Home รีวิวและทดสอบ รีวิว Zontes 350D สปอร์ต คล่องตัว เทคโนโลยีเต็มขั้น

รีวิว Zontes 350D สปอร์ต คล่องตัว เทคโนโลยีเต็มขั้น

0

รีวิว Zontes 350D สปอร์ต คล่องตัว เทคโนโลยีเต็มขั้น

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับบิ๊กสกู๊ตเตอร์คู่หูขวัญใจมหาชนจากแบรนด์น้องใหม่ สังกัดค่าย Zontes อย่าง Zontes 350E และ Zontes 350D มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ในวลีเด็ดที่ว่า “แรงสุดในคลาส” ด้วยรูปลักษณ์ความแตกต่างของสองรุ่นสองสไตล์ แต่ยังคงใช้พื้นฐานเครื่องยนต์ 350 ซีซีและระบบเทคโนโลยีในเบสเดียวกันนั่นเอง
ในโอกาสนี้ SuperBike Thailand ก็ไม่พลาดที่จะหยิบหยกเรื่องราวความน่าสนใจในการทดสอบ
รีวิว Zontes 350D แฝดคนน้องรุ่นนี้ จะมีอะไรที่พิเศษแตกต่างจากรุ่นพี่ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทางแบรนด์ได้คัดสรรติดตั้งมาให้ในรุ่นนี้มีอะไรบ้าง และการทดสอบในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ห้ามพลาด

Welcome to Zontes Factory

สำหรับ Zontes ถือว่าเป็นค่ายรถจักรยานยนต์ระดับยักษ์ใหญ่ที่ได้รับการยอมรับนับถือจากเหล่าไบค์เกอร์มาแล้วทั่วโลก ประกอบกับมีอายุมายาวนานแล้วกว่า 20 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งครั้งแรกเมื่อปี 2003 ซึ่งปัจจุบันทางแบรนด์เองได้มีการขยายธุรกิจโดยมีสาขาบริการและจำหน่ายแล้วกว่า 71 สาขาทั่วโลก ด้วยโปรดักท์สินค้าที่ผ่านกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐาน คัดสรรรายละเอียดในพาร์ทและอะไหล่ทุกชิ้นที่บ่งบอกถึงความเป็น High Quality โดยที่มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น รวมถึงบิ๊กสกู๊ตเตอร์ในรุ่นล่าสุดอีกด้วย

ทั้งนี้บริษัท ไดนามิค มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ Zontes เพียงรายเดียวในไทย รวมไปถึงแบรนด์รถจักรยานยนต์จากยุโรปอย่าง Lambretta, Malaguti และ Peugeot Motocycles พร้อมมาการันตีอีกขั้นด้วยว่า ทั้งพาร์ท ชิ้นส่วนต่าง ๆ และกระบวนการประกอบตัวรถในทุกขั้นตอน จะถูกผ่านการตรวจสอบโดยวิศวกรจากบริษัทแม่ เพื่อให้ได้สเปกตรงตามมาตรฐานโรงงาน จึงมั่นใจในเรื่องของ Quality Product พร้อมทั้งยังเสริมความเชื่อมั่นในเรื่องการบริการเซอร์วิสหลังการขาย โดยลูกค้าสามารถเข้ารับบริการเซอร์วิสได้ที่ศูนย์บริการในเครือของไดนามิค มอเตอร์ ที่มีสาขาครอบคลุมกว่า 60 แห่งทั่วประเทศ

สปอร์ต คล่องตัว ในแบบ City Use

สำหรับรุ่น 350D ถือว่าเป็นบิ๊กสกู๊ตเตอร์อีกหนึ่งรุ่นที่ทางแบรนด์ออกแบบมาเพื่อขับขี่เน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก ตรงตามคอนเซ็ปต์รถ City Use แต่ยังคงให้ความร้อนแรงด้วยพื้นฐานเครื่องยนต์แบบเดียวกันกับรุ่นพี่ 350E ประกอบกับดีไซน์ที่สวมคาแรคเตอร์ของความเป็นบิ๊กสกู๊ตเตอร์สายสปอร์ต และมีหน้าตาอันดุดันบวกกับรูปร่างที่ให้ความ โฉบเฉี่ยว คล่องตัว หากใครที่ชื่นชอบความเร็ว รุ่นนี้ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

เริ่มด้วยมิติตัวรถกับระยะความกว้าง x ยาว x สูง ที่ 780 x 2,025 x 1,400 มม. มีระยะความสูงของตัวเบาะ 790 มม. ระยะ Wheelbase 1,405 มม. และ Ground Clearance 150 มม.รวมทั้งตัวเฟรมที่ทำจากเหล็ก ครอบด้วยแฟริ่งจากพลาสติกเกรดท็อปผ่านงานขึ้นรูปออกแบบได้สวยงาม เว้าเส้นสายตัดคมให้สมกับความเป็นรถสปอร์ต

ทั้งไฟหน้าดีไซน์ใหม่ มีไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ ไฟเลี้ยวและไฟโปรเจคเตอร์ 4 ดวง บิวอินต์เข้าด้านในเป็นรูปทรงเดียวกัน ขณะที่ไฟท้าย ไฟเลี้ยวและไฟเบรกยังออกแบบดูสวยงามในแบบเฉพาะรุ่น โดยระบบไฟส่องสว่างทั้งหมดเป็น LED เต็มระบบ

ถ่ายทอดความสปอร์ตต่อเนื่องด้วยวินชิลด์ด้านหน้าสีเทาควันบุหรี่ สามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า (ปรับได้ระดับเดียว) ผ่านปุ่มบังคับบริเวณประกับฝั่งซ้าย พาร์ทด้านหน้ายังออกแบบส่วนเว้าเพื่อการตัดลมได้เนียนยิ่งขึ้น พร้อมกับลายกราฟิกที่ดีไซน์โดยนักออกแบบคนไทยนั่นเอง ประกอบกับตัวรถใช้สีเงาตัดขนานกับสีดำด้านในพาร์ทหลาย ๆ จุด ดูลงตัวเป็นพิเศษ

เบาะชิ้นเดียว 2 ระดับ ดีไซน์ทรงสปอร์ต
ใต้เบาะเก็บหมวก Full Face ได้เต็มใบ


ขณะที่ตัวเบาะเป็นเบาะชิ้นเดียว 2 ระดับ ติดมือจับคนซ้อนมาให้เสริมความเกาะหนึบในการสัมผัสมากขึ้นด้วยแผ่นยางบริเวณข้างใต้ เปิดใต้เบาะลงมาจะพบกับช่องเก็บของ สามารถเก็บหมวก Full Face ได้เต็มใบพร้อมผ้ากันเปื้อนสามารถถอดซักได้

เจาะที่มุมค็อกพิทหรือมุมผู้ขับขี่ ถือว่าให้มาเต็มไม้เต็มมือในแบบเดียวกับโฉมรุ่นพี่อีกด้วย ทั้งหน้าจอสี TFT เบรกมือ ไฟพาส ไฟสูง-ต่ำ ไฟฉุกเฉิน ไฟเลี้ยว แตร สวิตช์ปรับชิลด์หน้า ปุ่ม SET และ ปุ่ม MOD ขณะที่ฝั่งขวามีสวิตช์ออฟรัน ปุ่มสตาร์ท ปุ่มปรับโหมดขับขี่ (ECO-SPORT)

สวิตช์ไฟโปรเจคเตอร์ ปุ่มสตาร์ทระบบ ปุ่มเปิดถังน้ำมันและเบาะ ก้านเบรกปรับได้ แต่รุ่นนี้ไม่สามารถปรับระยะแฮนด์ได้ ส่องลงมาอีกจะพบกับช่องเก็บของด้านหน้า 2 ช่อง มีพอร์ตชาร์จไฟ USB ไทป์ A และ C อย่างละหนึ่งจุดที่ช่องด้านซ้าย โดยปุ่มเปิดจะอยู่บริเวณตรงกลางไม่เหมือนกับรุ่น 350E ที่อยู่ข้างบนนั่นเอง

