 |
 |
Burn Rubber Riding Academy & Track Days ครั้งนี้เป็นสนามที่ 4 ของปี 2562 จัดขึ้นที่สนาม พีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พัทยา สถาบันการเรียนขับขี่แห่งนี้เป็นการสอนขับขี่สไตล์ Racing มาตรฐานระดับสากลแห่งแรกในประเทศไทยที่มีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยมีครูฝึกมืออาชีพระดับนักแข่ง Moto GP และครูฝึกไทยและต่างประเทศ โดยมีโปรแกรมการฝึกสอนสำหรับผู้ขับขี่ในทุกระดับตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงมืออาชีพ
โดยมีการดูแลจาก มิสเตอร์ จิอานลูก้า ลอซซี่ หัวหน้าครูฝึกสอน และทีมงานครูฝึกสอนของสถาบันที่จะคอยประเมินและกำกับการเรียนการสอนทั้งหมด ในครั้งนี้จะมีครูฝึกสอนดีกรี อดีตนักแข่ง Moto GP อย่างเฟาส์โต ริชชี่ ที่จะมาสอนด้วยในครั้งนี้อีกเช่นกัน
เรามาพูดถึงการเรียนใน LEVEL 1 : SAFETY AND RACING RIDING COURSE เบื้องต้นจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถในการขับขี่บิ๊กไบค์อยู่แล้ว และต้องการที่จะเพิ่มเติมเทคนิคการขับขี่เพื่อที่จะใช้ในชีวิตประจำวันและการใช้ในสนามแข่งได้อย่างถูกต้อง โดยจะได้รับการแนะนำจากครูฝึกผู้สอนดังนี้ 1.ตำแหน่งการนั่งขับขี่ 2.การควบคุมคันเร่ง 3.การเข้าโค้งในสนามเบื้องต้น 4.การใช้เบรคในสนามแข่ง ขั้นตอนการฝึกสอนของครูฝึก โดยผู้ขับขี่จะขี่ตามผู้สอนเพื่อการปรับมุมมองการขี่ให้สมบูรณ์แบบและทำความเข้าใจเรื่องการเข้า APEX โดยการใช้ความเร็วในแต่ละระดับ(เร็ว,ปานกลาง,ช้า) และรวมไปถึงการเบรคในสนามแข่งที่จะช่วยในเรื่องความปลอดภัยในสนาม เหมาะสำหรับผู้การเริ่มต้นการขี่ในสนามแข่งสำหรับใครที่ต้องการเรียนในสถาบันแห่งนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีใน LEVEL 1
มาต่อกันใน LEVEL 2 : RACING RIDING COURSE สำหรับผู้เรียนนั้นจะต้องได้รับการฝึกสอนใน LEVEL 1 มาแล้ว และต้องการที่จะพัฒนาการขี่เพิ่มขึ้นต่อไปที่จะสามารถเรียนรู้การตัดสินใจและประเมินสถานการณ์ในการขับขี่ในสนาม รวมไปถึงการปลดล็อกความสามารถของตัวเองอีกด้วย โดยในการเรียน Level 2 จะมีการเรียนดังนี้
1.ตำแหน่งในการขับขี่และลักษณะการขับขี่แบบ Racing ที่จะช่วยในเรื่องของการ บาลานซ์ตัวเองในโค้งลดภาระการทำงานของช่วงล่าง 2.ช่วยปรับในเรื่องมุมมองการขับขี่ในการแข่งขันโดยการอ่านไลน์ผู้นำและการประเมินสภาวะการขับขี่แบบคับขันในสนาม 3. เทคนิคการเบรค การมองเข้าโค้งจุดนำสายตา จะช่วยในเรื่องของการเบรค ก่อนที่จะเข้าโค้งในสนามแข่ง รวมไปถึงการมองตัดโค้งออกจาก Apex อย่างปลอดภัย โดยจะมีลำดับขั้นตอนการสอนตามหลักสากล รวมไปถึงที่จะให้นักเรียนขี่นำครูฝึกเพื่อที่จะให้ครูสังเกตการขี่ และแนะนำมุมมองการขี่ที่ถูกต้อง รวมไปถึงการสอนใช้เบรคในการเข้าโค้ง ทำให้สามารถที่จะปลดล๊อกความเร็วของตัวเองได้ทั้งทางตรงและในโค้ง อย่างปลอดภัย
สุดท้าย LEVEL 3 ADVANCE RIDING COURSE เลเวลนี้สำหรับผู้ที่ผ่านการเรียนใน เลเวล 1-2 มาแล้วต้องการที่จะเติมทักษะและความเร็วเข้าไปให้กับตัวเองเพื่อที่จะต้องการกดเวลาต่อรอบในสนามของตัวเองลดลง และเริ่มต้นที่จะอยากเข้าสู่การแข่งขันอย่างจริงจัง โดยการเรียนในเลเวลที่ 3 นั้น นักเรียนจะได้รับการสอนที่เข้มข้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเรื่องของมุมมองการขับขี่ที่ใช้ในการแข่งขัน ได้รับการแนะนำเทคนิคการเบรคและการเบรคในทางเข้าโค้ง โดยการให้ขี่ไล่ตามครูฝึกและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการฝึกสอน โดยการบันทึกวีดีโอจากกล้องท้ายรถเพื่อที่จะสังเกตุท่าทางต่างๆการมอง การใช้เบรค รวมไปถึงไลน์ในการขี่ในสนามทั้งหมด จะถูกการประเมินจากผู้สอนอย่างละเอียดถูกต้อง
ฟิวลิ่งการเรียนในครั้งนี้
ต้องบอกก่อนเลยว่าตัวผมเองมีทักษะการขับขี่อยู่แล้ว จึงถูกปรับให้อยู่ในกลุ่มของ Level 2 โดยมีครูฝึกสอนเป็น พี่ท๊อป พุฒิณัฐ สินทรัพย์ ที่จะเป็นคนคอยปรับการขับขี่ต่างๆในสนาม เบื้องต้นทางครูฝึกได้ให้คำแนะนำสำหรับท่านั่งขับขี่โดยการสอนการขยับตัวในการเข้าโค้ง และการวางเท้าไม่ให้ปลายเท้าชี้ออกมา ทำให้ช่วยลดภาระการทำงานของช่วงล่าง และท่าทางการขับขี่ที่สวยงามได้เป็นอย่างดี ทำให้การขี่ในสนามพีระ เซอร์กิต ได้เร็วและสวยงามขึ้น
ในช่วงรอบที่สองของการเรียนทางครูฝึกได้ขี่ตามและสังเกตการเบรคในโค้งและการเปิดคันเร่ง เพื่อที่จะแก้ไขในโค้งที่ 3 ที่เป็นโค้งยูเทิรน์ เพื่อความปลอดภัยในการเข้าโค้ง และพูดถึงช่วงจังหวะของการเดินคันเร่งออกจากโค้งให้อยู่ในไลน์ที่กำหนดไว้ พร้อมกับปรับท่านั่งในการเข้าโค้งไปในตัว ทำให้สามารถแก้ไขการเข้าโค้งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากนั้นในช่วงบ่ายของ Academy เป็นการสอนโดยการขับขี่ตามครูฝึกเพื่อที่จะสังเกตไลน์การเข้าโค้งในแต่ละโค้งของสนามพีระ เซอร์กิต
เพื่อที่จะทำให้การเข้าโค้งแม่นยำมากขึ้น และปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย โดยในแต่ละรอบก็จะมีทีมงานครูฝึกที่จะคอยขับขี่ตามเป็นระยะพร้อมกับทำท่าทางที่จะสื่อให้เราได้เข้าใจว่าควรแก้ไขทันทีในสนาม ถือว่าเป็นประสบการณ์ในการเรียนขับขี่ในสนามที่ได้ความรู้และความสามารถที่จะนำปรับใช้อย่างถูกต้องตามหลักสากล
