รีวิว Moto Guzzi V7 มอเตอร์ไบค์ระดับตำนานจากอิตาลีแท้ๆ ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานถึง 95 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1921 จนถึงปัจจุบัน ด้วยตราสัญลักษณ์อินทรีผงาดที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V-Twin วางขวางที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และในปีที่ผ่านมาก็เป็นปีครบรอบ 50 ปีของโมเดล V7 แล้ว และ V7 III ก็เป็นโมเดลฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษนี้ ว่าแต่ขี่แล้วเป็นอย่างไร ไปอ่านกันได้เลย
Words: Khet Edit: Benz Pics: Nop
หากคุณเป็นไบค์เกอร์ตัวจริง คุณก็น่าจะได้ยินชื่อ Moto Guzzi อยู่บ้าง แต่สำหรับบางคนชื่อนี้อาจไม่ค่อยคุ้นหูนัก อาจจะเคยได้ยินบ้าง ซึ่งในอดีตการที่จะได้ยลโฉมเจ้ามอเตอร์ไบค์สัญชาติอิตาเลี่ยนแบรนด์นี้นั้นแสนยากยิ่งกว่าแบรนด์อื่น แต่ตอนนี้คุณสามารถไปทดลองขับขี่ ไปชมตัวจริงได้ตามตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านคุณได้แล้วครับ อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่าผู้ใช้บ้านเราจะยังไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ ถ้าคุณไม่เชื่อ ลองสังเกตดู ถ้าภายใน 3 วันคุณเจอเจ้า Moto Guzzi เกิน 5 คันบนถนน ผมให้คุณมาตบหัว บ.ก. ของผมได้เลย...ทว่าวันนี้ผมบอกได้เลย สายคลาสสิคไม่มองคันนี้เลย ถือว่าผิด
โดดเด่น
ครั้งแรกที่ได้พบเจ้าอินทรีตัวนี้ Moto Guzzi V7 III Stone มันช่างเป็นรถที่ดีไซน์คลาสสิค ไฟหน้าและเรือนไมล์ทรงกลมคู่ ผสมผสานระหว่างอนาล็อกและดิจิตอล มองเห็นชัดเจนสวยงาม การออกแบบที่เน้นโชว์เครื่องวีทวิน 4 จังหวะขนาด 744 ซีซีแบบขวาง บ้างอาจจะมองว่าดูเทอะทะ แต่จริงๆ กลับแฝงรายละเอียดในการดีไซน์ที่สวยงามในตัวของเครื่องยนต์ พร้อมถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดใหญ่โตความจุ 21 ลิตร รวมน้ำมันสำรอง 4 ลิตร เหมาะกับการเดินทางระยะไกลๆ ได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเข้าปั๊มบ่อย เบาะนั่งตอนเดียวแบบฉบับรถคลาสสิค กับล้อแม็กหน้าขนาด 18 นิ้ว ล้อหลัง 17 นิ้ว พร้อมโช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิกที่มาพร้อมซีลกันฝุ่นแบบวินเทจ แกนโช้คขนาด 40 มม. โช้คอัพหลังคู่สามารถปรับตั้งสปริงพรีโหลดได้ โดยระบบขับเคลื่อนเป็นแบบเพลา ดิสก์เบรคแบบจานเดียวทั้งหน้าและหลัง แถมความทันสมัยด้วยระบบ ABS ที่เพิ่มเติมเข้ามา และมั่นใจด้วยระบบเบรคจาก Brembo สัญชาติเดียวกันที่ใช่สยบเจ้าพญาอินทรีตัวนี้นอกจากนี้ยังมีแทร็คชั่นคอนโทรลไม่ให้ล้อฟรีเวลากระแทกคันเร่งหนักเกินไปอีกด้วย
ซ่อนเล็บ
หลังจากการขับขี่เจ้า Moto Guzzi V7 III Stone แล้วผิดคาดจากที่คิดไว้ตอนแรกพอสมควรด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเทอะทะและค่อนข้างหนักขณะเข็นเนื่องจากมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำแต่เมื่อขับขี่แล้วไม่ได้รู้สึกถึงความหนักในช่วงแรกแต่ให้กลับความรู้สึกคล่องตัวขณะขับขี่แม้ในสภาพถนนที่รถติดอย่างหนักในเมืองก็สามารถซอกแซกได้ดั่งใจเครื่องที่เห็นภายนอกว่ามีขนาดใหญ่ก็ไม่ได้ส่งความร้อนมายังขาแม้จะมีการจอดติดเครื่องไว้เป็นเวลานานนับว่าทำได้ดีสำหรับการขับขี่ในเมือง
ในส่วนการขับขี่ทางไกล เจ้า Moto Guzzi V7 III Stone ตัวนี้ยิ่งทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์ กับแรงบิดที่มีมาให้อย่างเหลือเฟือ จากความเร็วที่คิดว่าทำได้แค่เต็มที่ไม่เกิน 170 กม/ชม. แต่กลับทำได้ถึง 190+ กม/ชม. แต่ยังไปต่อได้อีกหากถนนเมืองไทยจะอำนวย อัตราเร่งตั้งแต่ 0 – 6,000 รอบ ยังดูชิลล์ๆ สบายๆ ไม่ได้ทำให้รู้สึกถึงพลังสักเท่าไหร่ แต่หลังจาก 6,000 รอบไปแล้ว ก็สัมผัสได้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเจ้า Moto Guzzi ที่แฝงอยู่ มันเปลี่ยนจากการเดินทางชื่นชมธรรมชาติสองข้างทางให้กลับเร่าร้อนขึ้นมาทันที ด้วยขุมพลังเครื่อง V – twin กับเสียงอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งต่างจากรถตลาดทั่วไปด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำช่วยในการควบคุมรถในทางโค้งได้อย่างคล่องตัวเบาะรถออกแบบให้ผู้ขับขี่รู้สึกสบายไม่รู้สึกเหนื่อยล้าแม้เดินทางไกล
สรุปโดยรวม รีวิว Moto Guzzi V7 III Stone สัญชาติอิตาลีคันนี้ ถือว่าน่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไบค์สไตล์คลาสสิค ที่มีส่วนผสมระหว่างศิลปะแห่งยนตกรรมที่เป็นตำนานมาอย่างยาวนานกับขุมพลังความแรงที่เพิ่มขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่รักความเร็วและการเดินทาง ไม่ว่าต่างจังหวัด หรือ ในเมือง สำหรับมือใหม่ก็ไม่ได้ยากในการที่จะควบคุมเจ้าอินทรีตัวนี้ ด้วยราคาค่าตัว 569,000 บาท นับว่าคุ้มค่าลงตัวกับยอดคลาสสิคไบค์ที่แอบแฝงไปด้วยความทันสมัยระดับตำนานคันนี้
อ่านข่าวสารเพิ่มเติม คลิกทีนี้
ติดตามข่าวสาร Facebook คลิกทีนี้