มุมมองไม่บังสายตา จะหมอบขี่ ก็ทำได้

สำหรับมุมมองผู้ขับขี่ องศาของแฮนด์บาร์เยี้องเข้าหาตัวนิดนึงทำให้รู้สึกว่าแฮนด์ไม่ได้กว้างเลย กำลังพอดีกับความคล่องตัวของมันกลับการที่เราต้องมุดหรือขับขี่ในเวลาที่รถติด ๆ สามารถผ่านไปได้ง่ายแน่นอน และหน้าจอสี TFT ที่ให้มาค่อนข้างใหญ่มองเห็นได้ชัด แต่ถึงชิลด์จะดูเล็กกว่าโฉมรุ่นพี่แต่ก็ไม่เจอปัญหาในเวลาขับขี่ กลับรู้สึกชอบด้วยซ้ำ โดยเฉพาะในช่วงเวลาขับขี่ย่านความเร็วสูงต้องบอกเลยว่า ขี่เป็นหมอบ หมอบเป็นขี่ ลมไม่ปะทะแน่นอน 

เครื่องยนต์มาเต็ม! (Top Speed 170 km/h)

และด้วยการใช้พื้นฐานเครื่องยนต์ตัวเดียวกัน กับสูบเดียว ขนาด 349 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีขนาดลูกสูบและช่วงชัก 70 X 74.9 มม. ใช้ระบบหัวฉีดจาก Bocsh สตาร์ทด้วยระบบไฟฟ้าและขับเคลื่อนด้วยสายพาน CVT ให้แรงม้าสูงสุดที่ 36 แรงม้าที่ 7,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 38 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที โดยเคลมอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมาที่ 35 กม./ลิตร แถมยังผ่านมาตรฐาน EURO5 เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

หลังจากที่ได้ลองขับขี่ไปแล้ว ถือว่าแรงและอัตราเร่งในช่วงรอบต้น กลางทำออกมาได้ติดมือพอสมควรทำให้เวลาที่จะเร่งแซงในช่วงรถติดๆ หรือช่วงที่ต้องใช้ความเร็วตัวรถทำออกมาได้ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองมาก ๆ และในช่วงรอบปลายความเร็วไหล ๆ ขึ้นไปได้สบายมาก ๆ สำหรับ Top Speed (หน้าไมล์) สูงสุดทำได้ 170 กม./ชม. ถือว่าไม่ธรรมดา และนี่คือรถเดิม ๆ จากโรงงาน สำหรับสายโมดิฟายไปต่อได้แน่นอน แล้วแต่สูตรใครสูตรมัน ซึ่งนอกจากอัตราเร่งที่ดีแล้วยังประหยัดน้ำมัน อัตราเฉลี่ยอยู่ประมาณ 30 กม. ต่อลิตร ถือว่าในคลาสนี้ เร็ว แรง และประหยัดพอสมควรเลย

ช่วงล่างดี ตรงตามมาตรฐาน

โช้คหน้าเทเลสโคปิก จานเบรกขนาด 268 มม. คาลิเปอร์เรเดียลเม้าท์ J.Juan จากสเปน 2 ลูกสูบ ล้อและยางขนาด 120/70-15
โช้คสปริงคู่ด้านหลัง ปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ จานเบรกขนาด 265 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดียว ล้อและยางขนาด 140/70-14


โช้คหน้าเทเลสโคปิก และโช้คหลังสปริงคู่ ปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ ทางโรงงานเซ็ตมาให้แข็งพอสมควร ไม่ย้วย และไม่นิ่มเลยกับน้ำหนักตัวของผมอยู่ที่ 85+ ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าไม่แข็งและไม่กระด่างเลย หากขับขี่ใช้งานทั่วไปถือว่าค่อนข้างโอเค ใช้ได้ยาว ๆ แต่ถ้าในรอบความเร็วสูง ๆ ที่ 140-150 ขึ้นไป โช้คหน้ามีอากาศสั่นเล็กน้อยเพราะด้วยความที่โช้คหน้ามีความสูงพอสมควร บวกกับร่องถนนผสมกับทิศทางลมทำให้รถมีอาการเล็กหน่อย แต่ถ้าได้เซ็ตโช้คหน้าดี ๆ บอกได้เลยว่านิ่ง วิ่งกดยาว ๆ แถมเข้าโค้งได้สบายแน่นอน

ในเรื่องของระบบเบรก กับดิสก์เบรกด้านหน้าขนาด 268 มม.คาลิเปอร์ด้านหน้าแบบเรเดียลเม้าท์ขนาด 2 ลูกสูบ J.Juan จากสัญชาติสเปน และดิสก์เบรกด้านหลังขนาด 265 มม. คาลิเปอร์ด้านหลังเป็นลูกสูบเดียว มาพร้อม ระบบ ABS แบบ Dual Channel แยกหน้า-หลัง เบรกที่ให้ติดรถมาเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองถือว่าเบรกดีในระดับนึงเลย ต่อด้วยขนาดล้อและยางด้านหน้า 120/70-15 และด้านหลัง 140/70-14 ยางเป็นยาง IRC ถือว่าใช้ได้ตามมาตรฐาน

ฟีเจอร์ครบสุด ในรถคลาส 350 ซีซี

สำหรับเทคโนโลยีที่ติดตั้งมาให้ถือว่าค่อนข้างครบครัน เริ่มแรกต่อด้วยระบบล็อกคออัตโนมัติ ซึ่งเจ้าระบบระบบนี้จะทำงานต่อเมื่อเวลาหักแฮนด์สุด ระบบก็จะทำการล็อกคอให้อัตโมัติ และสามารถปลดล็อกได้ด้วยการกดปุ่มออนสวิตช์ ซึ่งเท่ากับปลดล็อกแล้วนั่นเอง

ที่เจ้ากุญแจสมาร์ทคีย์ของเจ้ารุ่นนี้เป็นสมาร์ทคีย์ที่มีการดีไซน์ตัวกุญแจที่ออกแบบมาดูล้ำสมัย แถมยังเป็นเวอร์ชันล่าสุดเป็น 3.0 (IP67) โดยสามารถกันน้ำได้ถึงครึ่งชม. ในแหล่งน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตร ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว ความสะดวกต่อการใช้งานก็ทำได้เช่นเดียวกัน โดยมีรัศมีระยะเซ็นเซอร์ที่ 1.5 เมตร หรือแม้กระทั่งแบตหมดก็สามารถใช้งานได้ โดยนำเจ้าสมาร์ทคีย์ไปแนบกับตัวแสกนเซ็นเซอร์ด้านในช่องเก็บของฝั่งขวา แล้วกดปุ่มออนสวิตช์ก็สามารถเปิดระบบได้ทันทีิ


อีกทั้งตัวดิสก์เพลย์หน้าจอ TFT รุ่นนี้สามารถปรับการแสดงผลได้ถึง 4 รูปแบบตามการใช้งาน ปรับความสว่างได้อีก 5 ระดับ แถมมีระบบปรับความสว่างแบบอัตโนมัติทำงานด้วยเซ็นเซอร์ที่หน้าจอ รวมถึงฟังก์ชันบนหน้าจอที่แสดงผลทั้งมาตรวัดความเร็ว เกย์น้ำมัน ค่าเฉลี่ยอัตราบริโภคน้ำมัน ความเร็วเฉลี่ย ทริป เวลา แบตเตอรี่ อุณภูมิ ต่าง ๆ มากมาย

พร้อมด้วยโหมดปรับค่าต่าง ๆ ทั้ง โหมดปรับเปลี่ยนภาษา โหมด TPMS ตรวจวัดค่าแรงดันลมยาง ระบบแทร็คชันคอนโทรล และปรับหน่วยวัดระยะทางแบบเดียวกับรุ่นพี่นั่นเอ

พร้อมระบบเชื่อมต่อกับผ่านสมาร์ทโฟนถึง 3 ช่องทาง

แอป Zontes Intelligene สามารถตรวจเช็คข้อมูลตัวรถแบบละเอียดครบถ้วน
เชื่อมต่อผ่านแอป Carbit Ride สามารถดูระบบ GPS และเล่น Youtube ผ่านหน้าจอ


และยังสามารถเชื่อมต่อข้อมูลตัวรถผ่านสมาร์ทโฟนได้ถึง 3 แบบด้วยกัน ดูเล่น ใช้งานกันจุก ๆ ไปเลย ซึ่งประกอบไปด้วย เชื่อมต่อผ่านระบบบลูทูธ การเชื่อมต่อผ่านแอป Zontes Intelligene (สามารถโหลดผ่าน App Store และ Play Store) สามารถตรวจเช็คข้อมูลตัวรถแบบละเอียดครบถ้วน รวมถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น รับสายโทรศัพท์ ส่งข้อความ ดูแผนที่ เช็คข้อมูล ระยะเซอร์วิสต่าง ๆ หรือเล่นมีเดียเพลย์ลิสก็ทำได้ โดยเจ้าของรถสามารถลงทะเบียนและยืนยันผ่านอีเมลล์เฉพาะเจ้าของรถ (1 หมายเลขเครื่องตัวรถต่อ 1 User)

แอปพลิเคชัน Carbit Ride (สามารถโหลดผ่าน App Store และ Play Store)
สามารถดู GPS แผนที่ต่าง ๆ ได้
สามารถดูวิดีโอ YouTube ได้


และการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน Carbit Ride (สามารถโหลดผ่าน App Store และ Play Store) โดยเจ้าระบบนี้สามารถดูแผ่นที่และเล่น Youtube ผ่านหน้าจอ โดยแสกนคิวอาร์โค้ดได้ที่หน้าจอ โหลดแอป ลงทะเบียนและทำการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเท่านี้ก็สามารถใช้งานได้แล้ว (ถ้าหากใช้งาน Navigation และ Music บนหน้าจอ ต้องเสียค่าบริการเพิ่ม แต่ถ้าหากต้องการใช้งานฟรี ให้เข้าสู่ระบบ Mirror screen และใช้งานผ่านแอป Google Map หรือ Youtube ผ่านทางสมาร์ทโฟน)

นอกจากนี้ยังรองรับความสะดวกสบายด้วย Mirror Screen ที่จะสามารถแคสหน้าจอสมาร์ทโฟนลงไปในจอ TFT ได้ ซึ่งจะสามารถดู Youtube หรือเปิดแอพพลิเคชันต่าง ๆ จากทางมือถือให้แสดงผลบนหน้าจอได้ สะดวกต่อการใช้งาน ซึ่งเจ้าระบบนี้สามารถรองรับทั้งระบบ IOS และ Android ไปโหลดมาได้นะ

สีเทา (Light Grey)
สีเขียว (Green Turquoise)
สีดำ (Extra Black)


สำหรับรุ่นนี้มีจำหน่าย 3 สีด้วยกันประกอบไปด้วย สีเทา (Light Grey), สีเขียว (Green Turquoise) และสีดำ (Extra Black)
เปิดราคาเริ่มต้นที่ 149,000 บาท พร้อมการรับประกัน 3 ปี หรือ 30,000 กม. กิ๊ฟว้อยเชอร์ส่วนลด 8,000 บาท โดยสามารถชมตัวจริงหรือทดสอบขับขี่ได้ที่ศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ Zontes สาขาใกล้บ้านท่าน

สุดท้ายนี้ก็ขอฝากพิจารณาไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับ Zontes 350D บิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่พร้อมกับความสปอร์ตไม่เหมือนใคร มีสมรรถนะตอบโจทย์การขับขี่ที่ดูคล่องตัว ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันใช้งานครบครัน สำหรับสายที่ชื่นชอบความเร็ว ความคล่องตัวรุ่นนี้คิดว่าเหมาะสมกับการไปต่อจริง ๆ

แต่ไม่จำเป็นต้องไปต่อในเรื่องเร็วเสมอไป ความสวยงามก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเลยไม่น้อย เพราะตัวรถมันสุดในคลาสอยู่แล้ว และด้วยราคาที่ 149,000 บาท ถือว่าน่าสนใจในพิกัดนี้ ก็ลองพิจารณากันดู สำหรับโมเดลรุ่นต่อไปจากทาง Zontes จะเป็นรุ่นอะไร อย่าลืมกดติดตามและห้ามพลาดข่าวสารจาก SuperBike กันนะ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก=

NO COMMENTS

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Exit mobile version