Yamaha XMAX 300 Tech MAX+
จอแบบใหม่ มีชิลด์ไฟฟ้า
เวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้วกับสปอร์ตสกูตเตอร์จากตระกูล MAX ซี่รี่ย์ รุ่นชูโรงตัวแรงขายดีจากทางค่ายส้อมเสียงอย่าง Yamaha XMAX 300 Tech MAX+ เปิดตัวมาพร้อมการอัปเดตฟังก์ชันใหม่ในหลาย ๆ จุด เพื่อเติมเต็มสมรรถนะการใช้งานของผู้ขับขี่อย่างเต็มพิกัด
จอสี TFT + LCD แสดงผลฟังก์ชันแบบ Dual Display
ประเดิมไอเท็มชิ้นแรกด้วยหน้าจอสี TFT ขนาด 4.2 ติดตั้งมาใหม่ และจอดิจิทัล LCD ขนาด 2.8 นิ้ว ที่พร้อมแสดงผลแบบดูโอ้ดิสเพลย์ สามารถคอนเน็คกับระบบเนวิเกชันหรือระบบนำทาง ผ่านแอพ Garmin StreetCross รวมถึงรับสายโทรศัพท์ ข้อมความ ฟังเพลงและระบบอื่น ๆ ผ่านการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนด้วยแอพ MyRide มีโหมดหน้าจอให้เลือกตามการใช้งานอย่างเต็มระบบ รองรับการขับขี่ใช้งานอย่างเต็มพิกัด
ชิลด์ปรับไฟฟ้า ระบบอุ่นมือ
พัฒนามาอีกขั้น ด้วยวินชิลด์ด้านหน้าแผ่นใหญ่ที่สามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า (ระยะ 95 มม. โดยไม่ต้องปรับทีละระดับ) ลดภาระการปรับด้วยมือแถมเสี่ยงอาการบาดเจ็บจากการโดนแผ่นชิลด์บาดนิ้วอีกด้วย นับเป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นมาจากเจ็นก่อน ๆ แถมยังดูมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบHeat Grip หรืออุ่นมือและอุ่นเบาะสำหรับขับขี่หน้าหนาว แฮนด์ปรับระดับได้ตามความถนัดของผู้ขับขี่ (คาดว่าติดตั้งมาให้สำหรับจำหน่ายในโซนยุโรป บ้านเราคงไม่ใช้) ใครที่เป็นสาวก XMAX รุ่นนี้ ต้องไม่พลาด !!
ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์กับไฟหน้า X Shaped
และยังคงให้ความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ด้วยลักษณะการดีไซน์ของ Shaped ไฟหน้ารูปทรงตัว “X” เติมเต็มอะดรีนาลีนของความสปอร์ตเต็มพิกัด พร้อมทรวดทรงดีไซน์ที่ได้รับการออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นพี่อย่าง TMAX มาใส่ไว้ในรุ่นนี้ ซึ่งโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ Dual LED Headlights พร้อมสปอยเลอร์ด้านหน้า ไฟท้าย บอดี้ดีไซน์แบบโฉบเฉี่ยว สัดส่วนการออกแบบ Grgonomics หรือสรีศาสตร์การขับขี่นั้นให้ความสะดวกสบาย เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน เบาะออกแบบ 2 ระดับเพื่อการใช้งานที่สะดวกของผู้ขับขี่และผู้ซ้อน มีพื้นที่ใต้เบาะขนาดใหญ่สามารถเก็บหมวกกันน็อกได้ถึง 2 ใบ และพักเท้าแบบ 2 ระดับ
เครื่องยนต์ Blue Core 300 ซีซี ผ่าน Euro5+
ให้ประสิทธิภาพการเผาไหม้ที่ยอดเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์บลูคอร์แบบสูบเดียวขนาด 292 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ยังคงพละกำลังเดิมที่ 28 แรงม้าที่ 7,250 รอบ พร้อมแรงบิด 29 นิวตันเมตรที่ 5,750 รอบ ใช้ระบบจุดระเบิด TCI ขับเคลื่อนด้วยชุดชามรัดมาด้วยสายพาน V-Belt พ่วงมาพร้อมถังน้ำมัน 13.2 ลิตรและยังผ่านค่ามาตรฐานไอเสีย Euro5+ มาให้อีกด้วย
ระบบช่วงล่าง
สำหรับรุ่นนี้ใช้ระบบช่วงล่างเป็นโช้คหน้าแบบเทเลสโคปิก โช้คหลังสปริงคู่ ใส่จานดิสก์เบรกด้านหน้าขนาด 267 มม. ดิสก์หลัง 246 มม. มีขนาดไซส์ล้อและยางที่ 120/70-15 และ 140/70-14 ซึ่งมีน้ำหนักสุทธิอยู่ที่ 183 กก.
เทคโนโลยี & ฟังก์ชันใช้งาน
ในเรื่องของเทคโนโลยี ที่เห็นเด่นได้ชัดก็คือ จอสีที่พัฒนามาใหม่ ชิลด์ไฟฟ้า ช่องชาร์จไฟ USB-C ช่องเก็บของด้านหน้า ช่องเก็บของใต้เบาะ ระบบไฟ Full LED ระบบไฟกระพริบฉุกเฉินเหมือนเบรกกระทันหัน ระบบแทร็คชันคอนโทรล ABS Dual Channel
Ceramic Grey | Dark Magma |
นับว่าเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ จุดโดยเฉพาะชิลด์หน้าเพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกมากยิ่งขึ้น ส่วนฟังก์ชันอื่น ๆ คงมีให้ใช้งานแบบคุ้นเคย ด้วยเปิดตัวมาทั้งหมด 2 สีได้แก่ Ceramic Grey และ Dark Magma เปิดราคาต่างประเทศที่ 7,250 ยูโร หรือราว ๆ 2.5 แสนบาท คิดว่ามาไทยชัวร์ ๆ ส่วนราคาคาดการณ์ประมาณ 2 แสนต้น ๆ อัปเพิ่มนิดหน่อยในส่วนระบบเทคโนโลยีที่ติดตั้งเพิ่มเติมมาให้ ยังไงต้องมาลุ้นติดตามกันครับ
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก