spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
[rev_slider_vc alias=”news-hero4″]
เลือกรีวิวยางที่ต้องการดู

5 – PIRELLI DIABLO ROSSO CORSA II

ผลิตขึ้นมาอย่างไร

จากผู้ให้กำเนิดยางกลุ่มซูเปอร์สปอร์ต (Diablo Corsa เปิดตัวเข้ามาขายในท้องตลาดตั้งแต่ 15 ปีที่แล้ว) มันเป็นธรรมดาที่เราจะคาดหวังอะไรที่ล้ำๆ จากแบรนด์นี้ และ Pirelli ไม่ทำให้เราผิดหวัง Diablo Rosso Corsa II ได้ยกระดับของยางกลุ่มนี้ให้สูงขึ้นไป Pirelli ได้ใส่เทคโนโลยีมากมายเข้ามาในยางรุ่นใหม่ตัวนี้ โดยมีคอมปาวด์มากถึง 5 คอมปาวด์ในยาง 1 คู่ ด้านหลัง 3 และด้านหน้า 2 ยางหลังแบบมัลติคอมปาวด์อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ของวงการ แต่นี่นับเป็นครั้งแรกของโลกที่มีถึง 3 คอมปาวด์และครั้งแรกของ Pirelli ด้วย ใช้ใยเหล็ก 0 องศาตีเกลียวทำเป็นโครงสร้างซึ่งเป็นอะไรที่ Pirelli ใช้อยู่เสมอ ตรงนี้จะช่วยกระจายแรงเครียดในคอมปาวด์ยางหลังได้เป็นอย่างดี Pirelli ใช้คอมปาวด์ที่มีส่วนผสมของซิลิก้าในบริเวณที่จะสัมผัสกับน้ำ (ตรงกลางจะมีซิลิก้า 70% ถัดจากตรงกลางจะมีซิลิก้า 100%) ส่วนคาร์บอนแบล็กที่บริเวณไหล่ยางก็จะเป็นส่วนสลิก Pirelli ก็จะใช้คอมปาวด์เดียวกับยางแข่งที่ใช้ในการแข่งขัน WSBK มาเลย แนวคิดเดียวกันนี้ก็ถูกนำมาใช้ในยางหน้าด้วย (ซิลิก้าตรงกลาง คาร์บอนแบล็กที่ไหล่) ด้วยวิธีนี้ทำให้ Pirelli สามารถผลิตยางที่เหมาะกับทุกสภาพการขับขี่ได้

ทดสอบสนาม

การทดสอบในรอบสื่อที่ Kyalami นั้นเราก็เชื่อแล้วว่ามันบาลานซ์ดี Pirelli ได้ทำให้เราได้เห็นถึงความสามารถในการทดสอบเปรียบเทียบในครั้งนี้ เผยให้เห็นว่ามันดีที่สุดในแง่ของความแม่นยำในการเลือกไลน์และรักษาไลน์ในการขับขี่ มันชัดเจนว่า Pirelli ได้ผลักดันสมรรถนะของยางอย่างหนักจนใกล้เคียงกับยาง Supercorsa SP ซึ่ง Diablo Rosso Corsa II ให้ความรู้สึกเหมือนว่ามันพูดกับคนขับขี่ได้และพร้อมซัพพอร์ตผู้ใช้ให้ไปในแบบที่ผู้ใช้ต้องการ มันไม่ได้ยืดหยุ่นมากที่สุด (Dunlop ยืดหยุ่นกว่า) แต่มันช่วยให้เข้าโค้งได้ลึกกว่า ช่วยให้ได้ไลน์ที่ดีกว่า มันยังให้บาลานซ์ที่ดีที่สุดในการทดสอบโดยไม่มีแสดงอาการชะงักใดๆ ไม่ว่าจะเร็วหรือช้า Pirelli ก็ช่วยให้คุณควบคุมได้ดั่งใจ บาลานซ์ที่ดียังช่วยให้คุณขับขี่ได้เร็วขึ้นและเข้าโค้งได้ดี ให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเวลาที่คุณเปิดคันเร่งเต็มที่ การเสียการยึดเกาะในกรณีที่เราไม่ได้ตั้งใจใดๆ ก็ตาม เช่นมีโทรศัพท์เข้ามา ไม่ทำให้เกิดการเสียอาการ เรียกว่าอยู่ในการควบคุม แม้ว่ามันจะมีโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้นกว่าในอดีตและให้ฟีลลิ่งสปอร์ตมากขึ้น แต่ Diablo Rosso Corsa II ยังไม่ลืมที่จะเป็นยางที่สามารถซับแรงกระแทกได้ดี ไม่ทำให้เกิดอาการสั่นที่แฮนด์บาร์ ซึ่งถือเป็นการช่วยเพิ่มสมรรถนะยางให้ดียิ่งขึ้น มันยากที่จะหาข้อเสีย แม้จริงๆ แล้วมันก็มีข้อเสีย และมันมีการสึกหรอที่มีผลกระทบต่อความสวยงาม แต่ไม่ได้ส่งผลต่อสมรรถนะอะไร

ทดสอบเปียก

นอกจากมันจะเป็นยางที่มีสมรรถนะดีในพื้นแห้งแล้ว Pirelli ยังทำให้เราต้องทึ่งกับความสามารถของมันบนพื้นเปียกได้อีกด้วย ขณะที่ Michelin ได้พยายามแก้ตัวในเรื่องสมรรถนะแบบรอบด้านให้กับยางของตัวเองให้ใช้งานได้ดีในหลากๆ สภาวะ Pirelli เองก็สานต่อเส้นทางของตัวเองกับยางที่ใช้งานได้หลากหลายได้อย่างงดงาม ผมเชื่อว่าความลับของ Diablo Rosso Corsa II เกิดขึ้นจากคอมปาวด์ ส่วนผสม 3 แบบที่ยางหลังนั้นออกมาลงตัว ให้การยึดเกาะที่ดีที่มุมเอียงต่างๆ แม้กระทั่งดอกยางเองก็มีส่วนช่วยแหวกน้ำออก คุณจะเห็นได้จากการทดสอบถนนในแอฟราใต้ ความรู้สึกตอนที่ขี่บนพื้นเปียกด้วย Diablo Rosso Corsa II นั้นดีมากๆ เราเชื่อใจมันมากตั้งแต่โค้งแรกเลย เพราะความสามารถในการสื่อสารของยางกลับมายังผู้ขับขี่และการสัมผัสได้ถึงหน้ายางที่สัมผัสกับถนนไม่หายไปเลยแม้ว่าพื้นถนนจะมีน้ำเจิ่งนองอยู่ ด้วยฟีลลิ่งที่ได้มานี้ มันจึงเป็นการง่ายที่คุณจะเปิดคันเร่งให้มากขึ้นอีกนิด ให้คุณเข้าโค้งในแบบที่ดุดันมากขึ้น บาลานซ์ในการยึดเกาะระหว่างยางหน้าและยางหลังที่เราสัมผัสได้จากในการทดสอบแบบแห้ง ก็สามารถสัมผัสได้ในขณะที่ทดสอบพื้นเปียกด้วยเช่นกัน ยางหลังเป็นส่วนที่ดีที่สุดในการรองรับทุกอัตราการเร่ง รองรับการควบคุมการสั่งงานของระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้ดี การยึดเกาะที่ทำได้ในระดับสูงจากสูตรผสมทางเคมีและร่องดอกยางที่ดีส่งผลให้รีดน้ำออกได้อย่างมีประสิทธิภาพตอนที่คุณแบนเข้าโค้ง

 

ทดสอบในแทร็ก – เวลาที่ดีที่สุด 1.42.69
ทดสอบในแทร็ก – เวลาเฉลี่ย* 1.43.01
ทดสอบพื้นเปียก– เวลาที่ดีที่สุด 39.981
ทดสอบพื้นเปียก– เวลาเฉลี่ย* 40.722

*เวลาเฉลี่ยจากการทดสอบต่อเนื่อง 5 แล็ป

ผลคะแนนการทดสอบ Pirelli Diablo Rosso Corsa II

คะแนนที่ได้

การควบคุม ★★★★
การยึดเกาะที่ยางหน้า ★★★★
การยึดเกาะที่ยางหลัง ★★★★
การรักษาไลน์ ★★★★½
ความเสถียร ★★★★
พื้นเปียก ★★★★★
ความเสถียรขณะเบรค ★★★★
สรุปคะแนน 4,21
เลือกรีวิวยางที่ต้องการดู

News Article

2025 HONDA CBR1000RR-R FIREBLADE SP ง่ายเหมือนขี่ 300

0
2025 HONDA CBR1000RR-R FIREBLADE SP ง่ายเหมือนขี่ 300 2025 HONDA CBR1000RR-R FIREBLADE SP ที่สุดของตัวพันจากค่ายปีกนก รถซูเปอร์ไบค์ระดับเรือธง ถือได้ว่าเป็นการปรับโฉมใหม่มาหลายจุด และพัฒนาใหม่หมดทั้งคัน ขับขี่ง่ายกว่าเดิม สนุกกว่าเดิม เรียกได้เลยว่าเป็น All NEW กับราคาที่สุดแสนจะดี๊ดีกับราคา 1,134,000 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนสามหมื่นสี่พันบาทถ้วน)  โฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม การออกแบบดีไซน์แฟริ่งใหม่ มีการพัฒนามาจากรุ่นพี่ในระดับ MotoGP ที่ผสมผสานความเป็นเรซซิ่งที่สามารถนำมาขับขี่ได้ทั้งสนาม และบนท้องถนนทั่วไป โดยในส่วนที่ปรับไปใหม่ ในจุดที่เห็นได้ชัดเลยนั้นก็คือเรื่องของ วิงเล็ทที่มีขนาดเล็กลง และ ปรับจากที่ตอนแรกอยู่ด้านข้าง ขยับมาทางด้านหน้าพอสมควร เพื่อเพิ่มแรงกดในรอบความเร็วสูง ๆ ทำให้ลดอาการหน้าสะบัดได้ดีเลย ถ้าเทียบกับค่ายอื่น ๆ วิงเล็ทเล็กกว่าค่ายอื่นมาก เพราะ ทางผู้ผลิตอย่างฮอนด้าเล็งเห็นว่าการที่มีวิงเล็ทที่ใหญ่มันยากต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน เวลาในช่วงแบบรถติดๆ เลยปรับให้เล็กลงดีที่สุด วิงก์เล็ทใน...

Fabio Quartararo กับการพัฒนารถแข่ง MotoGP ในการทดสอบที่บาร์เซโลนา

0
Fabio Quartararo กับการพัฒนารถแข่ง MotoGP ในการทดสอบที่บาร์เซโลนา Fabio Quartararo นักแข่งทีมยามาฮ่า ได้สรุปผลการทดสอบ MotoGP ที่สนามบาร์เซโลนา โดยกล่าวถึงการพัฒนาของทีมในด้านต่างๆ แม้ว่าจะยังไม่สามารถไล่ตามนักแข่งแนวหน้าได้ แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีสำหรับฤดูกาล 2024 ตัวแข่งคันใหม่ประสิทธิภาพดีขึ้น กวาร์ตาราโรเผยว่า รถใหม่จากค่ายมาพร้อมกับแชสซีรุ่นใหม่ที่นำมาทดสอบ ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพได้ดี โดยเฉพาะในจังหวะเข้าโค้งจากทางตรงไปยังการเอียงเต็มที่ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาที่เด่นชัดที่สุด แต่ยังต้องหาวิธีพัฒนาช่วงออกจากโค้งเพื่อเพิ่มสมรรถนะให้ดียิ่งขึ้น “เราได้พบแนวทางที่ช่วยพัฒนาในจังหวะเข้าโค้งแล้ว ตอนนี้เราต้องมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาจังหวะออกจากโค้งต่อไป”  โดยในการทดสอบครั้งนี้ ยามาฮ่ายังได้ทดลองใช้เครื่องยนต์ใหม่ รวมถึงแฟริ่งด้านบน และสวิงอาร์มใหม่ แม้ว่าเป้าหมายจะไม่ได้เน้นที่การเพิ่มสมรรถนะในทันที แต่เพื่อดูว่าชิ้นส่วนเหล่านี้สามารถช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่ “เป้าหมายหลักของเราคือการประเมินว่าชิ้นส่วนใหม่ ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเดิมหรือไม่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปรับปรุงครั้งใหญ่ในมาเลเซีย” นักบิดชาวฝั่งเศสกล่าวเสริม นักแข่งที่ขี่ให้กับ Yamaha ซึ่งในการแข่งขัน MotoGP ฤดูกาลนี้เป็นครั้งแรกที่ยามาฮ่ามีนักแข่ง MotoGP สี่คนในสนาม โดยมีแจ็ค มิลเลอร์และมิเกล โอลิเวร่า เปิดตัวในทีม Prima Pramac Racing และ ฟาบิโอ...

2025 Ducati StreetFighter V2 สตรีทเน็กเก็ด เครื่องใหม่ เบาหวิว

0
2025 Ducati StreetFighter V2 สตรีทเน็กเก็ด เครื่องใหม่ เบาหวิว สปอร์ตเน็กเก็ตที่เผยโฉมมาพร้อมกับรุ่นซูเปอร์สปอร์ตจากบ้านดูคาติอย่าง 2025 Ducati StreetFighter V2 อเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Ducati ที่ได้รับการออกแบบให้ผสมผสานความดุดันและสมรรถนะเหนือชั้น เครื่องยนต์ที่ปรับปรุงใหม่ในปีนี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองต่อการขับขี่ที่เร้าใจ แต่ยังมอบความมั่นใจในการควบคุมและประหยัดพลังงานได้อย่างลงตัว New Ducati V2 Engine https://www.youtube.com/watch?v=AJufklDpUsc พร้อมเอาใจสายสตรีทเน็กเก็ดด้วยขุมพลังตัวใหม่ “New Ducati V2 Engine” ที่เป็นเครื่องยนต์ V-Twin ขนาด 90 องศา มีปริมาตรกระบอกสูบ 890 ซีซี ออกแบบคาแรคเตอร์ให้ความสมดุลระหว่างแรงม้าและแรงบิดอย่างลงตัว มาพร้อมกับระบบวาล์วแปรผันหรือ Variable Timing ให้อัตราการเร่งได้อย่างเร้าใจแม้ในรอบต่ำ โดยเครื่องยนต์บล็อกใหม่ยังปรับปรุงให้ผ่านค่ามาตรฐาน Euro5+ อีกด้วย สำหรับแรงม้าสูงสุดที่รีดมาได้อยู่ที่ 120 แรงม้าที่ 10,750 รอบและแรงบิดสูงสุด 93 นิวตันเมตรที่...

Husqvarna Winter Collection 2025 ของดีจากไวกิ้ง ที่ไม่ได้มีดีแค่รถ

0
Husqvarna Winter Collection 2025 ของดีจากไวกิ้ง ที่ไม่ได้มีดีแค่รถ หากคุณเป็นแฟนของ Husqvarna หรือกำลังมองหาเสื้อผ้าคอลเลกชันสำหรับใส่ในช่วงฤดูหนาว ที่ผสมผสานระหว่างดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งาน คอลเลกชันฤดูหนาวปี 2025 ใหม่จาก Husqvarna นี้คือคำตอบ! Husqvarna Winter Collection 2025 คอลเลกชันสดพิเศษ เปิดตัวพร้อมสีสันที่โดดเด่นในธีมของ Rockstar Energy Drink สร้างความรู้สึกเหมือนเป็นทีมแข่งที่มุ่งมั่นและทรงพลัง สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน Rockstar Husqvarna Winter Beanie โดยไฮไลท์คอลเลกชันปี 2025 ของฮุสควาน่า ประกอบไปด้วยหมวกไหมถัก Rockstar Husqvarna Winter Beanie มาพร้อมลวดลายสุดพิเศษที่ถักด้วยลายทูโทนสองสี ขาวตัดสลับกับสีเหลืองด้าน ผสมสานโลโก้ฮุสควาน่าบริเวณด้านหน้า ดูโดดเด่นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร ทั้งยังให้ความอบอุ่นสำหรับผู้สวมใส่ทุกเพศทุกวัยใน Winter Season นี้ สำหรับราคาจำหน่ายอยู่ที่...

2025 Suzuki DR-Z4S และ SM แฝดนรกค่ายคนบ้า

0
2025 Suzuki DR-Z4S และ SM แฝดนรกค่ายคนบ้า 2025 Suzuki DR-Z4S และ DR-Z4SM ที่เปิดตัวใหม่จากงาน EICMA2024 ประเทศอิตาลีเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งสองโมเดลนี้เป็นล่าสุดจากค่ายซู โดยทั้งสองโมเดลที่เปิดใหม่นี้เป็นการมาแทน DR-Z400S และ DR-Z400SM สองรุ่นยอดนิยมที่โดดเด่นด้วยความเรียบง่ายและราคาจับต้องได้ หลังจากผ่านไปกว่า 23 ปีตั้งแต่เปิดตัว DR-Z400S ครั้งแรก Suzuki ได้ปรับปรุงแพลตฟอร์ม DR-Z ครั้งใหญ่ แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์เดิมที่ทำให้รุ่นนี้ใช้งานง่ายและเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสาวก รหัส S มาในสไตล์รถวิบาก รหัส SM มาในสไตล์รถซูเปอร์โมโต 2025 Suzuki DR-Z4S สเปค และรายละเอียด ในส่วนของสเปควิบากสองแฝดจากค่ายคนบ้าที่เปิดตัวใหม่นี้ จะมีทั้งหมดสองรุ่นย่อยได้แก่ Z4S ที่มาในดีไซน์ของทรงสไตล์วิบาก และ Z4SM ที่มาในรูปแบบของซูเปอร์โมโต ซึ่งรายละเอียดความแตกต่างของสเปคทั้งสองคันจะแตกต่างแค่เพียงบางจุดเท่านั้น Suzuki...