SuperBike พาบุกโรงงานผลิต Vespa ในเวียดนาม

SuperBike พาบุกโรงงานผลิต Vespa ในเวียดนาม เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมาผมได้รับเชิญให้บินลัดฟ้าไปเวียดนามเพื่อไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์  Vespa ในเวียดนามจากทาง เวสปิอาริโอ ประเทศไทย ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ Piaggio,  Aprilia และ Moto Guzzi แบรนด์ดังสัญชาติอิตาลีแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

เช้าวันที่ 12 กรกฎาคมเรานัดเจอกับทางทีมงานของ Vespiario ที่สนามบินเพื่อออกขึ้นเครื่องออกเดินทางไปยังฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งขึ้นชื่อลือนามกันมานานแล้วว่าเป็นประเทศที่มากไปด้วยมอเตอร์ไซค์จริงๆ ผมเองก็ยังไม่เคยมาสัมผัสด้วยตัวเองหรอกครับ ถึงสนามบินนอยใบ สนามบินในเมืองฮานอย ก็มาขึ้นลีมูซีนของทางโรงแรมที่ทาง Piaggio Group ประเทศเวียดนาม จัดแจงจองไว้ให้ ระหว่างนั่งรถเดินทางไปยังที่พัก เราก็ได้สัมผัสกับความวุ่นวายบนถนนทันทีที่เริ่มเข้าเขตเมือง เสียงดังปี๊นของแตรดังอยู่แทบจะทุก 30 วินาที แต่ก็ไม่ยักจะมีใครทำสีหน้าบึ้งตึงหรือโกรธเกรี้ยวเหมือนอย่างบ้านเราที่ได้ยินเสียงแตร แต่ก็นะบ้านเรากว่าจะได้ยินเสียงแตรก็ต้องถึงจุดๆ นึงจริงๆตารางกิจกรรมของวันแรกนี้พอเดินทางถึงที่พักแล้วเราก็จะมีเวลาเดินเล่นประมาณนึงก่อนที่จะได้ไปดินเนอร์อาหารแสนอร่อยที่ร้านอาหารแห่งนึง เสมือนเป็นการต้อนรับแขกผู้มีเกียรติหรือสื่ออย่างผม ในงานดินเนอร์ก็จะได้พบกับสื่อจากประเทศต่างๆ ในแทบเอเชียที่เป็นเป้าหมายทางการตลาดของทาง Vespa หลังจากจบมื้ออาหารใต้แสงตะเกียงเสร็จ เราพูดคุยกับเพื่อนๆ สื่อในไทยและเทศเล็กน้อยก่อนที่จะกลับที่พักเพื่อที่จะลุยโรงงานผลิต Vespa อย่างจริงจังตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 13 กรกฎาคม

รุ่งเช้าผมรีบตื่นแต่เช้าทำธุระส่วนตัวและรีบไปทานมื้อเช้าของโรงแรม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโปรแกรมหนักในวันนี้ เราขึ้นรถบัสพร้อมสื่อจากสำนักต่างๆ ทั้งไทยและเทศไปยังโรงงานผลิต Vespa ใช้เวลาไม่นานนักเราก็มาถึงโรงงานที่เป็นเป้าหมายหลักในครั้งนี้

มาถึงที่นี่เราก็ได้ฟังแนวคิดและที่มาที่ไปจาก มร.จิอานลูกา ฟิอูเม ประธานกรรมการและกรรมการทั่วไปประจำบริษัทพิอาจิโอ เวียดนาม พร้อมทั้งดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารบริษัทพิอาจิโอ เอเชีย แปซิฟิก สายงานกลุ่มธุรกิจสองล้อ (Mr. Gianluca Fiume as Chairman & General Director of Piaggio Vietnam cum Executive Vice President of Asia Pacific 2 Wheeler.) ว่าทำไมถึงมาตั้งโรงงานผลิตที่เวียดนาม เขามองว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือศูนย์กลางของวงการมอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่แค่ที่นี่มีคนใช้มอเตอร์ไซค์เยอะ แต่ยังมีศักยภาพที่เพียงพอ และเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องการกีดกันทางการค้าด้วยนโยบายกำแพงภาษี ซึ่งนั่นทำให้รถนำเข้าจากยุโรปมีราคาแพง นอกจากนี้แล้วก็ยังได้ฟังขั้นตอนการผลิตต่างๆ กว่าจะออกมาเป็นรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยม Vespa แต่ละคันได้ยังไง พร้อมกันนี้เรายังได้ฟังรายละเอียดเกี่ยวกับ New Vespa GTS 150 และ 300 อีกด้วย

จุดเด่นของ Vespa ในตระกูล GTS นั้นคือตัวถังเหล็กกล้าแบบเชื่อมกันเป็นชิ้นเดียว แข็งแรง ทนทาน เสริมความคลาสสิคด้วยไฟหน้าแบบกลมโต แต่ก็แอบแฝงความสปอร์ตด้วยเส้นสายลวดลายบนตัวรถ โดย New Vespa GTS 150 จะใช้เครื่องยนต์ใหม่หมดจด เป็นเครื่อง i-Get รุ่นใหม่แบบ 4 จังหวะ 4 วาล์ว 150 ซีซี แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ (Liquid cool) หายห่วงเรื่องอากาศร้อนบ้านเรา และเป็นครั้งแรกกับระบบ ABS 2 Channels ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ช่วยเสริมความปลอดภัย เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นอย่างยิ่ง สำหรับ New Vespa GTS 300 ก็จะโดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ Quasar 4 จังหวะ 4 วาล์วขนาด 300 ซีซี พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่ให้สมรรถนะที่ไว้ใจได้ เร่งแซงได้อารมณ์แบบสปอร์ต เหมาะกับทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวัน และขับขี่ท่องเที่ยวหรือทัวริ่งได้สบายๆ เช่นกัน ทั้ง 2 รุ่นยังมาพร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวก กุญแจรีโมทพร้อมระบบ Bike Finder หรือระบบค้นหารถ พอร์ต USB สำหรับชาร์จไฟอุปกรณ์ต่างๆ ไฟเดย์ไลท์ LED (LED Daytime Running Light) เป็นต้น

หลังจากฟังพรีเซนเทชั่นของทางทีมงาน Piaggio Vietnam แล้วเราก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ Mr. Gianluca Fiume กันแบบเจาะลึกเลยทั้งในเรื่องของการทำการตลาด เรื่องของสมรรถนะของ New Vespa GTS พวกเราได้คำตอบมาในรูปแบบที่เรียกว่าตอบคำถามได้ดีมากๆ จนพวกเราไม่รู้จะถามอะไรต่อ (เรียกได้ว่าทาง Vespa ทำการบ้านมาได้ดีมากๆ)

ต่อจากสัมภาษณ์เสร็จเราก็ได้มีโอกาสไปชมสมรรถนะของระบบฟังก์ชั่นเด่นๆ ของ News Vespa GTS ทั้ง 2 โมเดลกัน ทั้งเรื่องของระบบเบรค ABS และระบบ ASR หรือ Anti Slip Regulation (มีเฉพาะรุ่น GTS 300) หรือที่บ้านเรานิยมเรียกกันว่าแทร็คชั่นคอนโทรลนั่นเอง รวมไปถึงระบบระบบ Tilt Sensor ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์เพื่อความปลอดภัยที่จะดับเครื่องยนต์ทันทีที่รถเอียงมากกว่า 70 องศา หรือพูดง่ายๆ ว่าตอนเกิดอุบัติเหตุแล้วล้มนั่นเอง โดยทั้ง 3 ระบบนี้มีการสาธิตการใช้งานและการทำงานของมันจริงๆ เลยครับ ทุกคนที่ได้เห็นเป็นอันต้องร้องว้าว โดยเฉพาะกับระบบเบรค ABS ที่ช่วยลดระยะเบรคได้อย่างมากแม้ว่าถนนจะเปียกน้ำ และที่สำคัญคือช่วยให้รถนั้นเสถียร ไม่มีการเสียอาการ ทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างดีเลย และนั่นก็เป็นเพียงส่วนนึงที่ทาง Vespa นำเสนอ ยังมีฟังก์ชั่นอีกมากมายที่มาพร้อมกับ New Vespa GTS หลังจากจบการสาธิตแล้ว ผมก็ได้มีโอกาสไปทดลองขับขี่จริงๆ ในสนามทดสอบที่ตั้งอยู่ในโรงงานนั่นแหละครับ ผมได้ลองขี่เจ้า Vespa GTS 300 บอกได้เลยว่า ของเขาดีจริงๆ แม้ผมจะได้ลองขับขี่เป็นเวลาสั้นๆ ผมก็รู้สึกได้ว่าตัวรถนั้นมีกำลังเครื่องยนต์ที่ดีเลยทีเดียว สามารถเข้าโค้งทำองศาได้ค่อนข้างมาก และมั่นใจกับการยึดเกาะ ระบบเบรคเองก็ทำงานได้ดีทีเดียว ส่วนเรื่องช่วงล่างนั้นเนียนจริงๆ ครับ

ปิดท้ายด้วยการเดินชมโรงงาน Vespa พร้อมกับทีมงานของ Piaggio Vietnam เป็นคนพาชมและอธิบายถึงขบวนการต่างๆ ตั้งแต่ เชื่อมตัวถัง กระบวนการคาตาฟอเรซีส (cataphoresis) เพื่อชุบสีให้ติดกับเหล็กตัวถัง พ่นสีชิ้นส่วน ประกอบ และปิดท้ายด้วยการทดสอบการทำงานของเครื่องยนต์และระบบต่างๆ ซึ่งตลอดทางที่เดินชมไลน์ผลิตของแต่ละกระบวนการนั้นก็จะมีการอธิบายให้เข้าใจในแต่ละขั้นตอน และยังได้ทราบถึงความละเอียดและใส่ใจ ในหลายๆ ขั้นตอนนั้นมีการทำงานโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นหลักเพื่อให้ได้มาตรฐานแบบเป๊ะๆ เช่น การผสมสี การขันน็อตแต่ละตัวซึ่งต้องใช้เครื่องแสกนบาร์โค้ดแล้วสกรูไฟฟ้าก็จะอ่านค่าที่ได้จากบาร์โค้ดและขันให้ได้แรงตึงของน็อตแต่ละตัวตามสเป็กที่กำหนดไว้ เป็นต้น นอกจากนี้ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นจะมีบาร์โค้ดเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบเวลาเกิดปัญหา ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดนี่ไม่ได้แตกต่างไปจากโรงงานผลิตที่อิตาลีเลย พูดง่ายๆ คือมาตรฐานเดียวกัน เหมือนยกโรงงานจากอิตาลีมาไว้ที่นี่ก็ไม่ผิดนัก ผมเองที่ได้เดินดูขั้นตอนต่างๆ ผมก็พอเข้าใจแล้วล่ะครับว่าทำไม Vespa ถึงเป็นพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์

หลังจากชมโรงงานเสร็จเราก็ทานมื้อกลางวันกันเสียก่อนที่จะเดินทางไปที่สนามบินพร้อมขึ้นเครื่องเดินทางกลับไทยครับ งานนี้ต้องขอขอบพระคุณทาง เวสปิอาริโอ ประเทศไทย ที่ได้ให้โอกาสผมและทีมงานได้เดินทางไปยังประเทศเวียดนามเพื่อเยี่ยมชมและทดลองขับขี่ New Vespa GTS ในครั้งนี้ด้วยนะครับ

อ่านข่าวสารเพิ่มเติม คลิกทีนี้