สำหรับใครที่เรียน Academy ในวันแรกแล้ว ยังสามารถที่จะเข้าร่วมกิจกรรม Track Days ในวันที่สอง โดยในช่วงของ Track Days จะมีทีมมาแชลที่จะขี่นำในแต่ละรอบ และยังสามารถนำความรู้ความสามารถที่ได้เรียนมาในวันแรกมาใช้ในการขี่เพื่อที่จะเน้นการขี่ที่เร็วขึ้น ปลอดภัย และแม่นยำมากขึ้น ทำให้รู้สึกสนุกกับการขี่ในสนาม ที่สำคัญขาดไม่ได้เลยคือการรักษาความปลอดภัยระดับมาตรฐานสากล
โดยใช้ทีมงาน ProRace-Q ในการดูแลความปลอดภัยทั้งหมดภายในงาน และยังมีอีกเรื่องที่สำคัญสำหรับใครที่อยากเรียน Academy และ Track Days และยังไม่มีรถ ทางสถาบันมีรถให้เช่า สำหรับการเรียนขับขี่ในสนามอีกด้วย โดยในครั้งนี้ได้ใช้รถ Honda Bigbike CBR650R
ในการเรียนในสนามที่ 4 รวมไปถึงบูธจัดแสดงสินค้าต่าง อาทิเช่น Alpinestars มีเจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันสำหรับใช้ในการขับขี่, แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงส่วนลดพิเศษภายในงาน บูธ Aprilia สำหรับลูกค้าที่ขับขี่ Aprilia มาร่วมกิจกรรมภายในงาน เราได้เตรียมที่จอดพิเศษและเจ้าหน้าที่เทคนิคของ Aprilia คอยให้คำปรึกษากับลูกค้า Aprilia only!! บูธ IPONE มีสินค้าทั้ง น้ำมันเครื่อง, อุปกรณ์บำรุงรักษาเครื่องยนต์, สินค้าทำความสะอาด และอื่นๆ รวมถึงส่วนลดพิเศษ บูธยาง Michelin ในพิทของ Michelin มีสินค้าให้เลือกรวมถึงให้ข้อมูลใหม่ๆและตรวจลมยางที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่
สำหรับใครที่ชื่นชอบการขับขี่ในสนาม โดยมีครูฝึกสอนแบบตัวต่อตัว อย่างถูกต้องตามหลักมาตรฐานสากล และที่ยังไม่ได้เข้าร่วมในสนามนี้ ทางสถาบันยังมีการฝึกสอน อีก 2 ครั้งในปีนี้ ตามกำหนดการ
วันที่ 19 – 20 ตุลาคม 2562 สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นเนล เซอร์กิต
วันที่ 2 – 3 พฤศจิกายน 2562 (Ride With The Legends) สนามช้าง อินเตอร์เนชั่ลแนล เซอร์กิต
สำหรับผู้ที่เข้าเรียนแล้วรู้สึกว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการขับขี่ในสนาม เพื่อที่จะได้ฝึกฝนการขับขี่ไปในตัว รู้มือ รู้คันเร่ง เบรกให้เป็น นั่งให้ปลอดภัย มองให้ขาด จะทำให้ขับขี่สนุกขึ้น และปลอดภัยขึ้นอีกด้วย ยังไงก็ต้อง ขอฝาก สถาบันการขับขี่ Burn rubber riding academy & track days เป็นอีก 1 ตัวเลือกที่ทุกคนต้องมาเรียนถึงจะรู้ว่า การขับขี่ที่ถูกต้องตามหลักสากลเป็นยังไง
ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ ได้ที่ Facebook Burn Rubber Riding Academy & Track Days
อ่านข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี้
ติดตามเพจ Facebook คลิกทีนี้
