Home รีวิวและทดสอบ รีวิว Honda NX500 2025 ตัวเริ่มต้นสำหรับนักเดินทางมือใหม่

รีวิว Honda NX500 2025 ตัวเริ่มต้นสำหรับนักเดินทางมือใหม่

0

รีวิว Honda NX500 2025 ตัวเริ่มต้นสำหรับนักเดินทางมือใหม่

หลังชมคอนเทนต์ 5 จุดเด่นของเจ้าทัวริ่งอย่าง NX500 กันไปแล้ว คราวนี้เราจะพามาพิสูจน์ สัมผัสฟีลลิ่งของการ รีวิว Honda NX500 2025 รุ่นนี้ในทริปการเดินทาง กทม.-ระยอง รวมระยะทางมากกว่า 300 กิโลเมตร จะมีอะไรน่าสนใจ แล้วจะตอบโจทย์สำหรับผู้ขับขี่ได้มากน้อยแค่ไหนกันเชียว 


สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน 5 จุดเด่นของเจ้า NX5
00 รุ่นนี้สามารถเข้าไปอ่านได้ คลิ๊กที่นี่ อันดับแรกต้องกล่าวว่า โมเดลรุ่นนี้เป็นโมเดลแอดเวเนเจอร์ทัวริ่งไซส์กลาง ที่ต่อยอดมาจากรหัส CB500X ที่ขายในบ้านเรามานับเป็นสิบปีแล้ว คราวนี้ทางค่ายได้ปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ พร้อมรีรหัสใหม่แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งพันธุกรรมความเป็นรถทัวริ่งแอดเวนเจอร์ตัวเด่นของทางค่าย โดยเจ้า NX500 มาพร้อมดีไซน์ปรับใหม่หมดจดทั้งคัน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า แฟริ่ง ชุดสีและลวดลาย รวมถึงส่วนอื่น ๆ อีกหลายจุด เข้ากับคอนเซ็ปต์ความเป็นรถครอสคันทรี เพื่อการผจณภัยในทางฝุ่นได้เต็มพิกัด

ท่านั่งการขับขี่

ด้วยความที่เป็นรถทัวริ่งไซส์กลางในพิกัดเริ่มต้น การออกแบบในหลาย ๆ จุด จึงเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่ให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่ยากเย็นนัก ด้วยส่วนตัวผู้ขับขี่ (แอดมิน) ที่มีส่วนสูงอยู่ที่ 176 ซม. พอเวลานั่งคร่อมแล้วขาถึงพื้น เแถมตัวเบาะถูกออกแบบให้ดูกระชับ สามารถขยับท่วงท่าได้ง่าย พักเท้าให้มาขนาดค่อนข้างพอดีสามารถนั่งหรือยืนขี่ได้สะดวก ไม่ลำบากจนเกินไป

ระยะแฮนด์อาจจะกว้างไปเล็กน้อยในแบบรถทัวริ่ง และด้วยความที่เป็นแฮนด์บาร์แบบยกสูง เวลาขับขี่ซอกแซกในเมืองอาจต้องใช้ทักษะเป็นพิเศษ แต่เมื่อขับขี่ออกทริปต่างจังหวัดต้องบอกเลยว่าสบายสุด ๆ ไม่เมื่อยแขนแม้แต่น้อย (ขี่ 2-3 ชม.แวะพักก็ยังดี ไม่งั้นเดี๋ยวเมื่อยจริง) โดยรวมระยะแฮนด์ เบาะ พักเท้าออกแบบมาให้สามารถนั่งขับขี่ได้ง่าย สะดวก ทั้งยังสามารถยืนขี่ได้แบบไม่เคอะเขิน (ก็รถแอดเวนเจอร์ทัวริ่งนี่นา)

สำหรับมุมมองการขับขี่ในจุดนี้ไม่น่าเป็นปัญหา ตัวชิลด์ตัดลมได้ดีไม่บดบังสายตา หน้าจอสี TFT 5 นิ้วอ่านค่าได้สะดวกหรือแม้กระทั่งเชื่อมต่อระบบนำทางผ่านแอปพลิเคชัน  Honda Road Sync สามารถดูแผนที่ผ่านหน้าจอได้สะดวก และไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้งานเลยแม้แต่น้อย นอกจากตัวหน้าจอแล้ว กระจกข้างไม่บดบังสายตา เห็นวิสัยทัศน์ถนนข้างหน้าได้อย่างชัดเจน ตอบโจทย์สำหรับสายไบค์เกอร์ยุคใหม่อย่างแน่นอน 

พละกำลังเหลือ ๆ 

ด้วยเครื่องยนต์แบบ 2 สูบเรียง ขนาด 471 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบวาล์ว DOHC 4 วาล์วต่อลูกสูบ พร้อมกล่อง ECU ปรับจูนมาใหม่ พ่วง ระบบหัวฉีด PGM-Fi ด้วยเกียร์ 6 สปีด โดยมีแรงม้าสูงสุดที่ 47 แรงม้าที่ 8,600 รอบ/นาที และ แรงบิดสูงสุดที่ 43 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบ/นาที  

พละกำลังเท่านี้ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นขี่ในเมืองหรือออกทริปต่างจังหวัด และพิเศษอีกอย่างเวลาขับขี่ทางฝุ่นก็สามารถทำได้ง่ายเช่นกัน ด้วยคาแรคเตอร์ของเครื่องยนต์ที่ให้รอบต้นมาดี แรงบิดมาไว มันจึงตอบโจทย์การขับขี่ในสถานการณ์ได้หลากหลายรูปแบบ บวกทั้งท็อปสปีดที่ใช้ขี่เดินทางนั้นมากกว่า 140 กม./ชม. อย่างแน่นอนแต่อาจจะเหนื่อยเล็กหน่อย 

บอกได้แค่ว่าพละกำลังใช้งานในย่านต่าง ๆ เหลือเฟือในพิกัดนี้  สรุปเป็นว่ารอบ ต้น กลางกำลังดี ปลายดันยากนิดหน่อย เน้นไปทางเดินทางออกทริปใช้งานเสียมากกว่า กับความเร็วพอยืนพื้น 120-140 ได้สบาย ๆ เข้าคอนเซ็ปต์ขับขี่เดินทางปลอดภัย บวกกับถังน้ำมันขนาด 17.7 ลิตร และเชื่อว่าถูกใจสายเดินทางแน่นอน 

ช่วงล่างโอเค

พร้อมระบบซับแรงกระแทกด้วยโช้คอัปด้านหน้าที่เป็นหัวกลับรุ่น Showa SFF-BP และโช้คเดี่ยวด้านหลังแบบโปรลิงค์ ปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ สำหรับฟีลลิ่งของตัวโช้ค โช้คอัปด้านหน้าถือว่าทำออกมาได้ดี แต่โช้คหลังรู้สึกหน่วงเล็กน้อย แต่ถ้าตัวรถมีสัมภาระแอดว่าน่าจะโอเคเลย รองรับน้ำหนักได้ดี

ในขณะที่ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกหน้าคู่ขนาด 296 มม. คาลิเปอร์ Nissin 2 ลูกสูบมาพร้อม ABS แบบ 2ชาแนล ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 240 มม. คาลิเปอร์เบรกลูกสูบเดียว ฟีลลิ่งของเบรก เบรกหนึบถูกใจ สายเดินทางคงถูกใจดิสก์คู่อย่างแน่นอน ส่วนล้ออลูมิเนียมดีไซน์ใหม่พร้อมด้วยยาง Dual Purpose โดยมีขนาด 110/80 -19 และด้านหลังขนาด 160/60-17 ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่า ซึ่งทำให้ขับขี่และควบคุมตัวรถได้ดียิ่งขึ้น

ฟีเจอร์อัปเกรดใหม่ ทันสมัยยิ่งขึ้น

รองรับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอสี TFT ขนาด 5 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อข้อมูลตัวรถกับสมาร์ทโฟนผ่านแอป Honda Road Sync สามารถดูข้อความ อีเมลล์ หรือแม้กระทั่ง GPS ระบบนำทาง เป็นต้น นอกจากนี้ตัวหน้าจอยังสามารถปรับค่าการแสดงผล (Display) ได้ตามความถนัดของผู้ขับขี่ ส่วนระบบอื่น ๆ ที่ติดตั้งมาให้ประกอบไปด้วย แอสซิสต์สลิปเปอร์คลัตช์ ระบบแทร็คชันคอนโทรล (เปิด-ปิด ได้) ABS Dual Channel เสริมความปลอดภัยในการเบรกได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น ไฟเตือนเมื่อเบรกกระทันหัน ESS และระบบไฟส่องสว่าง LED1 รอบคัน ถือว่าระบบที่ให้มาโอเคเลยสำหรับรถทัวร์ริ่งไซส์กลาง เดินทางไกลสบายหายห่วง

จำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 สี

สำหรับสีที่จำหน่ายทั้งหมดมีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีแดง GRAND PRIX R ED , สีดำ MAT GUNPOWDER BLACK METALLIC และสีขาว PEARL HORIZON WHITE เปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 227,900 บาท ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาสำหรับรถทัวริ่งในคลาสเริ่มต้น

คะแนนสำหรับรีวิวการทดสอบ
Design : 8.5/10 ปรับใหม่หมด หล่อยิ่งขึ้น แทบไม่เหลือดีไซน์เดิมเลย
Ergonomic : 8.5/10 นั่งสบาย เบาะไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป พอดีกับก้น หลังจากที่นั่งขับขี่ระยังไกล ยังไม่รู้สึกถึงอาการเมื่อยเลย และท่านั่งหลังตรงบวกกับรถที่มีชิวหน้าสูงทำให้ขับขี่แล้วตัวไม่ปะทะตัวเยอะ
Engine : 8/10 รอบต้นถึงว่าออกตัวได้อย่างดี ไม่กระชากรอบต้นมาเร็ว รอบกลางถือว่าดีมาก ตึงมือโอเค รอบปลายอาจจะเหนื่อยๆหน่อยแต่วิ่งยาวๆ สบายแน่นอน

Suspension : 9.0/10 โช้คหน้าถึงว่าเซ็ทมากำลังดีเลย วิ่งเร็วๆ แล้วลงหลุม ไม่มีอาการ และ ซับแรงกระแทก ได้ดี โช้คหลังมีความแข็งไปนิดหน่อย แต่ถ้าขนของขนสัมภาระ ถือว่าตอบโจทย์มากๆ
Brake : 7.5/10 เบรกหน้าหนึบถูกใจแน่นอน เบรกหลังถือว่าดี
Tyre : 7/10 เหมาะสมกับการใช้งานแบบกึ่งๆ เดินทางถ้าออกทริปเดินทางขึ้นเข้าถือว่าโอเคเลย แต่ถ้าใช้งานในเมืองแนะนำ เปลื่ยนถือว่าโอเคเลย
OVERALL : 9/10 ถือว่าเป็นรถที่เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือใครที่กำลังสนใจอยากจะลองหารถสายเดินทางดีๆ สักคัน ผมว่า NX500 ตอบโจทย์ตรงนี้มากๆ ด้วยเรื่องของการปรับใหม่ทั้งหมดถือว่าอยู่กันยาวๆ และที่สำคัญศูนย์บริการและค่าเซอร์วิสที่ ไม่แพง และราคาตัวรถดีมากๆ

Ride or Upgrade : อย่างแรกเลย กระเป๋าหลังหรือกล่อง สำหรับเดินทางขาดไม่ได้แน่นอน และก็ยังรวมไปถึง การ์ดมือ ไฟส่องสว่าง และถ้ามีงบเหลือๆ อัพเกรดโช้คหลัง กับยางถือว่าขี่สบายใจแน่นอน

สรุปโดยรวมกับการรีวิวเจ้า NX500 รุ่นนี้ ในทริปกทม.-ระยอง ซึ่งจะไม่ค่อยมีรายละเอียดของทริปมากเท่าไหร่นัก จะเน้นไปทางฟีลลิ่งของการขับขี่เสียมากกว่า ก็ต้องเรียนว่าเจ้ารุ่นนี้ ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์สำหรับสายทัวริ่งที่กำลังมองหารถบิ๊กไบค์ไซส์กลางไว้ใช้งานเดินทางออกทริป เที่ยวต่างจังหวัด จะใส่ปิ๊บหลัง แบกเป้ ย่อมทำได้ดั่งใจต้องการ หรือใครอยากได้เอาไปอัปสมรรถนะเพิ่ม เปลี่ยนยงเปลี่ยนยางเอาไว้ลุยทางฝุ่นก็สนุกไปอีกแบบ แล้วแต่ความชอบและความสุขของผู้ขับขี่ครับ โดยสามารถเข้าไปชมตัวจริงและทดสอบขับขี่ได้ที่ Honda BigWing สาขาใกล้บ้านท่านได้เลย 

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

 

NO COMMENTS

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Exit mobile version