 |
 |
All-New Honda CBR1000RR-R แรงกว่าเดิมแค่ไหน อะไรใหม่ มาดู
หลังจากที่ Honda ยั่วๆ เรามานานต่างๆ นาๆ ทั้งข่าวเรื่องสิทธิบัตร ทั้งภาพการออกแบบต่างๆ และในวันนี้ก็ได้ฤกษ์สักที Honda Motor Europe ก็ได้ปล่อยคลิปเปิดตัวและคลิปรีวิวรถตัวแรงโดยแชมป์โลก 8 สมัยอย่าง Marc Maquez พร้อมข้อมูลออกมาแบบเต็มๆ แล้ว และที่สำคัญคือมาพร้อมกัน 2 โมเดลเลยคือ Honda CBR1000RR-R และ Honda CBR1000RR-R SP อ่อยชื่อยาวจัง แน่นอนว่าอีกฝั่งของโลกเขาก็ก็ยังคงใช้ชื่อ Fireblade หรือเจ้าดาบเพลิงเหมือนเคย
CBR1000RR-R คันใหม่นี้มุ่งเน้นไปที่การขับขี่ในแบบเรซซิ่งหรือการขับขี่ในแบบสนามมากขึ้น แน่นอนว่าสมรรถนะและการควบคุมก็เป็นสิ่งที่เพิ่มมากขึ้นในโมเดลนี้นั่นเอง
เครื่องยนต์เป็นแบบสี่สูบเรียงที่ใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับ RC213V-S ที่เด่นเรื่องการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีค่าแรงเสียดทานในระบบต่ำ จากการใช้ขนาดกระบอกสูบและช่วงชักเท่ากันเลย และยังเลือกใช้ก้านสูบไทเทเนียมและลูกสูบอลูมิเนียมฟอร์จอีกด้วย ระบบ Honda Selectable Torque Control (HSTC) หรือแทร็คชั่นคอนโทรลของ Honda นั้นมีการปรับแต่งเพิ่มเติมโดยเพิ่มการปรับโหมด Power หรือการควบคุมกำลังเครื่องยนต์ โหมด Engine Brake หรือการควบคุมเอ็นจิ้นเบรค และโหมด Wheelie Control หรือการป้องกันการลอยตัวของล้อ
ตัวเฟรมรถนั้นเป็นเฟรมอลูมิเนียมแบบไดมอนด์เฟรมแต่เด่นที่มีสวิงอาร์มที่ยาวขึ้นตามแบบ RC213V-S พร้อมจัดเต็มความไฮเทคแบบที่หลายๆ ค่ายชิงทำกันไปก่อนแล้ว เช่น ติดตั้งเซ็นเซอร์วัดแรงเฉื่อยหรือ IMU แบบ 6 แกน กันสะบัดไฟฟ้าปรับได้ 3 ระดับ Honda Electronic Steering Damper (HESD) และโช้คจาก Showa ทั้งด้านหน้าและหลัง ระบบเบรคยังคงใช้ของ Nissin แต่เป็นตัวใหม่ คาลิเปอร์เบรคทำงานร่วมกันกับดิสก์เบรคคู่ขนาด 330 มม.และระบบเบรค ABS
ตัวรถ แฟริ่งและเส้นสายต่างๆ ออกแบบมาโดยมุ่งเน้นในเรื่องแอโรไดนามิกส์หรืออากาศพลศาสตร์ ที่เด่นคือมีวิงก์เล็ตหรือปีกที่ใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับรถแข่ง MotoGP มาใช้ ช่วยสร้างแรงกด ปิดท้ายด้วยหน้าจอสี TFT และระบบ Honda Smart Key หรือระบบกุญแจอัจฉริยะของ Honda
ความแรงที่เพิ่มมาจากไหน
แน่นอนว่าเราเกริ่นไปตั้งแต่หัวข่าวแล้วว่าแรงขึ้น ซิ่งขึ้น แต่ว่ามันแรงเพราะอะไร จากไหน ผมก็ตอบเลยเพราะตัว R ที่เพิ่มขึ้นครับ เพี้ยะ!! จะบ้าเรอะ ความแรงที่เพิ่มขึ้นมาจากเครื่องยนต์สี่สูบใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ปรับจูน แต่เป็นการยกเครื่องใหม่จริงๆ มีการใช้เลย์เอาท์ใหม่ที่ให้เครื่องยนต์มีขนาดกะทัดรัด ช่วงชักสั้น มีขนาดกระบอกสูบและระยะชักแบบเดียวกับ RC213V และมีการใช้ก้านสูบไทเทเนียมและในด้านในมีการใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับ RC213V-S ในการลดแรงเสียทานภายในเครื่องยนต์ และมีรายละเอียดเชิงลึกอีก
แรมแอร์ที่แฟริ่งด้านหน้าป้อนอากาศตรงเข้าสู่แอร์บ็อกซ์ก่อนเข้าสู่เครื่องยนต์ ปล่อยไอเสียผ่านท่อแบบ 4 – 2 – 1 และปลายท่อที่มีการพัฒนาร่วมกันกับทาง Akrapovic
ทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้เครื่องยนต์นั้นมีกำลังแรงม้าสูงสุดที่ 214 แรงม้าที่ 14,500 รอบ และแรงบิดที่ 113 นิวตันเมตรที่ 12,500 รอบ
พละกำลังเหล่านี้จะถูกเรียกใช้ผ่านคันเร่งไฟฟ้าที่ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นและทำงานร่วมกับโหมดการขับขี่ 3 โหมดที่จะเปลี่ยนแปลงค่าต่างๆ ของแทร็คชั่นคอนโทรลของตัวรถ เพื่อให้มีกำลังเครื่องยนต์ เอ็นจิ้นเบรค ระดับของการป้องกันการลอยตัวของล้อ
ช่วงล่างของรถ
ด้านหน้ามีโช้ค Showa Big Piston Fork ขนาด 43 มม. ทำงานร่วมกันกับโช้คหลัง Showa Balance Free Rear Cushion Light ซึ่งเป็นตัวท็อปๆ ของ Showa ซึ่งโช้คหลังด้านบนจะยึดกับด้านหลังของเครื่องยนต์ที่วางบนเฟรมที่ดีไซน์เดียวกันกับ RC213V-S ให้ความแข็งแรง บาลานซ์ การกระจายน้ำหนัก และมิติบังคับรถที่ดี ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการปรับให้เหมาะกับกำลังที่เพิ่มขึ้นมา ช่วยให้ได้การยึดเกาะที่ดีมากที่สุด
ระบบเบรคใช้จานเบรคหน้าที่ใหญ่ขึ้นทำงานร่วมกันกับคาลิเปอร์เบรค Nissin แบบ 4 พ็อต พร้อม ABS ที่ปรับมาเพื่อเน้นซิ่งโดยเฉพาะ และตอนนี้ยางหลังอัพไซส์ใหญ่ขึ้นอีกไซส์เป็น 200/55-ZR17
แล้วตัว SP ล่ะต่างจากปกติยังไง
ส่วนโมเดล CBR1000RR-R SP นั้นจะมีช่วงล่างที่เหนือกว่าด้วยระบบกันสะเทือนไฟฟ้าจาก Ohlins โดยด้านหน้าเป็น Ohlins NPX ขนาด 43 มม. และด้านหลังเป็น Ohlins TTX36 Smart-EC เรียกว่าชื่อนี้การันตีความมั่นใจ ระบบเบรคก็จะถูกอัพเกรดเป็น Brembo Stylema ที่เป็นคาลิเปอร์เบรคแบบ 4 พ็อตรุ่นใหม่ของ Brembo ส่วนคาลิเปอร์เบรคหลังก็เป็น Brembo เช่นเดียวกันกับที่ใช้ใน RC213V-S
สรุปคร่าวๆ
CBR1000RR-R นี้ Honda จัดมาให้สายซิ่งในสนามเป็นหลัก เป็นสปอร์ตไบค์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร็วแรงเป็นชีวิตจิตใจ มีการอัพเกรดเพิ่มความสามารถรอบด้าน ทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง เทคโนโลยี ระบบช่วยเหลือ ตลอดไปจนถึงแอโรไดนามิกส์ และส่วนต่างๆ เรียกได้ว่า จัดเต็ม จัดแน่น สมกับการรอคอยจริงๆ
เรื่องหน้าตานั้นก็เรียกได้ว่าหล่อเหลาดุดันมาดใหม่โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนล่ะครับผม
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก
