเดียวกัน คาลิเปอร์ยังคงใช้จาก J.Juan ของสเปน ด้านหน้า 4 พอร์ต ด้านหลังพอร์ตเดียวจับคู่กับจานดิสก์เบรกติดตั้งมาให้

ล้อซี่ลวด พร้อมยาง Dual Purpose

ขนาดล้อและไซส์ยางที่ 110/70-17 และ 150/70-14 ในเรื่องดีไซน์และช่วงล่างของเจ้าขิงรุ่นนี้ หากเทียบให้เห็นภาพก็คงเป็นเสมือนกับข้าวมันไก่ แต่เป็นข้าวมันไก่สิงค์โปร จะอร่อยถูกใจหรือไม่..เราไม่รู้ ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง

เทคโนโลยีรุ่นนี้ “ขิงเต็ม ๆ”

หน้าจอสี TFT พร้อมระบบฟีเจอร์พร้อมใช้งานมากมาย

 

ในเรื่องของเทคโนโลยีและระบบต่าง ๆ ต้องยอมรับว่าแบรนด์นี้ให้มาใช้งานค่อนข้างครบครัน โดยให้มาแบบเต็มไม้เต็มมือ เริ่มด้วยหน้าจอสีขนาด 8 นิ้ว ไซส์ใหญ่จุใจนึกว่าจอไอแพด มาพร้อมฟังก์ชันต่าง ๆ มากมาย ประกอบไปด้วย 

  • ระบบ InterFace หรือดิสก์เพลย์หน้าจอปรับได้ถึง 4 แบบ 
  • ระบบ Setting สามารถดูเวลา เปลี่ยนภาษาได้ถึง 3 ภาษา เชื่อมต่อบลูบูธ รับสายโทรศัพท์ ดูข้อความ
  • ระบบ Ride Control สามารถเปิด-ปิด ระบบ ABS ล้อหลัง 
  • ระบบเชื่อมต่อข้อมูลรถกับสมาร์ทโฟนผ่าน ZONTES Intelligence 
  • สามารถเปิดกล้องหน้าและกล้องหลังได้ และระบบออโต้เซฟบันทึกไฟล์วิดีโอไว้ในเครื่องและสามารถ Play back ดูไฟล์บันทึกได้ที่หน้าจอ 

นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชันอื่น ๆ ให้ใช้งาน อาทิ 

  • ระบบแทร็คชันคอนโทรล เปิด-ปิดได้ด้วยปุ่มคอนโทรลประกับฝั่งขวา 
  • ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง สามารถตรวจเช็คผ่านหน้าจอได้ทันที
  • โหมดการขับขี่ให้เลือก 2 โหมด (Sport, Eco) เปลี่ยนโหมดได้ด้วยปุ่มประกับฝั่งขวาเช่นเดียวกัน
  • ระบบเบรกมือ (ตัวล็อกเบรกอยู่บริเวณก้านเบรกหลัง) 
  • ระบบไฟส่องสว่าง LED รอบคัน / ไฟหน้าเลนส์โปรเจคเตอร์ 4 ดวง 
  • ระบบล็อกคอรถอัตโนมัติ (เมื่อปิดระบบรถ)
  • กุญแจสมาร์ทคีย์ 3.0 มีคุณสมบัติป้องกันน้ำและฝุ่น

เปิดตัวพร้อมทดสอบในทริป กรุงเทพ-ห้วยคอกหมู จ.ราชบุรี

ห้วยคอกหมูก็แค่ขนม

ซึ่งหลังจากเปิดตัวกันภายในงาน Motor Expo ทางค่ายจึงมีรีรอช้า จัดสกูตเตอร์ 386G มาให้ทดสอบ แต่จะเป็นกิจกรรมในลักษณะของวันเดย์ทริป กรุงเทพฯ – ห้วยคอกหมู จ. ราชบุรี มีเส้นทางให้ได้ลองขี่ทั้งทางดำในเมือง ชนบทไปจนถึงทางฝุ่นบนห้วยคอกหมู มีเส้นทางให้ลิ้มลองสัมผัสประสบการณ์แบบเต็มพิกัด 

โดยครั้งนี้อาจไม่ได้เล่ารายละเอียดของทริปซะมากเท่าไหร่ จะเน้นไปทางสเปคและเพอร์ฟอร์แมนซ์ของเจ้ารถขนขิง “รุ่นนี้” ว่าดีเทลรายละเอียดและสมรรถนะของตัวรถจะเป็นอย่างไร แต่ก่อนอื่นก็ต้องขอเข้าสู่ดาร์กโหมด รีวิวแบบฉบับไม่มีอวยตามฉบับซูเปอร์ไบค์มาเล่าสู่กันฟังกันซักนิด

ท่านั่งขับขี่

ท่านั่งสบาย ปรับตำแหน่งการวางเท้าได้ถึง 3 ระดับ

เริ่มด้วยท่านั่งขับขี่ จากส่วนตัวแอดมินที่มีส่วนสูงที่ 175 ซม. พอลองนั่งคร่อมแล้วขาถึงพื้น สามารถไล่ระดับตามความถนัดของผู้ขับขี่แต่ละท่านเพราะเบาะโดยสารออกแบบมาเพื่อเข้าถึงสรีระผู้ขับขี่ได้หลากหลายรูปแบบ หากตัวสูงไม่มาก ก็เขยิบไปด้านหน้าหน่อย หากสูงยาวเข่าดีก็สามารถถอยหลัง ปรับท่วงท่าให้เข้ากับตัวเองได้เช่นกัน ส่วนท่านั่งขับขี่ออกแบบให้ความกระชับและคล่องตัว ชอบสุดก็ต้องพักเท้านี่แหล่ะ เพิ่มความเสถียรคอนโทรลขับขี่สุด ๆ ยิ่งลุยทางฝุ่น..ตอบโจทย์ ส่วนแฮนด์..ปรับระยะได้ ใครแขนสั้นแขนยาวไปปรับเอา เอาที่ถนัดมือ

เครื่องยนต์ ไม่ผิดหวัง

นัมเบอร์วัน !

ส่วนเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ถือว่าค่อนข้างโอเค ไม่ผิดหวัง หลังจากที่เคยทดสอบเจ้า Zontes 350E, 350D กดท็อปสปีด”หน้าไมล์” ที่ 170 กม./ชม.(GPS เกือบ 160 กม./ชม.) จึงค่อนข้างวางใจในเรื่องของพละกำลังเครื่องยนต์รุ่นนี้ โดยในเรื่องอัตราเร่งช่วงออกตัวค่อนข้างโอเค บวกกับหน้าเบาตามสไตล์รถแอดเวนเจอร์ซึ่งนอกจากให้การออกตัวที่ดีแล้วสามารถแฮนเดอร์ริ่งค่อนข้างง่ายอีกด้วย โดยขับขี่ในเมืองได้ใช้โหมด Eco สำหรับการประหยัดน้ำมันที่ให้ฟีลลิ่งถึงความสมูทแต่ยังคงดุดันในแบบบิ๊กสกูตเตอร์ สำหรับช่วงทางฝุ่นปรับมาใช้โหมด Sport รู้สึกรอบมาไวขึ้นตั้งแต่บิดคันเร่งและแน่นอนขี่มันส์ ขี่สนุกเร้าใจเหมือนเดิม

ในเรื่องของความเร็วย่านปลายได้ลองใช้เล็กน้อยลากจากถนนเส้นราชพฤกษ์ – บรมราชชนนีกับความเร็วราว ๆ 140 – 150 กม./ชม. ให้เล่นบ้างพอชื่นใจ แต่ใจอยากกดท็อปสปีดแต่ช่วงเช้าวันธรรมดารถช่างเยอะเสียจริง จะโทษเขาก็ไม่ได้ อย่างไรให้ยูสเซอร์ไปลองกันก่อนได้เลย แล้วเอามาอวดให้ชมกันด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้จากความเร็วในรอบสูงบวกกับปะทะลมแบบจริง ๆ จัง จึงทำให้รู้ว่าระบบช่วงล่างหรือตัวโช้คยังคงมีอาการโหนแต่ไม่ถึงขั้นชกกลับ แต่อย่างไรตัวโช้คยังคงเป็นค่าเดิมจากโรงงาน สามารถปรับได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเอาที่สะดวกต่อผู้ขับขี่ ส่วนในรูทของทางฝุ่นตรงนี้ไม่มีปัญหา

เบรกดี..เอาอยู่ ทุกสภาพถนน

ระบบเบรก J.Juan 4 พอต ติดมาพร้อม ABS มีฟังก์ชันปลด ABS ล้อหลัง บวกกับระบบแทร็คชันคอนโทรลให้มาถือว่าเป็นสเปคค่อนข้างแน่นในคลาสเดียวกัน เบรกติดมือใช้งานค่อนข้างดี และในเรื่องยางที่ให้มาในลักษณะ Dual Purpose ก็ใช้งานได้ตามมาตรฐาน ไม่สุดไปทางใดทางหนึ่ง ก็ให้ลองพิจารณาลักษณะการใช้งานของผู้ขับขี่ว่าใช้งานแบบไหนมากกว่า

ข้อดี

  • มีแครชบาร์ การ์ดแฮนด์ ติดตั้งมาให้จากโรงงาน ไม่ต้องเสียตังเพิ่ม 
  • ถึงจะเป็นรถคลาสไซส์ 350 แต่ออกแบบในลักษณะมีความคล่องตัว 
  • มีโหมด Sport และ Eco ให้ใช้ตามพื้นฐานฟังก์ชันติดมาให้จากโรงงาน 
  • มีฟังก์ชันเลือกใช้งานมากมาย
  • ให้ล้อซี่ลวดมาจากโรงงาน
  • พักเท้าใหม่ ขี่ลุยสะดวกขึ้น ชอบมากก
  • ระบบเบรกให้มาดี ถึงเสียง ABS จะทำงานเสียงดังก็เถอะ
  • ช่องชาร์จไฟเยอะมาก

