Home ทิปเทคนิค EURO5+ คืออะไร ส่งผลอะไรกับชาวสองล้อ

EURO5+ คืออะไร ส่งผลอะไรกับชาวสองล้อ

0
Euro5+ คืออะไร

EURO5+ คืออะไร ส่งผลอะไรกับชาวสองล้อ

หลาย ๆ คนช่วงนี้ถ้าติดตามข่าวสารวงการสองล้อกัน จะพบเจอกับข่าวเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงบ้านเราปรับสูตรใหม่เป็นยูโร 5 แล้วมีรถที่ทำแรงหลายคันได้รับผลกระทบ ผมก็เลยใช้โอกาสนี้เขียนบทความ EURO5+ คืออะไร มันเข้มจนรถแรงไม่ได้เลยเหรอ ขึ้นมา ซึ่งก็มีส่วนที่เกี่ยวข้องกันอยู่เล็กน้อย ผมก็เลยขอนำข้อมูลมาเสนอให้ท่านผู้อ่านได้ทำความเข้าใจกันครับ

ตัวอย่างรถที่ผ่าน Euro5+ แล้ว

เจ้า EURO5+ เนี่ยคือ มาตรฐานควบคุมมลพิษของทางยุโรปที่มีผลบังคับใช้ในปี 2024 สำหรับรุ่นใหม่ และในปี 2025 สำหรับรุ่นที่มีอยู่แล้ว โดยมาตรฐานนี้เป็นการขยายต่อจาก Euro5 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2021 ซึ่งตรงนี้หลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่ามันเข้มงวดขึ้น!? ทว่าในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เข้มงวดมากขึ้นเลย การจำกัดเรื่องการปล่อยมลพิษทางอากาศและทางเสียงนั้นเท่ากันเลย

แล้วมันต่างกันยังไง? มันต่างกันตรงที่ว่าเจ้า + ที่เพิ่มขึ้นมาเนี่ยทำให้ค่ายรถผู้ผลิตจำเป็นจะต้องติดตั้งระบบตรวจสอบปริมาณการปล่อยมลพิษแบบเรียลไทม์ OBD II โดย ตรวจจับและแจ้งเตือนผู้ขับขี่เกี่ยวกับการจุดระเบิดผิดพลาด ซึ่งอาจส่งผลต่อมลพิษ ตรวจจับและแจ้งเตือนผู้ขับขี่เกี่ยวกับเซ็นเซอร์แลมบ์ดาเสื่อมสภาพ ซึ่งมีหน้าที่วัดปริมาณออกซิเจนในไอเสียและควบคุมส่วนผสมอากาศเชื้อเพลิง และกำหนดให้ผู้ผลิตต้องทดสอบประสิทธิภาพของตัวแคตฯ (catalyst) ของรถตลอดอายุการใช้งาน เพื่อให้แน่ใจว่ายังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการลดมลพิษ และเจ้าแคตฯ เองก็ต้องทดสอบว่าจะต้องใช้งานได้ดีแม้ว่าจะใช้งานไปแล้วกว่า 35,000 กม.

ซึ่งทั้งหมดนี้เนี่ยส่งผลกระทบกับผู้ผลิตโดยตรงเรื่องของต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ยังอาจจะส่งผลกระทบกับรถบางรุ่นที่ผู้ผลิตอาจจะตัดสินใจเลิกผลิตรถบางรุ่นไปเลย เพราะเหตุว่าไม่สามารถปรับให้เข้ากับมาตรฐาน Euro5+ ได้ เพราะรถบางโมเดลที่มีความแรงมาก อุปกรณ์ต่าง ๆ เยอะก็ส่งผลให้อายุการใช้งานของตัวแคตฯ น้อยลงไปด้วย

ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องของยุโรป แต่บ้านเราเองก็ได้รับผลกระทบด้วยเหมือนกัน เพราะรถคันโปรดของเรา ๆ ท่าน ๆ บางรุ่นอาจจะยกเลิกการผลิตและการจัดจำหน่ายในอนาคต และแน่นอนว่าบ้านเราก็จะค่อย ๆ ปรับมาตรฐานการปล่อยมลพิษทางอากาศและทางเสียงให้เข้มงวดมากขึ้นตามยุโรปไปด้วยในอนาคต ยกตัวอย่างเช่นเจ้า R1 ของทาง Yamaha ที่จะไม่มีจำหน่ายในยุโรปแล้วนั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่ออากาศที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืนนั่นเอง

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

NO COMMENTS

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Exit mobile version