Home สัมภาษณ์ Passion In Riding

Passion In Riding

0

วันนี้พวกเรา SuperBike Magazine พาทุกท่านมาพบกับผู้ชายคนหนึ่งที่เรียกได้ว่ารักและหลงใหลในมอเตอร์ไซค์ชนิดที่เรียกได้ว่าโงหัวไม่ขึ้นเลยก็ว่าได้ เราจะพาไปรู้จักถึงจุดเริ่มต้นในการสะสมรถของชายคนนี้กันครับ

คุณ ตอง ชายที่เป็นเจ้าของรถทั้ง 5 คันได้เล่าให้กับเราฟังว่า ตังเขานั้นชอบและหลงใหลในมอเตอร์สปอร์ตมาตั้งแต่เด็ก เพราะทางครอบครัวรวมถึงคนใกล้ชิดของคุณตองนั้นมีความเกี่ยวข้องกับความเร็วหลายต่อหลายคน และหนึ่งในนั้นก็มีคุณน้าท่านหนึ่งที่ชื่นชอบการขี่มอเตอร์ไซค์เป็นอย่างมาก เมื่อก่อนเวลาครอบครัวเราไปเที่ยวต่างจังหวัด คุณอาจะให้คนอื่นๆ ออกเดินทางด้วยรถยนต์ไปก่อน แล้วตัวคุณอาจะออกตามมาทีหลังเสมอ ซึ่งระหว่างทางผมก็จะเห็นคุณอาขี่รถแซงพวกเราไปทุกครั้ง เลยมีความรู้สึกว่า เฮ้ย ทำไมมันเร็วกว่ารถยนต์ พอโตขึ้นมา อายุราวๆ 16 ตอนนั้นผมได้เงินมาจากที่บ้านก้อนนึง เพราะว่าสอบเข้าม.ปลายติดโรงเรียนที่ทางบ้านอยากให้เข้า คุณย่าเลยให้เงินมาก้อนนึงราวๆ 30,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นเงินเก็บก้อนแรกที่ได้มา ผมก็เอาเงินก้อนนี้ไปซื้อ Honda CBR250R ปี 90 มือสองมา ซึ่งตอนนั้นผมให้น้องชายเป็นคนขี่กลับให้ ส่วนตัวผมเองนั่งรถเมล์ตามกลับ ตอนนั้นก็คิดว่าตัวมีบิ๊กไบค์แล้ว เราจะได้ขี่มันจริงๆ แล้ว เป็นความรู้สึกดีใจสุดๆ พอนั่งรถมาถึงแถวๆ หน้าม.เกษตร ก็เห็นรถคันนึงสีเหลืองจอดอยู่ข้างถนน พอรถเมล์วิ่งผ่านปรากฏว่านี่คือรถคันที่เราพึ่งไปซื้อมาเมื่อกี้เลยนี่ ก็เลยรีบลงรถเมล์แล้ววิ่งไปถามว่ารถเป็นอะไร น้องก็บอกว่าขี่มาดีๆ รถก็ดับ ซึ่ง พอช่างเช็คดูปรากฏว่าชาฟต์ละลายครับ ก็ทนฝืนขี่ทั้งๆ ที่ชาฟต์ละลายเพราะไม่มีเงินซ่อมมันแล้ว ก็ใช้ได้อยู่ราวๆ 3 เดือนรถก็พังแบบสตาร์ทไม่ติด สุดท้ายก็ยอมขายขาดทุน เรียกได้ว่าตอนนั้นเสียความรู้สึกสุดๆ เลย

หลังจากขายรถเจ้าปัญหาได้แล้ว ช่วงนั้นก็เริ่มทำงานพิเศษเก็บเงินเพื่อจะนำไปซื้อมอเตอร์ไซค์อีกครั้งนึง ผมทำงานหลาอย่างมากครับช่วงนั้น ทั้งเด็กปั๊ม พนักงานขายของในห้างสรรพสินค้า พอขึ้น ม.5 ก็ซื้อ Honda NSR250 มาขี่ ซึ่งถือว่าเป็นรถบิ๊กไบค์คันแรกที่ผมได้ขี่ออกถนนใหญ่จริงๆ และได้เริ่มเข้ากลุ่ม Strom Rider เปิดโลกกว้างให้กับผมได้รู้จักกับพี่ๆ เพื่อนๆ ในวงการอีกหลายท่าน

หลังจากขี่คันนี้ได้พักใหญ่ๆ ก็ตัดสินใจเปลี่ยนรถ ซึ่งตอนนั้นผมเปลี่ยนรถหลายคันมาก ถึง Honda CB400,  Yamaha XJR400 แล้วก็มีโอกาสได้ซื้อ BMW R 1100 S ตอนปี 2004 ตอนนั้นก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมกลุ่ม Devil ซึ่งก็ได้เจอเพื่อนๆ พี่ๆ หลายคนมากๆครับ แต่ว่าสมาชิกในกลุ่มส่วนมากจะเป็นผู้ใหญ่ เราเลยจับกลุ่มวัยรุ่นเล็กๆขึ้นมาชื่อว่า “แว๊นซ์ ซิ่ง” ซึ่งสมาชิกตอนนั้นก็มี Benz Racing, พี่ชัย Racing Spec, พี่เขต SuperBike, อิม Ego Shop, เมฆ BigWheel และอีกหลายๆ คน ซึ่งพวกเรามักจะออกขี่รถยามค่ำคืนกันเป็นประจำ สมัยนั้นสังคมบิ๊กไบค์น่ารักและอบอุ่นกว่าตอนนี้เยอะมากครับ คุณจะเชื่อไหมครับว่า แค่หนึ่งไฟแดงเราสามารถได้เพื่อนใหม่ได้ เวลาแค่เพียง 120 วินาทีที่ติดไฟแดง เรามักจะทักทายพูดคุยกับเพื่อนๆ ชาวไบค์เกอร์ คุยกันถูกคอออกรสออกชาติ บางทียังมีชวนจอดที่ปั๊มข้างหน้าเพื่อพูดคุยกันต่อก็มีครับ เสน่ห์ของบิ๊กไบค์สำหรับผมนั้นคือความอิสระ เราจะเป็นใครก็ได้เมื่อเราอยู่บนมอเตอร์ไซค์ ได้เจอเพื่อน ได้สังคม ได้สนุก

Honda NSR250

มาพูดถึงรถกันบ้างดีกว่า เริ่มกันด้วยรถคันที่ผมรักและชอบที่สุดนั้นก็คือ Honda NSR250 เพราะมันเป็นรถรุ่นแรกที่ผมได้ขี่ออกถนนใหญ่ เป็นรถรุ่นแรกที่ทำให้ผมได้เจอเพื่อนๆ ได้เปิดโลกกว้างให้กับผม ผมมีความหลังค่อนข้างเยอะกับรถรุ่นนี้ แล้วรถรุ่นนี้ก็ยังคล้ายกับรถที่ Michael Doohan ใช้แข่งอีกด้วย ผมใช้เวลาควานหา NSR250 ที่ถูกใจ สภาพดี และราคาที่ตรงใจอยู่ถึง 7 ปี โชคดีที่ตอนนั้นผมได้ข่าวว่า อาตู่ พรเทพ ลายเบญจรงค์ จะขายรถ NSR250 พอได้ข่าวผมเดินทางไปหาอาตู่คืนนั้นเลย พอเจอกันผมถามเลยสั้นๆว่าขายเท่าไหร่ พออาตู่บอกราคามาผมไม่คิดมากครับจ่ายเงินเลย พอได้รถมาผมก็ให้พี่ชัย ทวีชัย แซ่โง้ว อดีตนักแข่งที่เคยใช้ NSR รื้อรถทั้งคันแล้วก็ประกอบใหม่ทั้งคัน โดยเบิกอะไหล่ใหม่เกือบทุกชิ้น ซึ่งคันนี้ผมใช้งบประมาณไปพอสมควร โดยผมอยากให้รถคันนี้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งตัวผมเองหวงรถคันนี้มาก มีคนที่ได้ขี่รถคันนี้รวมตัวผมไม่เกิน 5 คนเท่านั้น

KTM SX450

มาต่อกันด้วย KTM SX450 คันนี้เจ้าของแรกคือ พี่โอ๋ มิสทีน ต่อมาก็ได้ขายต่อให้เพื่อนสนิท และต่อมาก็ขายต่อให้พี่บอย เบอร์ 59 แล้วก็ตกมาอยู่ในมือของพี่ดา ซึ่งเวลามีงานแข่งผมก็จะเห็นรถคันนี้อยู่ในสนามเสมอๆ แล้วก็มักจะได้ถ้วยกลับบ้านเป็นประจำ ผมเลยติดต่อขอซื้อรถคันนี้มาจากพี่ดา ซึ่งผมได้ของแต่งติดมาด้วยหลายชิ้น และทุกชิ้นต้องเรียกได้ว่าหายากมากๆ เลยครับ ซึ่งผมได้เปลี่ยนเอาเครื่องของตัว SM มาวางแทน เพราะได้ 6 เกียร์รวมถึงความเร็วปลายที่ดีกว่าเครื่อง SX ซึ่งเป็นเครื่องโมโตครอส

Honda NC30

คันต่อมาคือ Honda NC30 ครับ คันนี้ผมได้มาจากพี่ชายที่ผมรักมาก และเขาก็รักในรถ NC30 มาก มากขนาดที่ขี่ NC30 มาร่วม 10 ปี โดยที่ไม่ยอมซื้อรถรุ่นอื่นใช้เลย คันนี้เป็นรถมือเดียว 20 กว่าปีไม่เคยล้มแรง ไม่เคยชนหนัก สีเดิมทั้งคัน โดยพี่ชายขายให้ผมในราคา 50,000 บาทเท่านั้น ซึ่งตอนหลังผมมารู้ทีหลังว่ารถคันนี้ตอนแรกพี่ชายผมนั้นซื้อมาในราคา 120,000 บาท แต่เขาพอใจที่จะขายราคานี้ให้กับผม เพียงเพราะว่าเขาอยากให้ผมมี NC30 เก็บไว้สักคัน เพราะมันเป็นสิ่งที่เขารัก สิ่งที่เขาหลงใหล ผมเลยให้สัญญาไว้ว่ารถคันนี้จะดูแลให้ดีที่สุด แล้วก็จะไม่โอนหรือเปลี่ยนชื่อไปให้ใครครับ

Aprilia RSV4

มาต่อกันที่ Aprilia RSV4 ครับ อยากที่กล่าวมาว่าเมื่อก่อนผมเปลี่ยนรถค่อนข้างบ่อย ช่วงหลังปี 2003 ผมเปลี่ยนรถแทบทุกปี  Suzuki ตระกูล GSX นี่ผ่านมือหลายคันมาก K1, K3, K5, K6, K7, K9 ยัน L1 รวมถึง Hayabusa หรือจะเป็น Kawasaki ZX-10R, Yamaha YZF-R1 ซึ่งพอได้เปลี่ยนมาเรื่อยมันทำให้เราได้รู้ถึงความแตกต่างของรถแต่ละรุ่น ได้จับอาการรถแต่ละคัน จนถึงปี 2013 ก็ได้มีโอกาสสั่งรถมาให้พี่ชายคันนึง เป็น Aprilia RSV4 Max Biaggi Replica ที่มีแค่ 5 คันในไทย แล้วผมก็ได้มีโอกาสขี่ ซึ่งพอได้ขี่ครั้งแรกผมก็รู้สึกว่า รถคันนี้มันควบคุมได้ง่ายมาก ตอนนั้นได้เอาไปขี่ที่เส้นเกษตร-นวมินทร์ ตอนนั้นมีน้องขี่ Yamaha T-max ตาม ตอนนั้นก็อยากลองครับว่ารถคันนี้มีอะไรดี ก็วิ่งมาด้วยความเร็วพอสมควร แล้วก็พับเข้าโค้งไปโดยที่ไม่ได้จัดท่าทางแต่อย่างใด ซึ่งน้องที่ตามมาด้วยก็บอกว่าที่ทิ้งโค้งไปเมื่อกี้อีกแค่นิดเดียวพักเท้าจะขูดพื้นแล้วนะ แต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกว่าตัวรถนั้นเอียงหรือน่าหวาดเสียวเลย ผมรู้สึกว่ารถมันเลี้ยวง่ายจัง ขี่สนุกดี ซึ่งต่อมาเวลาจะออกทริป ผมกับพี่ชายก็จะคอยแย่งกันขี่รถคันนี้อยู่เสมอๆ จนสุดท้ายพี่ชายก็ได้สั่ง RSV4 เข้ามา 2 คัน ซึ่งหนึ่งในสองคันนั้นก็คือคันที่จอดอยู่นี่เอง ซึ่งรถคันนี้ผมคิดว่ามันจะเป็น Last SuperBike สำหรับผมแล้ว

Aprilia SR50

คันสุดท้ายก็คือ สกู๊ตเตอร์ Aprilia หรือเจ้า Aprilia SR50 ครับ ตัวผมเองชอบใน Aprilia แล้วก็ชอบ Max Biaggi มากเช่นกัน ซึ่งเวลามีการแข่งขันในสนามต่างๆ ผมจะเห็น Max Biaggi ขี่สกู๊ตเตอร์ในบริเวณหลังพิทอยู่บ่อยๆ ซึ่งนั้นก็คือ Aprilia SR50 ซึ่งผมเองก็อยากได้มาเก็บไว้สักคันนึง โดยรถคันนี้ผมได้มาจากญี่ปุ่นครับ พร้อมท่อแต่งของ Leovince เลย

สุดท้ายนี้ผมก็อยากฝากถึงน้องๆ ที่กำลังจะเริ่มต้นขับขี่บิ๊กไบค์ครับว่า อยากให้น้องๆ ทุกคนนั้นขับขี่อย่างมีสติและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับผู้ใช้รถคนอื่นๆ แล้วก็อยากให้การแบ่งแยกซีซี ทุกคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ผมถือว่าเป็นไบค์เกอร์หมด อยากให้ทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกันครับ

ขอขอบคุณ ร้าน Pre wash ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายทำในครั้งนี้

NO COMMENTS

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Exit mobile version