ล่าสุดผมได้มีโอกาสได้ไปสัมผัสทดสอบ รีวิว Aprilia RSV4 RF เรือธงของทางค่ายกันถึงที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต และแน่นอนว่าผมก็เก็บรายละเอียดสัมผัสแรกมาฝากท่านผู้อ่านกันเช่นเคยครับ
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัท Vespiario (Thailand) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมชั้นนำ Piaggio และ Vespa พร้อมทั้งมอเตอร์ไบค์ระดับตำนานอย่าง Aprilia และ Moto Guzzi จัดกิจกรรมเอาใจสาวก Aprilia ที่หลงรักการขับขี่ในแบบเรซซิ่งอย่าง Aprilia Track Day 2018 ให้ถึงที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์กันเลย พร้อมนำรถ Aprilia RSV4 และ Aprilia RSV4 RF (โมเดล 2017) ที่จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำที่สุดของทางฝ่ายเรซซิ่งของทางค่ายอย่าง Aprilia Racing มาให้ทดลองขับขี่ในสนามกันแบบไม่ต้องเกรงใจกันอีกด้วย
งานนี้ Nicola Capello ผู้จัดการฝ่ายภาพพื้นเอเชียแปซิฟิกจาก Piaggio Asia Pacific PTE Ltd. มาเป็นคนแนะนำระบบต่างๆ ของตัวรถ วิธีการใช้งานต่างๆ รวมถึงเทคนิคการดึงสมรรถนะของรถมาใช้ให้ได้อย่างเต็มที่ รวมไปถึงมี Fausto Ricci อดีตแชมป์โลกรุ่นเก๋าชาวอิตาลีมาช่วยสอนเทคนิคการขับขี่อย่างถูกต้องและปลอดภัยอีกด้วย
ลงสนาม
แน่นอนว่างานนี้ผมก็จะเน้นไปที่ รีวิว Aprilia RSV4 RF ตัวท๊อปที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีระดับขั้นสุดของทางค่ายโดยเฉพาะระหว่างการทดสอบนั้นมีฝนแอบเทลงมาด้วยทำให้ได้มีโอกาสทดสอบทั้งในแบบแทร็กเปียกและแทร็กแห้งไปพร้อมๆกันในวันเดียวเลยหลังจากได้ลองขับขี่ในสนามอยู่เป็นเวลาราวๆครึ่งวันก็พอจะจับอาการและฟีลลิ่งต่างๆได้อยู่พอสมควร
เครื่องยนต์ V4 แบบ 65 องศา ขนาด 999.6 ซีซีระบายความร้อนด้วยน้ำที่โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยการออกแบบที่เป็นหนึ่งเหนือทุกค่าย ทำให้เครื่องยนต์มีขนาดเล็กกะทัดรัดมากที่สุดเมื่อเทียบกับรถในคลาสซูเปอร์ไบค์ของทุกค่าย จึงทำให้น้ำหนักของตัวรถเบา และจากการทดลองขับขี่อยู่ก็พบว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ขับขี่ได้สนุกมากๆ มันรวมข้อดีและจุดเด่นต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน มีความนุ่มนวลตามแบบของเครื่อง 4 สูบ ทำให้รถขี่เข้าโค้งได้ง่าย และข้อดีของรถแบบสูบวีคือ กำลังแรงบิดและแรงม้าที่เครื่องยนต์ผลิตออกมานั้นมีมาก ดังนั้นรถจึงให้แรงบิดสูง แต่ยากที่จะควบคุม แต่เมื่อรวมกันภายใต้ชื่อ RSV4 คือการรวมทุกสิ่งเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้รถขี่ง่ายขับสนุก และมีแรงบิดที่มหาศาล แต่ก็อยู่ในการควบคุม เครื่องที่เป็นเครื่องแบบ V วางตามแนวยาวของรถทำให้ทุกอย่างอยู่ตรงการ บาลานซ์ของรถดี ยิ่งทำให้เค้าโค้งได้อย่างสมดุล และแม่นยำในทุกไลน์การขับขี่
การควบคุมรถที่ได้ทดสอบ จากความรู้สึกสัมผัสได้ชัดเจนว่าขี่ง่ายและเลี้ยวง่ายกว่าที่คิดมากๆ ช่วงล่างที่ให้มาจากโรงงานก็เป็นของดีเลยเป็น Ohlins ถือว่า เป็นยี่ห้อสูงสุดของโช้คในยุคนี้ จัดเป็นของดีมีคุณค่าคู่ควรกับรถอยู่แล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่การปรับเซ็ต เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ขับขี่แต่ละคน ว่าจะขี่ในรูปแบบไหน ขี่ทั่วไปหรือจะขี่ซิ่งในสนาม ผมได้ขับขี่แบบไม่ได้ปรับเซ็ตอะไรเลย ทดลองขี่ด้วยความเร็วที่ไม่สูงมากนัก ถือว่าทำได้ดีเลย เหมาะกับในสนาม แต่ถ้าใช้ความเร็วมากกว่านี้ขึ้นไปอีก จริงจังมากขึ้น คงต้องมีการปรับเซ็ตอีกนิดหน่อย ก็เพียงพอที่จะลงซิ่งได้เลย เจ้า RSV4 RF นั้นผมขอบอกเลยว่าเป็นรถที่ ขับแล้วไม่เหนื่อยเลย จะเป็นโค้งเอสหรือโค้งอะไรก็สามารถเข้าได้อย่างมั่นใจและรวดเร็ว อาการแข็งขืนของรถ ในขณะเข้าโค้งไม่มีเลย กลับตรงกันข้ามซะอีก เหมือนรถช่วยเราในการเลี้ยวให้ง่ายดายยิ่งขึ้น ไม่ต้องออกแรงอะไรมากมาย
ระบบแทร็คชั่นช่วยได้เยอะมากๆที่ทดสอบมาขณะที่ฝนตกมันทำให้เราสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจและไม่เกิดอันตรายทำให้เราสามารถเปิดคันเร่งได้เต็มที่จึงทำให้ยิ่งไปได้เร็วขึ้นหมดปัญหาเรื่องล้อฟรีไปเลยหน้าจอแสดงผลบอกค่าต่างๆครบถ้วนซึ่งต้องทำความเข้าใจกับการใช้งานพอสมควรก่อนที่จะใช้ได้คล่องหน้าจอนั้นแสดงกระทั่งองศาการเอียงของตัวรถขณะขับขี่ขณะเข้าโค้งแบบเรียลไทม์ทำให้เราได้รู้ถึงองศาช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่ทำให้เราได้รู้จะได้ไม่เอียงรถมากจนเกินไปรวมไปถึงยังช่วยพัฒนาการขับขี่ได้ด้วย
สุดท้ายก็คือ ตัว Aprilia RSV4 RFเนี่ยมีรายละเอียดระบบต่างๆมากมายดังนั้นผู้ขับขี่ก็ควรจะศึกษาและเรียนรู้ทำความเข้าใจระบบการทำงานต่างๆการใช้งานเมนูปรับตั้งค่าต่างๆผ่านจอแสดงผลเพื่อความปลอดภัยและสามารถรีดสมรรถนะของรถอย่างเต็มที่ครับจัดเป็นสปอร์ตไบค์ตัวพันที่น่าสนใจมากทีเดียวครับแต่อาจจะมีราคาที่มากกว่าค่ายญี่ปุ่นค่อนข้างมากแต่ก็คุ้มค่ากับระบบอิเล็กทรอนิกส์กับของติดรถที่ให้มาครับเรียกว่าพร้อมซิ่งไม่ต้องแต่งเพิ่มอะไรให้ยุ่งยากครับ
Aprilia RSV4 RF รุ่นปี 2017 จำหน่ายในราคา 1,255,000 บาท และ Aprilia RSV4 RR รุ่นปี 2017 ราคา 1,075,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสตัวจริงได้ที่ Motoplex Bangkok โครงการ เอ สแควร์ สุขุมวิท 26
HIGHLIGHT SPECIFICATION
เครื่องยนต์: V4 65° 999.6 CC. / 201 แรงม้า @ 13,000 รอบ (เคลม) / 115 นิวตันเมตร @ 10,500 รอบ (เคลม)
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก