Home ราคาและสเปครถมอเตอร์ไซค์ Honda 2025 HONDA CBR1000RR-R FIREBLADE SP ง่ายเหมือนขี่ 300

2025 HONDA CBR1000RR-R FIREBLADE SP ง่ายเหมือนขี่ 300

0

2025 HONDA CBR1000RR-R FIREBLADE SP ง่ายเหมือนขี่ 300

2025 HONDA CBR1000RR-R FIREBLADE SP ที่สุดของตัวพันจากค่ายปีกนก รถซูเปอร์ไบค์ระดับเรือธง ถือได้ว่าเป็นการปรับโฉมใหม่มาหลายจุด และพัฒนาใหม่หมดทั้งคัน ขับขี่ง่ายกว่าเดิม สนุกกว่าเดิม เรียกได้เลยว่าเป็น All NEW กับราคาที่สุดแสนจะดี๊ดีกับราคา 1,134,000 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนสามหมื่นสี่พันบาทถ้วน) 

โฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม

การออกแบบดีไซน์แฟริ่งใหม่ มีการพัฒนามาจากรุ่นพี่ในระดับ MotoGP ที่ผสมผสานความเป็นเรซซิ่งที่สามารถนำมาขับขี่ได้ทั้งสนาม และบนท้องถนนทั่วไป โดยในส่วนที่ปรับไปใหม่ ในจุดที่เห็นได้ชัดเลยนั้นก็คือเรื่องของ วิงเล็ทที่มีขนาดเล็กลง และ ปรับจากที่ตอนแรกอยู่ด้านข้าง ขยับมาทางด้านหน้าพอสมควร เพื่อเพิ่มแรงกดในรอบความเร็วสูง ๆ ทำให้ลดอาการหน้าสะบัดได้ดีเลย ถ้าเทียบกับค่ายอื่น ๆ วิงเล็ทเล็กกว่าค่ายอื่นมาก เพราะ ทางผู้ผลิตอย่างฮอนด้าเล็งเห็นว่าการที่มีวิงเล็ทที่ใหญ่มันยากต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน เวลาในช่วงแบบรถติดๆ เลยปรับให้เล็กลงดีที่สุด

วิงก์เล็ทใน โมเดล 2025 วิงก์เล็ทใน โมเดล 2024

เครื่องยนต์จูนใหม่ ขี่ง่ายมั๊ก ๆ 

เครื่องยนต์ในโมเดลใหม่

เครื่องยนต์แบบสี่สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดเครื่องยนต์ 999 ซีซี มาพร้อมการจ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีดเทคโนโลยี PGM-Fi พละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 214 แรงม้าที่ 14,000 รอบต่อนาที และแรงบิดที่ 113 นิวตันเมตรที่ 12,000 รอบต่อนาที (สเปคของยุโรป)

แต่ในส่วนของสเปคที่จะนำมาวางจำหน่ายในไทย พละกำลังเครื่องยนต์อยู่ที่ 162 แรงม้าที่ 14,000 รอบต่อนาที เพื่อให้ถูกต้องตามกฏหมายของค่าไอเสียในประเทศไทย เลยทำให้โดนตัดตอนแรงมาลงมาเยอะมาก แต่ขอแอบกระซิบนิดนึงว่าสามารถแก้ไขปรับให้ได้ค่าเท่าเดิมได้นะจ๊ะ

เครื่องยนต์โมเดล 2025 นี้ ภายในมีการปรับเพิ่มระยะและเปลื่ยนรูปทรงของวาล์วไอดี และไอเสีย อีกทั้งยังมีการลดน้ำหนักของรถให้น้อยลงกว่าเดิม เพื่อรองรับกำลังเครื่องยนต์เพื่อให้ได้กำลังที่ดีกว่าเดิม เพิ่มประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในการเข้าโค้งและออกโค้งด้วยมอเตอร์การทำงานของลิ้นปีกผีเสื้อที่ถูกใส่เพิ่มเข้ามาจากเดิมที่มีแค่ 1 ตัว ตอนนี้เพิ่มมาเป็น 2 ตัว แยกการทำงานของลิ้นปีกผีเสื้อ #1 #2 – #3 #4 และมี TP Sensor 2 ตัวในการตรวจจับองศาการเปิด ปิดของวาล์วปีกผีเสื้อ ที่ทำงานควบคู่กับแกน IMU 6

ออกแบบหัวลูกสูบใหม่ให้มีความนูนยิ่งขึ้น ทำให้มีกำลังอัดจากเดิมที่ 13.4 เป็น 13.6 และมีการเปลื่ยนพอร์ตไอดี เพื่อลดความต้านทานของทางเข้า ทำให้ส่งผลของพละกำลังได้ดีขึ้น ในเรือนเครื่องยนต์มีการลดน้ำหนักลงถึง 250 กรัม แต่ยังคงความแข็งแรงและรองรับกำลังของเครื่องยนต์ได้ดีเหมือนเดิม และก้านสูบมีการลดน้ำหนักลงถึง 5 กรัม ต่อก้านเพลาข้อเหวี่ยงมีการปรับรูปทรงใหม่ที่สามารถรีดน้ำหนักให้เบาลงได้ถึง 450 กรัม พร้อมกับการปรับอัตราทดเกียร์ใหม่ทำให้รอบการขับขี่มาไวยิ่งกว่าเดิม

ช่วงล่างเทพ


โช้คอัพหน้าจาก Öhlins Smart-EC3.0 ขนาดแกน 43 มม. มาพร้อมโช้คอัพด้านหลัง Öhlins TTX36 Smart-EC3.0 ที่มีการพัฒนาช่วยลดการเกิดฟองอากาศในโช้ค ทำการขับขี่ดียิ่งขึ้น

แถมมีระบบ Preload Guide ที่จะเซ็ตระบบโช้คหน้า และโช้คหลัง พร้อมจะประมวลค่าต่าง ๆ ให้เข้ากับน้ำหนักตัวของผู้ขับขี่รวมไปถึงชุดที่ใส่มากที่สุด และยังสามารถตั้งค่า ACC และ CORNER ของโหมดฝนและโหมดสปอร์ตอีกด้วย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ทำไมไม่เซ็ตให้อัตโนมัติไปเลย

ระบบเบรกถึงใจ

ระบบเบรกที่มาพร้อมกับตัวรถทั้งด้านหน้า และด้านหลังยังเป็นของ Brembo แต่มีการอัพเกรดระบบคาลิเปอร์หน้าใหม่ Brembo Stylema™ R ที่มีการอัพเกรดลูกสูบโดยการเจาะรูด้านในเพิ่มการระบายความร้อนได้ดี ทำให้เวลาเบรกหนัก ๆ ช่วยลดอาการเบรกหายได้อย่างมาก และมาพร้อมล้ออะลูมิเนียม GDC ขนาดยางด้านหน้า 120/70-ZR17 และ ด้านหลัง 200/55-ZR17 

เทคโนโลยีระดับแข่งขัน

มาแค่เกียร์แบบธรรมมดาน่าจะไม่เพียงพอฮอนด้าเลยให้มาพร้อมระบบ Quick Shifter แบบ Up-Down บอกเลยนุ่มนวลสุดๆ พร้อมหน่วยประมลผล IMU 6 แกนจาก Bosch เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น


หน้าจอสีแบบ TFT ขนาด 5 นิ้วสามารถแสดงผลได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน มาพร้อมรูปแบบการแสดงผลที่หน้าจอ 3 แบบได้แก่ Standard, Track และ Race ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบ 

โหมดการขับขี่ 3 โหมด + USER MODE ที่สามารถเซ็ทค่า P (Power) 5 ระดับ, T (HSTC) 9 ระดับ, W (Wheelie Control) 3 ระดับ และ EB (Engine Brake) 3 ระดับ และ ABS และยังมีระบบ ESS (Emergency Stop Signal) ไฟฉุกเฉินเวลาเบรกกระทันหัน

ฟีลลิ่งการขับขี่

หลังจากที่ได้ขับขี่เรือธงลำนี้ ดีไซน์ของตัวรถส่วนตัวรู้สึกว่าเล็กลงกว่าเดิม แต่ฟีลการขับขี่รถตัวพันยังคงเหมือนเดิม ในส่วนของเครื่องยนต์ที่มีการปรับใหม่เทียบกับตัวเก่าแล้วดีกว่าเดิมเยอะมาก เข้าโค้ง ออกโค้ง ง่ายกว่าเดิม สมูทขึ้น ซึ่งถ้าเทียบกับตัวเก่า ยิ่งควบคู่กับช่างล่างที่ปรับใหม่หมด อันนี้ลงตัวมาก (ก.กอไก่ หนึ่งล้านตัว) แต่ติดเรื่องเดียวเลย ทำไมไม่เซ็ตให้อัตโนมัติไปเลยพอใส่ค่าน้ำหนักตัว

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวพันสักคันอยากให้ลองเจียดหัวใจ ไปทดลองขับขี่ตัวพันจากฮอนด้าคันนี้ดู เผื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในใจ กับราคาที่ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยกับอุปกรณ์ที่ติดรถมาถือว่าคุ้มค่า และการพัฒนามาใหม่ของรถ กับราคา 1,134,000 บาท 

ชอบก็จัดประหยัดทำไม อยากขี่อย่ารีรอ อย่ามัวแต่คอยมองไม่ลองซื้อ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

 

NO COMMENTS

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Exit mobile version