ข้อเสีย

  • เบาะสูงไปนิดบวกกับระยะความกว้างของตัวเบาะ 
  • สำหรับคนขายาว เวลานั่งขับขี่แบบทัวริ่งค่อนข้างติดเข่า ติดพนักพิงด้านหลัง ถ้าคุณเป็นคนขายาว แนะนำให้เปลี่ยนเบาะ
  • โช้คเดิมโรงงานให้ระยะยุบเยอะ เหมาะกับสายลุย เข้าป่า แต่ถ้าหากขี่เน้นทางดำแนะนำให้ setting โช้คใหม่ ในเหมาะกับการใช้งาน
  • ยางเดิมโรงงานให้มาเป็นสเปค ยางกึ่ง ที่ได้ทั้งทางดำและทางฝุ่น แต่ถ้าอยากไปสุด ก็ลองหายางที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ของตัวเองครับ

คะแนน

ดีไซน์ : 7.5 /10 ดีไซน์สวย โฉบเฉี่ยว กระชับ  พร้อมอุปกรณ์ติดตั้งมาให้จากโรงงานไม่ว่าจะเป็น แครชบาร์ การ์ดแฮนด์ 
ท่านั่งขับขี่ : 7/10 จะบอกว่านั่งสบายก็สบาย จะบอกว่าลำบากไหม ก็..ไม่ แค่รู้สึกว่าสูง (หรือฉันมันเตี้ย) ส่วนท่ายืนขี่ โอเคเยี่ยมเลย 
เครื่องยนต์ : 8/10 ด้วยพิกัดในคลาส 368 ซีซี กับแรงม้าเกือบ 40 ตัว แรงบิด 38 นิวตันเมตร ในราคาเทียบเท่ากับสกูตเตอร์คู่แข่งรุ่น 300-350 ซีซี ต้องลองพิสูจน์
ระบบช่วงล่าง : 7/10 ตัวโช้คให้ Performance ได้ดีในเส้นทางฝุ่น ยุบเยอะยุบดี แต่สายซิ่งอยากขี่รุ่นนี้ต้องปรับ ระบบเบรกให้มาแน่น ๆ ล้อซี่ลวดสวยงาม ยางให้มาแบบพอใช้ตามสเปค
ระบบฟีเจอร์ สิ่งอำนวยความสะดวก : 9/10 ให้เยอะเพราะอยากให้ (ไม่ใช่) ต้องบอกว่า นี่คือรถที่มีฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครันมากที่สุดในสกูตเตอร์รุ่นพิกัด 300-400 ซีซี มีออปชันการใช้งานครบครันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขับขี่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เรื่องนี้ต้องยอมขายซอนเทสจริง ๆ

สิ่งที่แนะนำเพิ่มเติม หากบอกว่าไม่มีไรต้องเพิ่มก็คงจะอวยเกินไป แต่ว่าแหล่ะรถขนขิง ขิงเต็มคันจริง ๆ กับราคา 1.8 แสนมีทอน กับสเปคระดับนี้ถือว่าที่ให้มาเกินแล้วจริง ๆ อาจจะมีเรื่องเดียวก็คงเป็นในเรื่องของการส่งมอบรถให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า อย่างว่ารถมันดี ยอดจองเยอะเป็นเรื่องธรรมดา

สรุป : 8/10
หากพูดง่าย ๆ นี่คือรถขนขิงที่มาพร้อมาสเปคแน่นที่สุดในคลาส มีลูกเล่นให้ใช้งานมากมาย ท่านั่งขับขี่สบายกว่าที่คิด ยิ่งขี่ลุยยิ่งสนุก เครื่องยนต์มีแรงม้าเกือบ 40 ตัว ถ้าไปต่อคงอัปเกรดเป็นบิ๊กสกูตเตอร์ไปแล้ว ขิงคู่แข่งได้ ช่วงล่าง เบรก ยาง ให้มาตามมาตรฐาน ในแบบสกูตเตอร์สายลุย หากใครที่ต้องการสกูตเตอร์สายลุยซักคันไว้ขับขี่ออกทริปหรือลุยป่าในพิกัด 350 ซีซี เจ้า 368G คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าใช้งานมากที่สุดกับราคาเพียง 182,800 บาท พร้อมกิ๊ฟวอชเชอร์มูลค่า 4,000 บาท (หากใช้ส่วนลดแล้วเหลือเพียง 178,800 บาท)

สีขิงทะเลทราย
(Ginger Desert Brown)
สีเทา (Light Grey)
สีดำ (Extra Black)

โดยจำหน่ายทั้งหมด 3 เฉดสีประกอบไปด้วย สีเทา (Light Grey), สีดำ (Extra Black), และสีขิง (Ginger Desert Brown) หากใครที่จองรถภายในงาน Motor Expo 2024 วันที่ 29 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2567 รับไปเลยกล้องหน้า-หลัง ติดตั้งมาให้จากโรงงานมูลค่า 6,000 บาท ฟรี!) หรือสนใจไปลองขับขี่ สามารถเข้าไปลองได้ที่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซอนเทสทุกสาขาทั่วประเท

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

NO COMMENTS

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Exit mobile version