รุ่นโปร พร้อมแข่ง Husqvarna FE350 Pro MY25
ถึงไลน์อัพโมเดลปี 2025 จะถูกทยอยเปิดตัวออกมาให้ชมกันบ้างแล้ว แต่สำหรับในบทความนี้ เราจะพามาชมโมเดลสายลุยที่น่าสนใจจากค่ายไวกิ้งกับ 2025 Husqvarna FE350 Pro โปรเอนดูโร่ในรุ่น 4 จังหวะที่ถูกอัปเกรดและพัฒนามาเพื่อความสมบูรณ์แบบของการแข่งขันบนเส้นทางออฟโร้ด
ด้วยแชสซีออกแบบให้มีความหยืดหยุ่นเพื่อการควบคุมที่ง่ายดาย กับถังน้ำมันขนาด 8 ลิตรสีขาวออกแบบใหม่ เข้ากับชุดสีแฟริ่ง การ์ดแฮนด์ ครอบแกนโช้คและบังโคลนหน้า ในขณะที่บังโคลนหลังและเบาะใช้เป็นสีเทา แบบเดียวกันกับลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งขันทางฝุ่นประดับไว้บริเวณด้านข้าง ดูมีความคลีนแต่แฝงไปด้วยความดุร้าย พร้อมโลโก้ฮุสควาน่าเด่น ๆ สมกับเป็นรุ่นโปรตัวชูโรงบนทางฝุ่นนั่นเอง
2025 Husqvarna FE350 Pro
ปรับมาเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ
สำหรับรุ่น 4 จังหวะอย่าง FE350 Pro 2025 เป็นอีกหนึ่งรุ่นพัฒนามาจากรุ่น Standard มาพร้อมกับการปรับปรุงพัฒนาในด้านเทคนิคมามาเพื่อเพิ่มสมรรถนะโดยรวมเต็มระดับ ทั้งยังเพิ่มความทนทานให้ผู้ขับขี่รู้สึกสนุกในเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย และยังให้ความแข็งแรงและเบาด้วยซับเฟรมอลูมิเนียมเคลือบโพลีเอมายด์ ทำให้มีน้ำหนักเบากว่าเดิมถึง 1.8 กก. รวมถึงพักเท้าออกแบบดีไซน์ใหม่ช่วยเสริมการยึดเกาะสัมผัส แถมสามารถปรับไดนามิคท่วงท่าขับขี่ได้อย่างอิสระ
รายละเอียดสำหรับรุ่น Pro Series ที่ติดตั้งมาในรุ่นนี้ประกอบไปด้วย
เบาะนั่งสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ | |
ถังน้ำมันออกแบบใหม่ขนาด 8 ลิตร | |
สเตอร์หลัง Supersprox |
- ลวดลายกราฟิกแบบใหม่
- เบาะนั่งสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ
- การ์ดแฮนด์
- จานเบรก Galfer หน้าและหลัง
- การ์ดจานเบรกหน้า-หลังคาร์บอน
- สเตอร์หลัง Supersprox
- แฮนด์บาร์ ProTaper พร้อมทริปเปิ้ลแคลมป์
- ปลอกแฮนด์ ODI แบบซอฟต์คอมปาวด์
- ชุดล้อซี่ลวด Factory Racing จาก Excel Takasago
- แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนน้ำหนักเบา ขนาด 2.0 Ah
Spec
ในขณะที่เครื่องยนต์เป็นสูบเดียว 4 จังหวะ ขนาด 349.7 ซีซี พร้อมระบบวาล์วไทเทเนียม DOHC ลูกสูบเคลือบไดอะซิล ขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด ใช้ระบบสตาร์ทไฟฟ้า ตอบสนองแรงบิดได้อย่างทันใจด้วยชุดลิ้นปีกผีเสื้อขนาด 42 มม. จาก Kelihin ทั้งยังออกแบบโปรไฟล์ของเพลาลูกเบี้ยวให้ระบบวาล์วเปิดได้นานขึ้น รอบมาไวมากขึ้น สอดคล้องกับกำลังอัดในอัตราส่วน 13.7 : 1 โดยให้พละกำลังแรงม้าสูงสุดที่ 51 ตัว พร้อมชุดแอร์บ็อกซ์ที่ช่วยเสริมการไหลเวียนอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โช้คหน้าหัวกลับ WP XACT-USD ขนาด 48 มม. มีระยะยุบ 300 มม. ปรับพรีโหลดได้ | |
โช้คเดียวซับแทงค์ WP AXCT ระยะยุบ 300 มม. |
พร้อมสมรรถนะช่วงล่างขั้นเทพด้วยโช้ค WP XACT-USD ขนาด 48 มม.ปรับปรุงใหม่เพื่อลดแรงกระแทกที่แม่นยำในความเร็วสูง ทั้งนี้ยังสามารถปรับค่าพรีโหลดความตึงของตัวสปริงได้ ส่วนโช้คหลังเป็นโช้คเดี่ยวซับแทงค์ WP AXCT สามารถปรับได้เช่นเดียวกัน โดยให้ระยะยุบมาทั้งหน้า-หลังที่ 300 มม. พร้อมจานดิสก์เบรกและระบบเบรกที่ติดตั้งมาให้เป็น Brembo กับขนาดล้อและยางหนามรัดมาให้ขนาด 90/90 และ 140/80 ตามลำดับ
ดิสก์เบรก พร้อมการ์ดลายคาร์บอน คาลิเปอร์เบรก Brembo ล้อซี่ลวดเกรดแข่งขัน Excel Takasago ยางหนามขนาด 90/90 |
|
ระบบไฟส่องสว่าง LED การ์ดแฮนด์ติดตั้งจากโรงงาน |
ส่วนในเรื่องของอิเล็กทรอนิกส์ที่ติดตั้งมาให้มีหลายแบบเช่นเดียวกัน อาทิ ระบบไฟส่องสว่าง LED ปุ่ม Map Select Switch ที่สามารถปรับแต่งได้ตามสถานการ์การใช้งานผู้ขับขี่ ระบบแทร็คชันคอนโทรลและควิกชิฟเตอร์เรียกว่าครบสูตรพร้อมของแต่งและสามารถรถแข่งได้ทันที
สำหรับเรื่องการจำหน่ายคงมีขายสีเดียวนั่นก็คือ สีขาวนั่นแหล่ะครับ มาพร้อมชุดแต่งดุดันในราคาค่าตัวที่ 12,199 ยูโร หรือราว ๆ 4.4 แสนบาท และคาดว่าไม่น่าเข้าไทย นอกเหนือจากรุ่นตัวแสตนดาร์ดที่อาจมีโอกาสเป็นไปได้นั่นเอง เพราะอย่างไรตอนนี้ในบ้านเรานั้นมีผู้แทนจำหน่ายรายใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีอะไรให้เซอร์ไพร์สอย่างแน่นอน อย่างไรต้องรออัปเดตอีกครั้งให้ทราบทั่วกัน
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก