รีวิว Hypermotard 698 Mono RVE รถสูบเดียวที่ต้องร้องว่า..ว้าว
ในที่สุดก็ได้มาลองขี่ รีวิว Hypermotard 698 Mono RVE ซึ่งมาพร้อมกับชื่อเสียงเรียงนามว่า เป็นรถสูบเดียวที่แรงที่สุดในโลก ! หลังจากเปิดตัวไปเมื่อพักใหญ่ที่ผ่านมาที่สนามช้างฯ รวมถึงทางทีม SuperBike Thailand ได้ทำการพรีวิวเบื้องต้นไปแล้ว (สามารถอ่านพรีวิวตัวรถได้ คลิ๊กที่นี่ ) และแล้ววันนี้ได้ลองแล้วและได้ลองเทสที่สนาม Motorsport Park ซะด้วย ซึ่งเหมาะอย่างยิ่ง ที่จะได้ลองศักยภาพในหลาย ๆ ด้าน จะซ่าอย่างที่คิดหรือเปล่าละ?
เครื่องยนต์สูบเดียว ลูกโต ช่วงชักสั้น 659 ซีซี ฟังครั้งแรกเป็นอะไรที่ไม่คุ้นเคยมากนักกับ Ducati ซึ่งที่ผ่านมา เราจะคุ้นเคยกับความเป็น L-TWIN และเครื่องยนต์ในยุคหลัง ๆ อย่าง V4 ใน Panigale หรือ Streetfighter และที่ผ่านมาชาว Hypermotard แม้กระทั้ง Hyperstrada สไตล์ไฮเปอร์โมตาร์ดต้องขึ้นชื่อเรื่องแอคชั่น ทอร์คจัด ๆ ขี่ยาก ๆ หน่อย และยิ่งเป็น Ducati จะต้อง ร้อนนนนน ร้อนแบบผ่าวขา ขนหน้าแข้งหายกันเป็นแถบ
“และมาถึงสูบเดียว มันจะไม่ร้อนแย่เหรอวะ ยิ่งรอบเรดไลน์ 10000+ มันจะเป็นอย่างไร ได้ลองขี่สักที”
สัมผัสแรกที่ต่างออกไปคือ มันไม่ได้สูงสักหน่อย คนเอเชียขนาด (ความสูง) มาตรฐาน 175 เซนติเมตร พอได้คร่อมแล้ว มันไม่รู้สึกว่าจะต้องแอบระแวงเวลารถจอดเฉย ๆ แปลว่า มันรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลายเบื้องต้น ขาถึงละ ไม่ต้องเขย่ง จัดท่าง่าย ไม่เครียด และที่สำคัญคือ มันเล็กและกระชับเหมือนคร่อมอยู่บนรถซูเปอร์โมโตความจุน้อย ๆ 300 ซีซีด้วยซ้ำ
ซึ่งน่าตกใจที่โมเดลรุ่นนี้ออกแบบทุกอย่างเรียกว่า “ใหม่หมดจด” เรียกว่าฟีลลิ่งแบบไฮเปอร์ไม่เหมือนรุ่นที่ผ่าน ๆ มาเลย เมื่อติดเครื่องยนต์ เสียงท่อที่ออกมา ยังมีความรู้สึกคำรามแบบหนัก ๆ ตามสไตล์รถลูกโต ๆ ท่อเดิมโรงงานที่ว่าเงียบ ยังให้เสียงแอบเร้า ๆ อยู่พอสมควรเลยที่รอบสูง ๆ แล้วถ้าใส่ท่อแต่งแล้วล่ะ จะกระหึ่มขนาดไหน ?
ให้ตายเถอะโรบิ้น ทำไมรถมันคล่องตัวขนาดนี้
พอได้ขี่ปั้บ หลังจากเริ่มคุ้นเคย…ให้ตายเถอะ สนามเล็ก ๆ แบบนี้ ทำไมรถมันคล่องตัวขนาดนี้ โค้กหักซ้ายขวาไปมา ทำได้เหมือนรถเล็ก ๆ นั่นหมายความว่า มันใช้ประโยชน์จากพื้นที่บนถนนได้มากกว่ารถเครื่องใหญ่ ๆ และทอร์คที่ให้มามันไม่เล็กเอาซะเลย รอบสูงมากแบบหมื่นรอบตวัดด้วยเกียร์สอง เปิดและพุ่งออกจากโค้งอย่างรวดเร็ว
และต่อให้พื้นที่น้อย ถนนสั้น ระบบเบรกให้มาเหลือ ๆ กำเบรกหนักหน้ายุบเยอะ บาลานซ์ของรถ กลับทำได้อย่างน่าทึ่ง ท้ายกลับไม่เป๋ไม่เสียอาการ ระบบอีเล็กทรอนิกส์มีส่วนช่วยอย่างมหาศาล และทำงานได้อย่าเต็มประสิทธิภาพ เรื่องระบบช่วยต่าง ๆ ยาวเป็นหาง โปรดดูใน Tech Spec มันเยอะจริง ๆ แม้กับจอเล็กแสดงผลเล็ก ๆ กลับมีโหมดให้ใช้และปรับเยอะมาก อาจต้องทำความคุ้นเคยสักพัก
เมื่อบาลานซ์ดี เบรกดี ทอร์คจัด รถเบาและแรงม้าระดับ 77 แรงม้าทำให้การขี่รถคันนี้ ไม่เหมือนรถไฮเปอร์โมตาร์ดแบบเดิมอย่างสิ้นเชิง ทอร์คที่ออกมา มาก แต่ไม่เกินจนท้ายเสียอาการ อีกนัยหนึ่งที่อยากจะสื่อก็คือ ไม่จำเป็นต้องเป็นมือระดับพระกาฬก็สามารถขี่รถคันนี้ได้อย่างสนุกสนาน
หรือจะจัดหนัก ๆ ก็สามารถ ปิดระบบช่วยเหลือต่าง ๆ ได้ หรือจะขี่แบบล้อลอย พาวเวอร์สไลด์ได้ตามอัธยาศัยแบบเหลือเฟือ ตามสไตล์ผู้ใช้ที่แตกต่างกันไปได้ทันที ลบภาพความ “เฉพาะกลุ่ม” ไปจนหมดเกลี้ยง
แต่อาจจะต้องสู้ลมสักหน่อย เพราะมันไม่ได้เกิดมาเพื่อลากรอบ หมอบตัดลมแบบ Supersport หรือจะไปจนถึง 299 บนถนนทั่วไป ซึ่งก็คงไม่ควรทำถึงขนาดนั้นกับรถ Hypermotard และเรายังอยากให้คุณขี่บนพื้นฐานความปลอดภัยไว้ด้วย จึงไม่มีอะไรต้องห่วงด้านความเร็วปลาย ยืนพื้น 140-180 สบาย ๆ
ขี่ทั้งวัน ก็ยังไหว
เราได้ทดลองขี่หลาย Session ต่อเนื่องตั้งแต่สาย ๆ ยันบ่าย บอกเลย ว่าติดใจ! ด้วยความที่มันดันขี่สนุกเกินคาดไปมาก รถเบามันก็ไม่เหนื่อย ต่อให้ขี่แบบมีแอคชั่นพับไปพับมา แบนโค้งแคบ โค้งหักศอก โช้คอัพหน้า Marzocchi โช้คหลัง Sachs ไม่มีข้อกังขา สามารถปรับได้ง่ายยยมาก และละเอียดเพียงพอ รถสมูท ใช้รอบได้ยาวมาก เพราะพาวเวอร์แบนด์กว้างกับเกียร์ควิกชิพเต็มระบบ (ในรุ่น RVE) และที่มีประโยชน์มาก คือระบบกันเข้าเกียร์ผิด อันนี้ดี ช่วยเซฟระบบเกียร์และจัดระบบการใช้รอบเครื่องยนต์ได้ราบรื่นเป็นอย่างดี
พละกำลัง 77 แรงม้า แต่ Delivery แรงม้าลงพื้นได้สมูทและหมดจดลงตัวกับยางสายฟ้า Pirelli Diablo Rosso IV ซึ่งใช้ได้ดีทั้งถนน รวมไปถึงขับขี่แบบสปอร์ตในสนาม ซึ่งคอมปาวด์ยาง มีความทนทาน และร้อนถึงอุณหภูมิทำงานรวดเร็ว ความลงตัวที่ผสมผสานกันได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เป๊สขี่ได้แบบไม่รู้สึกเบื่อและเป็นรถที่อยากขี่ในทุกโอกาสทั้งในชีวิตประจำวัน ไปทำงาน ไปเรียนในเมืองและนอกเมืองได้ทั้งนั้น
สำหรับราคาค่าตัวเจ้า RVE รุ่นนี้อยู่ที่ 500,000 บาทมีทอน 1,000 นึง นับว่าให้อะไรต่ออะไรมาเกินคุ้ม
และความพิเศษด้วยขุมพลังที่สร้างขึ้นมาใหม่ โดยได้รับแรงบันดาลใจมากจากเครื่องยนต์ Superquadro Mono แบบ V-Twin ของ Panigale 1299 รถสปอร์ตที่มีเครื่องยนต์สองสูบตัวท็อปของค่าย ด้วยปริมาตรกระบอกสูบขนาด 659 ซีซี ใช้ลูกสูบเคลือบ DLC ขนาด 116 มม. ใช้ระบบวาล์วแบบ Desmodromic ให้สมรรถนะการขับขี่ได้รู้สึกถึงความมันส์ มันส์ แล้วก็มันส์..!! ทั้งยังดูแลรักษาง่าย ระยะเซอร์วิสถ่ายของเหลว 15,000 กม. วันนี้ดูคาติลบข้อจำกัดของชื่อเสียงเรื่องดูแลรักษาแพงและยากออกไปแล้ว
และรถลูกเดียว มีดีทั้งเรื่องประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้น ถ้าคุณต้องการเดินทางใกล้ไกล แค่ปรับวิธีขี่ไปตามสถานการณ์ มีโหมดลดกำลัง 4 โหมด ระบบกันยก ระบบ ABS ปรับได้ ระบบช่วยเลี้ยวจาก Bosch ทุกอย่างในแบบที่ Superbike พึงมี Hypermotard 698 Mono มีให้คุณ
แล้วความทนทานล่ะ!! ในวันนี้ Ducati Thailand ปล่อยให้ พวกเรา TestRider ขี่กันแบบ Session ต่อ Session ต่อเนื่องกันเลย เรียกว่าผลัดกันขี่แบบไม่มีแผ่วต่อเนื่อง เช้าจรดบ่าย โช้คอัพ เบรก ยาง เครื่องยนต์ใช้ขี่ต่อเนื่องกันอย่างหนัก เบรกลึกมาก สไลด์เปิดหนัก ใช้เกียร์หนักหนา ไม่มีการแสดงอาการ เบรกเฟด ไม่มีอาการคลัชไหม้โอเวอร์อะไรสักนิด เชื่อเถอะ ขี่ไปเลย รับได้ทุกอย่างอึดแน่ ๆ ขอแค่ Service ตามระยะที่มาตรฐานสูงและการันตีจากศูนย์บริการก็พอ
สำหรับวันนี้ได้ลองทุกคัน และเรามันสายถนน เลยติดใจ บอกเลยเจ้ารุ่นนี้ ทำให้เรารู้สึกแปลกใหม่และตื่นเต้นกับยุคถัดไปของ รถเจ็นใหม่ ๆ ของ Ducati ที่มีอะไรให้เซอร์ไพรส์ในราคาที่จับต้องได้ อุปกรณ์ที่ให้มา ความสนุกที่จะได้รับจากรถมอเตอร์ไซค์หนึ่งคัน…
และอีกอย่าง…เรื่องความสวยเป็นเรื่องปัจเจก แต่ความสวยของ Hypermotard 698 Mono RVE คันนี้ ก็การันตีมาด้วยรางวัล The Best Beautiful Motorcycle จากงาน Eicma 2023 ที่ถือได้ว่า เป็นงานเมกกะแห่ง Motocycle Show ประจำปีของโลก ที่อิตาลี ที่คนรักสองล้อทั่วโลก Must Go และจะสวยขึ้นไปอีก ถ้าเราจับใส่ท่อแต่งและท้ายสั้น
แม่เจ้าโว้ย รับรอง ทรงอย่างแบดูทั้งแรงทั้งลั่น ยิ่งกว่าเดิม
Hypermotard698 mono กับนิยามที่ว่า Live Play Ride ใช้ชีวิตให้สุด บิดให้มันส์ไปกับ Ducati
โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางออฟฟิเชียลของดูคาติที่
Facebook : Ducati Thailand
Line Official : @ducatithailand
การันตีว่า เหมาะกับเป๊ส!….🥴🙏🏼 ไปลองขี่ซะ!! (gasp!)
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก