Home รีวิวและทดสอบ HYPER BEAST – เน็กเก็ตพันธุ์แรงขั้นสุด

HYPER BEAST – เน็กเก็ตพันธุ์แรงขั้นสุด

0

       กลับมาอีกครั้งแล้วกับอสูรร้ายสีส้ม KTM 1290 Super Duke R ครั้งนี้แม้จะยังใช้ชื่อเดิม รหัสเดิม แต่ขอบอกเลยว่ามีอะไรไม่เหมือนเดิมแน่นอน โมเดลก่อนหน้านี้แน่นอนว่าเราก็ได้ทดสอบความดุดันเหี้ยมโหดของมันมาแล้ว และครั้งนี้โมเดลใหม่ เราก็ไม่พลาดที่จะทำการทดสอบมันอีกครั้ง เพื่อให้ได้รู้กันว่ามันเจ๋งกว่าเดิมแค่ไหนกับอสูรร้ายโฉมใหม่นี้

                   Words: TK Racing           Edit: Benz                      Pics: Nicky

แน่นอนว่าเราก่อนที่จะไปเปรียบเทียบกับคันอื่น หรือเริ่มทดสอบอะไร ยังไงก็ต้องเปรียบเทียบให้เห็นกับความต่างกับโมเดลที่แล้วก่อนนั่นเอง KTM 1290 Super Duke R นั้นเป็นเน็กเก็ตไบค์เรือธงของทางค่าย เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 และก็ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดไฮเปอร์เน็กเก็ตไบค์ตั้งแต่ตอนนั้นกันเลย ด้วยพละกำลัง ความเกรี้ยวกราด และความดุดันของมัน ตลอดไปถึงเทคโนโลยีล้ำๆ ตามแบบของ KTM ที่มีคอนเซ็ปต์หลักกับคำว่า Ready to race จนมาถึงโมเดลนี้ที่ไอ้อัพเดตล่าสุดในปี 2017 ก็ยังไม่วายจะแรงกว่าเดิมอีก แต่นั่นเป็นเพียงส่วนนึงเท่านั้น สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอัพเดตอัพเกรดนั้นมีอีกหลายอย่างเลย เริ่มแรกก็รูปลักษณ์หน้าตาโฉมใหม่ที่โดดเด่นเห็นได้ชัดเป็นจุดแรกเลยคือ ไฟหน้า LED ใหม่ ดีไซน์นี้นำมาใช้กับรถในตระกูล Duke หรือเน็กเก็ตทุกคันของ KTM เลย และยังมีรูปแบบของไฟ LED ไปเหมือนกับรถในตระกูลแอดเวนเจอร์ไบค์ของทาง KTM อีกด้วย นอกจากเรื่องของไฟหน้าแล้วยังมีในส่วนของเรือนไมล์สี TFT ที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ดูดีสมราคามากกว่าเดิม โดยเรือนไมล์ใหม่นั้นดูดีและให้ความรู้สึกดีมากๆ ยังมีลูกเล่นอย่างไฟแบ็คไลท์ที่สวิตช์ต่างๆ ที่แฮนด์บาร์ช่วยส่องสว่างในตอนกลางคืนอีกด้วย ซึ่งทำให้ KTM เป็นผู้นำในเรื่องนี้เลย เรื่องการเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใส่ในรถเนี่ย



แต่ที่สลักสำคัญและคุณควรจะต้องใส่ใจก็คือมากที่สุดก็คือเครื่องยนต์วีทวินขนาด 1,301 ซีซีซึ่งมีการปรับปรุงใหม่ โดยมีการปรับปรุงฝากระบอกสูบและอินเทคใหม่ ทำให้ได้แรงม้าเคลมมากขึ้นเป็น 177 แรงม้า นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเทคโนโลยีเทพๆ อย่างระบบเบรค Cornering ABS จาก Bosch เข้ามาพร้อมๆ กับอาศัยเซ็นเซอร์ IMU ช่วยในการควบคุมการทำงานสั่งงานของแทร็คชั่นคอนโทรล ทว่านั่นยังไม่หมดสำหรับลิสต์รายการการเปลี่ยนแปลง เราจะลงลึกไปอีก แต่ผมจะขอไปสรุปให้ดูในกรอบแยกต่างหากนะครับ แต่ก็จะมีการพูดถึงเป็นจุดๆ ไปในเนื้อหาด้วย

ลองขี่

            KTM 1290 Super Duke R ที่เราเคยทดสอบมา หรือโมเดลเก่านั้นก็เป็นรถซูเปอร์เน็กเก็ตหรือไฮเปอร์เน็กเก็ตที่ดุดันที่สุดในตอนนั้น และโมเดลใหม่นี้เองก็ดุดัน เกรี้ยวกราด เช่นเคย แต่เปลี่ยนไปในทางที่ควบคุมได้มากขึ้น แรงม้าและแรงบิดอันมหาศาลของมันแม้จะมากขึ้นกว่าแต่ก่อนก็ตาม แต่ก็มีการกระจายช่วงของกำลังเครื่องยนต์ที่ดีมากขึ้นในทุกช่วงรอบ ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายมากยิ่งขึ้น รอบต่ำๆ ส่งกำลังได้สมู้ทมากยิ่งขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะทำให้มันไม่แรงนะ แต่มันแรงในแบบที่เราสั่งได้ ควบคุมได้ ไม่ใช่แรงแบบกระโชกโฮกฮากจนแบบเราเอาไม่อยู่ ซึ่งในโมเดลเก่านั้นแรงแบบกระโชกโฮกฮากเลย ดังนั้นโมเดลนี้ไม่ต้องเป็นมือเก๋าก็พอจะพะบู๊กับมันได้ ไม่ต้องกังวล การตอบสนองของเครื่องยนต์ถือว่าทำได้ดี อาจจะเป็นเพราะด้วยแรงบิดอันมหาศาล ทำให้เปิดเป็นมา ไม่ต้องรอไม่มีหน่วง การทดสอบบนไดโนนั้นเรียกได้ว่าไปกันจนสุดข้อตกลงลูกผู้ชาย วิ่งกันจนสุด 300 แต่ขี่ถนนจริงๆ ผมว่ายืนพื้นสัก 200 กม./ชม.ก็กำลังดี ด้วยความที่เจ้า Super Duke R นั้นเป็นเน็กเก็ตไบค์ ไม่มีแฟริ่งหรือชิลด์หน้า ทำให้เราปะทะกับลมเต็มๆ ซึ่งจะมีผลมากเวลาขับขี่ที่ความเร็วสูงและเดินทางไกลๆ เป็นเวลานานๆ มันจะทำให้เราล้าได้


ช่วงล่างที่เดิมทีเคยอ่อนย้วยไปบ้างใน Super Duke โมเดลเก่านั้นถูกปรับเปลี่ยนให้มีความแข็งมากขึ้นผ่านทางสปริงโช้ค และโช้คที่ให้มาก็เป็นของ WP เองก็เป็นระบบกันสะเทือนที่ดีเลย ตอบสนองได้ดี สปริงโช้คที่แข็งขึ้นก็ช่วยให้รถรักษาอาการ นิ่งมากขึ้น เวลาเร่งหรือเบรคหนักๆ รถก็ไม่เสียอาการหรือว่ายวบย้วยในแบบเดิมอีกต่อไป เรียกว่า KTM ทำการบ้านมาดี

อย่างไรก็ดีหากคุณนำมาขี่ในเมือง บอกเลยว่าสบายๆ เจ้า KTM 1290 Super Duke R คันนี้หากคุณแค่ได้ลองคร่อมแล้วคุณจะต้องทึ่ง ด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งของเบาะนั่ง มันช่วยให้ขาคุณถึงพื้นได้โดยง่าย แม้คุณจะตัวไม่สูง เบาะที่เว้าลงไปช่วยให้คุณมีท่านั่งแบบนั่งควบ ไม่ใช่นั่งบน ซึ่งช่วยให้คุณควบคุมรถได้ดี นอกจากนี้มิติของมันยังทำให้คุณไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือซูเปอร์เน็กเก็ตที่มีเครื่องยนต์ใหญ่โตถึง 1,301 ซีซี มิติรถนั้นเพรียวบาง กระชับสั้น ผิดกับเน็กเก็ตไบค์ในคลาสเดียวกัน อีกทั้งตัวรถยังมีน้ำหนักที่เบามากๆ เบากว่าคันอื่นๆ ในคลาสเดียวกันอีกด้วย ทั้งหมดนี้มีประโยชน์มากเวลาขี่ในเมือง ถนนที่คับคั่งไปด้วยรถรา มันช่วยให้เราพลิกรถซอกแซกไปมาได้อย่างไม่เคอะเขินเลย มันคล่องตัวมากๆ เหมาะกับการขับขี่ในเมือง เรียกได้ว่าตอบโจทย์การเป็นรถเน็กเก็ตสตรีทได้ดีเลยทีเดียว

            วันที่เรานำรถมาทดสอบ โชคไม่ค่อยช่วยเราเท่าไหร่ เนื่องจากมีสายฝนโปรยปรายลงมา (ก็หน้าฝนนี่นา) แต่เราก็ต้องเดินหน้าทดสอบเจ้า KTM 1290 Super Duke R กันต่อ เราเทสต์กันแม้จะมีสายฝนลงมา แต่นั่นก็เป็นเหมือนโชคอย่างนึงให้เราได้ทดสอบแทร็คชั่นคอนโทรลของมันบนถนนเปียกๆ แทร็คเปียกๆ เราก็พบว่าแทร็คชั่นคอนโทรลนั้นช่วยเราได้มากเลยทีเดียว สามารถขี่ในฝนได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวเลย แทร็คชั่นคอนโทรลนั้นช่วยให้กำลังเครื่องยนต์ที่ออกมานั้นสมู้ทต่อเนื่อง ทำให้รถและยางรักษากริพหรือการยึดเกาะเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ทำให้รถไม่มีอาการ ระบบเบรคเองก็ทำงานได้ดีมากจริงๆ โดยเฉพาะ Cornering ABS ที่ให้มานั่นช่วยเสริมความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี แม้จะเบรคในโค้งก็ไม่มีปัญหา ถือว่าเป็นอะไรที่เหนือกว่าหลายๆ ค่ายเลยล่ะครับ

รวบรัด

มาถึงช่วงสำคัญคือช่วงสรุปความเห็นที่มีให้กับเจ้า KTM 1290 Super Duke R คันใหม่นี้ เรื่องหน้าตาการดีไซน์ผมถือว่ายังทำได้ดี โดดเด่น มีสไตล์และกลิ่นอายในความเป็น KTM อย่างเต็มที่ เฟรมถักสีส้ม ซับเฟรมสีขาว ล้อสีส้ม ทั้งหมดนี้คือสีที่ขับเน้นความเป็น KTM คงความดุดัน ความโฉบเฉี่ยว และความโมเดิร์นไว้ได้ดี เรื่องหน้าตาต้องยอมรับว่าจัดดีเด่น สมรรถนะของเครื่องยนต์นั้นดียิ่งขึ้น แต่ไม่ใช่แค่ดีขึ้น มันมาในแบบที่เรียกว่าควบคุมได้ดีขึ้นง่ายขึ้น ใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น มีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นจากระบบอิเล็กทรอนิกส์ล้ำๆ ที่ใส่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นครูซคอนโทรล ระบบยกเลิกไฟเลี้ยวอัตโนมัติซึ่งเพิ่มเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวก ฟังก์ชั่นความปลอดภัยอย่างแทร็คชั่นคอนโทรล ระบบเบรคแบบ Cornering ABS เองก็เสริมเพิ่มความปลอดภัยได้ดี โหมดการขับขี่ก็มีพร้อมช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้เข้ากับสไตล์อย่างที่คุณเป็นได้อย่างลงตัว หรือจะปรับตามสภาพถนนหรืออากาศก็ได้ ประยุกต์ใช้กันได้ไม่ยาก ระบบพวกนี้เองก็ปรับปรุงแล้วเช่นกัน จำค่าเดิมได้ไม่ต้องมาปรับเซ็ตใหม่ทุกคันที่ดับเครื่อง ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี มิติรถที่เล็กและเบาก็มีผลต่อการขับขี่การควบคุมอย่างมาก ช่วยให้รถขี่ง่ายยิ่งขึ้น ซอกแซกง่ายเหมาะกับการใช้งานเป็นสตรีทไบค์ที่ขี่ไปกลับทำงานได้ หรืออยากจะเปรี้ยวไปขี่ในแทร็กก็ทำได้ไม่เคอะเขิน สุดท้ายออกทริปเดินทางก็ทำได้ไม่ขี้เหร่อีกด้วย เอาเป็นว่าขอทิ้งท้ายสั้นๆ ว่า KTM 1290 Super Duke R คือเน็กเก็ตไบค์ที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้วครับ


ลิสต์การเปลี่ยนแปลงอัพเดตของ KTM 1290 Super Duke R

ปากแตรหรือทางเข้าแอร์อินเทคสั้นลง 10 มม.เพื่อเพิ่มแรงม้าและกระจายแรงม้าที่ใช้ได้จริงในทุกย่าน
– หม้อพักอากาศใหม่บนฝาสูบเพื่อให้เครื่องยนต์ส่งกำลังได้สมู้ทขึ้นที่รอบต่ำๆ
– อัตราส่วนการอัดสูงขึ้นเป็น 13.6:1 จากออกแบบลิ้นไอดีไทเทเนียมแบบแฟล็ตเคลือบโครเมียมไนไตรด์
– โช้คหน้าหัวกลับขนาด 48 มม.ของ WP ที่สามารถปรับแดมปิ้งได้อิสระ ซึ่งมีสปริงที่แข็งขึ้น
– โช้คหลัง WP พร้อมกับสปริงที่แข็งขึ้นเพื่อเพิ่มความบาลานซ์
– ยาง Metzeler M7 RR ยางซูเปอร์สปอร์ตที่ให้ความหนึบและการควบคุมที่ดี
– ระบบ MSC หรือระบบช่วยควบคุมความสมดุล พร้อม Cornering ABS ของ Bosch กับโหมดใหม่อย่าง Supermoto
– มีชุดแต่งเสริม Performance Pack ที่จะมีระบบ MSR ป้องกันเครื่องยนต์ดับ ควิกชิฟเตอร์ 2 ทาง และ KTM MY RIDE ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ของรถหรือสั่งงานต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
– ชุดแต่งเสริม Track Pack ที่จะมีการเพิ่มโหมด Track โหมดสำหรับซิ่งสนามที่จะช่วยให้ปิดโหมดกันยก ปรับแต่งแทร็คชั่นคอนโทรลและโหมดช่วยออกตัว
– ครูซคอนโทรลสำหรับเดินทางไกล
– ระบบคีย์เลส เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยยิ่งขึ้น

KTM 1290 SUPER DUKE R

Rating

Engine 10
Handling 9
Brake 9
Track 8
Cruise 7
Urban 9
Newbies 8
Advance 9
Appearance 10
Value 9
Total 88


Specifications

เครื่องยนต์ 2 สูบวี 75 องศา ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,301 ซีซี
ระบบวาล์ว 4 วาล์วต่อสูบ
ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก 108.0 X 79.3 มม.
อัตราส่วนการอัด 13.6:1
แรงม้า ทดสอบจริง  
แรงบิด ทดสอบจริง  
ระบบเกียร์ 6 สปีด
ระบบจุดระเบิด อิเล็กทรอนิกส์
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีด
ระบบสตาร์ท สตาร์ทไฟฟ้า
ระบบคลัทช์ คลัทช์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกันและสลิปเปอร์คลัทช์
ยาว X กว้าง X สูง NA
ขนาดยางหน้า 120/70 – ZR17 Metzeler M7RR
ขนาดยางหลัง 190/55 – ZR17 Metzeler M7RR
ระบบกันสะเทือนหน้า โช้คหัวกลับ WP ขนาด 48 มม.ปรับพรีโหลด รีบาวด์และคอมเพรสชั่นแดมปิ้งได้ ระยะยุบ 125 มม.
ระบบกันสะเทือนหลัง สวิงอาร์มและโช้คเดี่ยว WP ปรับพรีโหลด รีบาวด์และคอมเพรสชั่นแดมปิ้งได้ ระยะยุบ 156 มม.
เบรคหน้า ดิสก์เบรคคู่ขนาด 320 มม. คาลิเปอร์เบรค Brembo โมโนบล็อกแบบเรเดียลเมาท์ 4 พ็อต พร้อม Cornering ABS
เบรคหลัง ดิสก์เบรคเดี่ยว คาลิเปอร์เบรค Brembo แบบ 2 พ็อต พร้อม ABS
ระยะฐานล้อ 1,482 มม.
ความสูงเบาะ 835 มม.
น้ำหนักรถเปล่า (เคลม) 195 กก.
ความจุถังน้ำมัน 18 ลิตร
ราคา 1,375,000 บาท
ติดต่อ Facebook: KTM Thailand


จุดเด่น

– น้ำหนักเบากว่า และขนาดกะทัดรัดกว่าเน็กเก็ตไบค์แบรนด์อื่นๆ ในระดับเดียวกัน
– มีแบ็กไลท์ที่สวิตช์ที่แฮนด์บาร์ส่องสว่างขึ้นมาในยามค่ำคืน ซึ่งไม่มีในค่ายอื่นๆ

ข้อสังเกต

–  เป็นเน็กเก็ตไบค์ที่มีครูซคอนโทรล

รับชมการทดสอบรถรุ่นอื่นๆ คลิก

NO COMMENTS

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Exit mobile version