Triumph TF 450-RC
โมโตครอสรุ่นพิเศษ ลายลิมิเต็ดฉลองแชมป์โลก
หลังจากเปิดตัวโมโตครอสรุ่นแรกของทางค่ายอย่าง Triumph TF 250-X เมื่อช่วงปลายปี 2023 ไปแล้ว คราวนี้ทางค่ายผู้ดีอย่างไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซค์เคิลส์ พร้อมที่จะสานต่อสำหรับรถไทป์สายทางฝุ่น พร้อมทำการเปิดตัวโมเดลคลาส 450 รุ่นแรกกับ 2025 Triumph TF 450-RC ลิมิเต็ดอิดิชันสุดพิเศษ เพื่อการเฉลิมฉลองแชมป์โลกโมโตครอสอย่าง “The GOAT” หรือ Ricky Carmichael
2025 Triumph TF 450-RC คลาส 450 รุ่นแรก.!!
ด้วยการเดลเวอล็อปร่วมกันระหว่างทีมเอ็นจิเนียร์ชั้นนำของไทรอัมพ์และแชมป์โลกโมโตครอส เพื่อให้ได้โมเดลสายฝุ่นที่มีสมรรถนะเทียบเคียงตัวแข่งมากที่สุด โดยเจ้า Triumph TF 450-RC มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 450 ซีซี พร้อมกับส่วนผสมที่ดีที่สุด ผ่านการออกแบบคำนวณอย่างแม่นยำ ทั้งในเรื่องของพละกำลังเครื่องยนต์ มิติตัวรถและวัสดุเกรดคุณภาพเข้าด้วยกัน โดยตัวโมเดลจะมีน้ำหนักเพียง 108.6 กก.เท่านั้น
นัมเบอร์แชมป์โลก No.4 | |
ปลอกแฮนด์ ODI | |
ลายกราฟิกด้านข้าง | |
เบาะหนังสีดำ ออกแบบให้ความกระชับ |
ในขณะที่ลวดลายกราฟิกและชุดสียังถูกออกแบบไปในแนวทางเดียวกัน นั่นก็คือสีสุดโปรดของทางค่ายกับสีเหลืองสีดำและสีขาว พร้อมลายกราฟิกพร้อมนัมเบอร์หมายเลข 4 ซึ่งประจำตัวของตำนานแชมป์โลกนั่นเอง นอกเหนือจากลวดลายดังกล่าว ตัวเบาะยังออกแบบมาเพื่อการขับขี่บนสนามแข่งโดยเฉพาะ ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับท่วงท่าได้อย่างอิสระ
เครื่องยนต์สูบเดียว 450 ซีซี
ในเรื่องของพละกำลังเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์สูบเดียว 4 จังหวะ ขนาด 450 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ ใช้ระบบวาล์ว SOHC โดยเครื่องยนต์ดังกล่าวยังถูกปรับปรุงมาเพื่อใช้สำหรับการแข่งขัน ทั้งลูกสูบอลูมิเนียมฟอร์จขึ้นรูป Konig เคลือบสาร DLC ให้ความแข็งแรงและทนทานเป็นพิเศษ พร้อมวาล์วไทเทเนียม DelWest
พร้อมชุดเกียร์บ็อกซ์ 5 สปีด พ่วงมาพร้อมกับควิกชิฟเตอร์ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ติดมาพร้อมชุดแอร์บ็อกซ์จาก TwinAir เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบหัวฉีดของ Dellorto ทำงานร่วมกับระบบจัดการเครื่องยนต์ผ่านกล่อง ECU จาก Athena ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายน้ำมัน
รวมถึงสามารถปรับแต่งพารามิเตอร์ให้เข้ากับผู้ขับขี่ไม่ว่าจะเป็น ระบบแทร็คชันคอนโทรล ระบบช่วยการออกตัว ผ่านการควบคุมรายละเอียดผ่านทางแอป MX Tune Pro สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพแทร็กต่าง ๆ ได้นั่นเอง ยังรวมไปถึงระบบเอ็นจิ้นแม็ปให้เลือกใช้งาน และโหมดเฉพาะตัวที่ปรับแต่งโดย Ricky Carmichael เพื่อให้ขีดจำกัดสูงสุดสำหรับผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความแอ็ดวานซ์เป็นพิเศษ พ่วงมาพร้อมกับถังน้ำมันขนาด 7 ลิตร
ในเรื่องของจีโอโนมิคของการออกแบบยังเข้าถึงผู้ขับขี่ให้สามารถควบคุมที่ง่ายดาย พร้อมฝาครอบแมกนีเซียมไล่น้ำหนักเบาขึ้น แฮนด์บาร์ทำจากโลหะผสม 2014-T6 ชุปอะโนไดซ์แบบแข็งเพิ่มความทนทานเป็นพิเศษ พร้อมกับแคลมป์ขนาดใหญ่และปลอกแฮนด์ ODI ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากล้อมาถึงมือ และซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ตัวโช้คอัพด้านหน้าเป็นโช้คหัวกลับจาก KYB ขนาด 48 มม. มาพร้อมระยะยุบที่ 310 มม. ปรับคอมเพรสชันและรีบาวด์ได้ ส่วนด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยว ระยะยุบ 305 มม. ปรับรีบาวด์และคอมเพรสชันได้ทั้งแบบไฮด์สปีดและโลว์สปีด ประกบด้วยระบบเบรกจาก Brembo ขนาด 2 ลูกสูบเข้ากับจานดิสก์ด้านหน้าขนาด 260 มม. ต่อด้วยคาลิเปอร์ด้านหลังเป็นลูกสูบเดียวจาก Brembo เช่นเดียวกันพร้อมจานดิสก์หลังขนาด 220 มม. รัดด้วยล้อซี่ลวดและยางขนาด 80/100-21 และ 110/90-19
นับได้ว่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้แต่ละชิ้น ช่างสมกับเป็นโมเดลของแบรนด์ค่ายผู้ดีเสียจริง โดยจะเปิดจำหน่ายในตลาดยุโรปช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 พร้อมราคาค่าตัว 10,695 ยูโรหรือราว ๆ 4 แสนมีทอน และคิดว่าไม่น่าจะเข้าไทยหล่ะครับ นอกจากตัว 250 ที่ยังพอมีลุ้น แต่ดูรวม ๆ แล้วมันก็ค่อนข้างยากเลยจริง ๆ
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก