Yamaha NMAX Turbo เปิดตัวแล้วที่อินโดนีเซีย

Yamaha NMAX Turbo เปิดตัวแล้วที่อินโดนีเซีย

เปิดตัวแล้วที่อินโดนีเซียกับ Yamaha NMAX Turbo หรือเจ้าเอ็นแม็กซ์โฉมใหม่นั้นเอง โดยมีปรับทั้งรูปโฉมภายนอก ไปจนถึงเครื่องยนต์และช่วงล่าง เพื่อให้โดดเด่นก้าวล้ำเหนือใคร และในอนาคตมันก็ต้องมาจำหน่ายในไทยด้วยแน่นอน เพราะงั้นนักบิดสายสกู๊ตเตอร์อย่างเรา ๆ ก็ต้องไปส่องดูกันให้รู้ว่ามีอะไรใหม่ อะไรเจ๋ง ให้ชัด ๆ กันไปเลย

โดยการเปิดตัวครั้งนี้ออกมาทีเดียวถึง 5 รุ่นย่อยด้วยกัน เรียงตามลำดับจากรุ่นท็อปสุดลงไปรุ่นธรรมดาสุด ดังนี้ Turbo Tech MAX Ultimate, Turbo Tech MAX, Turbo, Neo S และ Neo ซึ่งแน่นอนว่าราคาก็จะเรียงจากแพงไปหาถูกตามลำดับนี้ด้วยเช่นกัน

ดีไซน์ใหม่ยังคงมี DNA จากรถในตระกูล MAX อย่างเต็มเปี่ยม แต่มีความหรูหราพรีเมี่ยมมากขึ้น ด้วยไฟหน้าและไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่สุดโฉบเฉี่ยวและหรูหรา โดยเฉพาะไฟหน้า LED แบบโปรเจ็กเตอร์ใหม่ที่สว่างและคมชัดมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมีการดีไซน์ท่านั่งขับขี่ใหม่ให้ขับขี่ได้สบายมากขึ้นทั้งใกล้และไกลด้วยการเพิ่มพื้นที่วางขาให้มากขึ้น วางขาได้สบายมากขึ้น พร้อมเบาะนั่งแบบคอมฟอร์ตสำหรับในรุ่น Tech MAX

เครื่องยนต์เองก็เป็นเครื่องยนต์ใหม่คือเครื่องยนต์ Blue Core สูบเดียว 155 ซีซี 4 วาล์วต่อสูบ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVA สำหรับรุ่น Neo และ Neo ส่วนรุ่น Turbo จะมีระบบ YECVT หรือ Yamaha Electric CVT ที่ทางค่ายเคลมมาว่าจะให้คุณขับขี่ได้สนุกดุจรถติดเทอร์โบ โดยทางค่ายเคลมสเปกตัวเลขมากที่ 15.15 แรงม้าที่ 8,000 รอบ และแรงบิดที่ 14.2 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบ ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจากถังน้ำมันขนาด 7.1 ลิตร

ช่วงล่างของรถจะเป็นเฟรมแบบอันเดอร์โบน มีระบบกันสะเทือนด้านหน้าจะเป็นโช้คหน้าเทเลสโคปิก ด้านหลังจะเป็นโช้คคู่พร้อมซับแทงค์ร่วมกับยูนิตสวิงที่มีการเพิ่มระยะยุบอีก 5 ม.ม.เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวล และมีกันสะบัดในโมเดล Ultimate ระบบเบรกจะเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนล้อและยางจะมีขนาด 110/70 – 13 และ 130/70 – 13

สิ่งที่เด่น ๆ ในโมเดลใหม่นี้คือเจ้าระบบ YECVT นั้นก็จะมีในรุ่น Turbo ขึ้นไป ซึ่งจะทำให้มีระบบ Turbo Riding Mode หรือโหมดการขับเคลื่อน 2 โหมด คือ T Mode หรือ Town สำหรับขับขี่ใช้งานในเมือง และ S Mode หรือ Sport สำหรับขับขี่ที่ต้องการอัตราเร่งที่ดีขึ้นอย่างการขับขี่ทางไกล หรือเร่งแซง

เท่านั้นยังไม่พอยังมีระบบ Turbo Y-Shift ที่จะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับความแรงได้ 3 ระดับ ได้แก่ Low, Medium และ High ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ด้วยปุ่ม Y-Shift ที่ประกับด้านซ้าย

และหน้าจอสี TFT ที่มาพร้อมกับระบบนำทางผ่านแอ็พ Garmin Street Cross แบบเดียวกับพี่ชายที่ชื่อว่า XMAX Connected ที่จำหน่ายอยู่ในบ้านเราตอนนี้ (เฉพาะรุ่น Turbo Tech MAX ขึ้นไป) ส่วนระบบ Y-Connect จะมีให้ในโมเดล Turbo และ Neo ลงมา

ส่วนระบบความปลอดภัยก็จะมีระบบเบรก ABS 2 ชาแนล และแทร็คชันคอนโทรล ซึ่งทั้งสองระบบนี้จะมีในเฉพาะในรุ่น Turbo ขึ้นไป รุ่น Neo จะไม่มีมาให้ ส่วนฟังก์ชันอำนวยความสะดวกจะมีช่องจ่ายไฟสำหรับอุปกรณ์และแก็ดเจ็ตต่าง ๆ ช่องเก็บของใต้เบาะจุใจใหญ่ 25 ลิตร ระบบสมาร์ทคีย์ตั้งแต่รุ่น Neo S ขึ้นไป ระบบ Stop & Start System สำหรับประหยัดน้ำมัน

สุดท้ายนี้เรื่องของจำหน่าย (แปลงจากสกุลเงินริงกิตโดยยังไม่รวมภาษี) รุ่น Neo ราว ๆ 73,580 บาท รุ่น Neo S ราว ๆ 75,820 บาท รุ่น Turbo ราคา 84,970 บาท รุ่น Turbo Tech MAX ราคา 97,350 บาท และ Turbo Tech MAX Ultimate ราคา 101,860 บาท

ทีนี้เรื่องของการจำหน่ายในบ้านเราคาดว่าจะมีจำหน่ายในรุ่น Turbo ขึ้นไปเท่านั้น โดยราคาก็น่าจะไม่หนีไปจากนี้มากนัก โดยน่าจะบวกเพิ่มจากนี้อีกอย่างน้อยรุ่นละ 10,000 บาท แล้วเราก็จะได้ขี่ NMAX เริ่มต้นในราคาหลักแสนกันแล้ว

อ่านข่าวอื่นๆ จาก Yamaha คลิกที่นี่

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก