ผมนายชนวัตร มวลจุมพล ชื่อเล่นเปา ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง โดยผมจะไม่ค่อยมีวันหยุดเหมือนคนอื่น เพราะต้องทำงานเป็นกะ แต่ก็มีข้อดีตรงที่สามารถแลกเวรหยุดยาวได้ ทำให้เวลาอยากไปเที่ยวไหนหลายวันสามารถวางแผนหยุดได้ตามใจเลย อย่างล่าสุดผมกับพี่ๆ ในกลุ่มได้แนวร่วม 3 คน นำทีม 250 ซีซี ประกอบไปด้วยค่ายเขียวอย่าง KLX250 กับ DTX250 และค่ายปีกนก ของผมกับ CRF250L ได้ไปพิชิตเส้นเลียบชายแดนพม่าไล่ตั้งแต่แม่สอดขึ้นไป อุทยานแห่งชาติแม่เมย-แม่ฮ่องสอน-ปางอุ๋ง-บ้านรักไทย-ปางมะผ้า-ปาย และอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เป็นการเดินทางที่แสนแสบจริงๆ ครับซึ่งเป็น 4 คืน 5 วันที่เป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญและประทับใจมาก ยิ่งผมเป็นคนชอบเดินทางท่องเที่ยวแบบธรรมชาติป่าเขา น้ำตก อีกทั้งยังชอบทำจิตอาสาโดยการเข้าไปในที่ทุรกันดารเข้าถึงยากด้วยมอเตอร์ไบค์วิบาก หลายคนอาจมองว่าผมบ้า (หัวเราะ) คือสบายๆ ไม่ชอบ ชอบแนวลำบาก แต่อาจเพราะบางทีผมก็อาจจะบ้าไปแล้วแน่ๆ ???
สำหรับความสนใจในมอเตอร์ไบค์ของผมมันเริ่มจากตอนขี่ Honda Click 110i คันแรก เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ตามงบที่มีและความกะโหลกกะลาในตอนนั้น โดยความบ้าของผมได้ขี่เจ้าคลิกจากกทม. ไปนมัสการหลวงปู่ที่นับถือที่ศรีสะเกษ เลยแวะเที่ยวอุบลฯ รวมไปถึงขี่กลับบ้านกทม.-พิจิตร เป็นแบบนี้อยู่หลายปี ซึ่งระหว่างทางได้เห็นและได้พบเจอบิ๊กไบค์หลายรุ่น โดยตอนนั้น Yamaha SR400 และ Kawasaki Ninja 250 ฮิตมาก ฝันไว้อยากจะได้สักคัน แต่ก็ได้แค่ฝันต่อไป มีแค่ขยับจากคลิก 110 ขึ้นไปเป็น PCX ได้ซีซีขึ้นมาอีก 40 หน่วย จนวันนึงผมได้อ่านเรื่องราวของพี่นายแพทย์ท่านนึงซึ่งพี่เขาชอบทำจิตอาสาโดยนำวัคซีนและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น ไปรักษาคนป่วยและชาวบ้านกะเหรี่ยงในป่าลึก ไม่มีเส้นทางรถยนต์ มีแต่มอเตอร์ไบค์วิบากเท่านั้นที่เข้าถึงได้ โดยเส้นทางต้องลุยโคลนลุยน้ำ
เข้าไป และต้องค้างแรมกันในป่า เมื่อผมได้อ่านเรื่องราวนี้แล้วมันทำให้ผมประทับใจและมีแรงผลักดัน ที่จะทำอย่างพี่เขา ประกอบกับการที่ผมเป็นนักท่องเน็ต ก็ได้เปิดไปดู YouTube ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครูดอย การเสียสละ การเดินทางในสภาพถนนที่ไม่เหมือนถนน ดูไปน้ำตาซึมไป จนเกิดแรงกระตุ้นในจิตใต้สำนึกว่าอยากเปลี่ยนแนว และจุดเริ่มต้นในสายวิบากของผมก็เริ่มมาจากไปเห็นรีวิวเขากระโจม สุดเขตประเทศไทย จ.ราชบุรี ทางโหดมาก แต่เห็นบางท่านเอารถเล็กขึ้นไปได้ เราก็เลยไปลองของบ้าง โดยได้ควบเจ้า PCX150 ลุยเดี่ยวไปยังเขากระโจมตั้งแต่เช้ามืดเพื่อที่จะได้ชมทะเลหมอก แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ เมื่อไปถึงเนินไล่แขก จะมีศาลก่อนขึ้นเนิน ติดอยู่เนินไล่แขกประมาณ 30 นาทีได้ ล้อฟรีจนเหม็นเหมือนยางไหม้ ชุดสีข้างล่างรอยเพียบ กว่าจะขึ้นไปถึงยอดเขาเล่นเอาหอบเลยทีเดียว หิวก็หิว ขึ้นไปก็สายแล้วหมอกก็เหลือน้อย สเบียงก็ไม่มี ยังดีที่พี่ๆ ตชด.ใจดีชวนกินข้าว ผมนี่ไม่รอช้าใช้พลังงานมาเยอะ (หัวเราะ)
จากเหตุการณ์ที่เขากระโจมทำให้ผมเห็นสัจธรรม และหลุดออกจากกรอบ ฉีกกฏเกณฑ์ที่ตัวเองเคยฝันไว้ว่าจะต้อง Ninja ต้อง CBR ต้องเป็นรถสปอร์ต 650 ซีซี 800 ซีซี 1,000 ซีซี อะไรก็ตามแต่ ทำให้ผมเปลี่ยนมาเลือกและชอบรถวิบากหมดใจ เป็นที่มาของการกำเนิด CRF250L คันนี้
สำหรับสไตล์การแต่งรถของผมจะแปลกและแหวกแนวไปหน่อย เพราะผมชอบป่าเขาลำเนาไพรเลยอยากให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ อีกทั้งยังชอบในแนวสงคราม การทหาร และประวัติศาสตร์ วิบากคันนี้จึงออกมาพรางกลมกลืนกับสีเขียวไปเลย พวกของแต่งอื่นๆ ก็เน้นเรียบง่าย ใช้งานจริงกับการเข้าป่าของเรา และราคาไม่แพงครับ ส่วนคำว่าเสือหมอบแมวเซา มาจากประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งเป็นหน่วยทหารลาดตระเวนระยะไกลในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งจะเห็นได้ในเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งหากเปรียบเทียบแล้วรถคันนี้เปรียบเสมือนม้าศึกคู่ใจที่พร้อมจะพาไปได้ทุกที่ ทุกสภาพถนน ทุกๆ ที่ พร้อมจะไปโดยไม่ลังเล โดยใน 1 ปีมานี้ผมขี่เจ้าคันนี้ไปแล้วกว่า 3 หมื่นกิโลเมตร สำหรับใครที่อยากจะออกไปเข้าป่าพักแรมด้วยกันหรือชอบในแนวทางเดียวกันก็แอดมาคุยกันได้ครับ
*facebook logo* ชนวัตร เสือหมอบแมวเซา
รายการของแต่ง
– ท่อไอเสีย Yoshimura
– แร็คท้าย งานไทย
– การ์ดแฮนด์
– ไฟท้ายแต่ง ติดเอง
– สปูนยกล้อหลัง
– หุ้มแฮนด์ Renthal
– ไฟสป็อตไลท์ วัดโวล์ ช่องชาจแบต คลองถมมาติดเอง
– แร็พสติกเกอร์ลายพราง ร้าน 99design graphic
– บังโซ่ บังสเตอร์หน้า ประคองโซ่ การ์ดหม้อน้ำ พ่นสีเอง
– ยาง Pirelli MT 60
 |
 |
