สำหรับการ รีวิว Honda ADV150 ปี 2019 ครั้งนี้ต้องบอกเลยว่า สดๆร้อนๆ ทั้งการเปิดตัว และการทดสอบกันเลยละพ่อคุณแม่คุณทั้งหลาย เพราะในช่วงเช้าได้เปิดตัวกันที่เซ็นทรัลเวิล์ด และในช่วงบ่ายได้มีการจัดเป็นการทดสอบในรอบของสื่อมวลชน ที่ศูนย์ขับขี่ปลอดภัย
สำหรับโมเดลนี้เป็นโมเดลที่จัดจำหน่ายทั่วโลก และต้องบอกตามกันไปอีกว่าโมเดล ADV150 เป็นโมเดลที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามกันเลยทีเดียว ด้วยคาแร็กเตอร์ตัวรถ และการออกแบบที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็น Street Adventure ทำให้รู้สึกได้ว่า เป็นมอเตอร์ไซต์ที่ โคตรจะเหมาะสมกับภูมิประเทศไทย เราลองมาดูมารีวิวครั้งนี้ ที่ทางเราก็ได้สัมผัสเจ้า ADV150 ครั้งแรกเป็นยังไงกัน
รูปร่าง อวบ กำลังดี
มาดูกันที่รูปร่างหน้ากันก่อนเลยสำหรับการดีไซน์ภาพรวม ที่รูปร่างที่ค่อนข้างจะคล้ายรุ่นพี่สายลุยอย่าง Honda X-ADV 750 ด้วยรูปทรงไฟหน้าและท่อไอเสียที่ดีไซน์ให้ออกมาองศาคล้ายคลึงกันพอสมควร สำหรับ ADV150 คันนี้มีระบบส่องสว่างไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว แบบ Full LED ที่ให้ความสว่างชัดเจน ดีไซน์สวยโดยเฉพาะไฟหน้า และโดดเด่นด้วยไฟท้ายดีไซน์เป็นรูปตัว X สำหรับคันนี้เป็นสีที่ดูสวยสดที่สุด นั้นก็คือ สีแดง แต่ก็ยังมีอีก 2 สีก็คือ ดำ และ เทา ที่จำหน่ายในประเทศไทย (ความชอบส่วนตัว)
พร้อมกับระบบ ESS (Emergency stop signal) เมื่อเบรคฉุกเฉิน ความเร็วลดแบบกระทันหัน ไฟเลี้ยวจะกระพริบเป็นสัญญาให้เป็นจุดสังเกตได้อย่างชัดเจนและปลอดภัย
ชิวบังลมด้านหน้าที่มีขนาดใหญ่ ใส ที่สำคัญเลยมันสามารถที่จะปรับระดับสูง-ต่ำของชิวหน้าได้ โดยการหมุนตัวปรับทางด้านซ้ายและขวาพร้อมกับปรับขึ้นลงได้ แบบพร้อมกันทำให้การขับขี่ทั้งในเมืองก็ดีขึ้น และถ้าเราต้องการบังลมหรือบังขี้โคลนก็สามารถปรับขึ้นได้อีกด้วย
ออกแบบไว้พร้อมลุย สำหรับแฮนด์บาร์ที่มีขนาดกว้างมีทั้งข้อดีและข้อสังเกต ข้อดีคือการออกแบบมาให้ขับขี่สบาย เดินทางไกลได้ รวมไปถึงสรีระการจับแฮนด์จะสามารถให้ตัวระหว่าง ช่วงแขนและไหล่ ทำให้เวลาเกิดการสั่นสะเทือนจะรู้สึกได้น้อยลง ส่วนข้อสังเกตุมีไม่มาก มันกว้าง ก็ย่อมติดเป็นธรรมดาแต่สำหรับคนที่ขับขี่บ่อยๆ เชื่อได้ว่าเดี๋ยวก็ชิน และก็พริ้วเหมือนเดิม
ทางด้านแฮนด์ซ้าย มีสวิตซ์ไฟสูงไฟต่ำ แตร และไฟเลี้ยวออกแบบมาได้ระยะการปรับพอดีนิ้วมือ และปะกับแฮนด์ทางด้านขวามีสวิตซ์ ไฟฉุกเฉิน และ ปุ่มกดสตาร์ทเครื่องยนต์ รวมไปถึงสวิตซ์เปิดปิด IDLING Stop โหมดการหยุดทำงานเครื่องยนต์อัจฉริยะพร้อมทั้งปะกับคันเร่งแบบ 2 สายที่ออกแบบอยู่รวมกันทั้งหมด ทำให้ดูแล้วลงตัวเหมาะสม เรียบง่ายอย่างยิ่ง
เรือนไมล์แบบ Full LCD ที่จะบอกสถานะต่างๆทั้งความเร็ว อัตราค่าเฉลี่ยน้ำมัน ทริปA/B เวลา วัน/เดือน รวมไปถึงแถบสถานะบอกไฟเลี้ยว กุญแจอัจฉริยะ ไฟสูง สถานะเครื่องยนต์ แบตเตอรี่ และไฟสถานะ ABS ที่ถูกดีไซน์เป็นแถบแยกออกมาจากหน้าจอเรือนไมล์อีกที แต่อยู่ในระยะที่สายตาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
กุญแจอัจฉริยะที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีเพียงแค่พกเข้าไปใกล้ๆรถเพียง 0.5-1 เมตรก็สามารถที่จะกดสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ทันที รวมไปถึงตัวเบ้าบิดกุญแจ (เตาแก๊ส) ที่มีระดับการบิดทั้งเปิดถังน้ำมันขนาด 8 ลิตรที่อยู่ระหว่างขา,กดเปิดเบาะ และเปิดสตาร์ทเครื่องยนต์
ทางด้านซ้ายของคอนโซนที่ออกแบบให้มีช่องเก็บของสะดวกต่อการหยิบของได้ง่ายโดยใช้มือซ้าย และยังมีปลั๊กไฟอเนกประสงค์ 12V ไว้สำหรับการต่อ GPS ชาร์ตแบต Smartphone และอื่นๆได้อีกมากเลยละครับ
ช่วงล่างกันบ้าง เขาว่าดี!!
ช่วงล่างด้านหน้าโช้คอัพหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิค(ตะเกียบคู่)ดีไซน์กระบอกโช้ค 2 ระดับเพิ่มความ อารมณ์ความแอดเวนเจอร์เข้าไป พร้อมกับมีระยะยืดยุบ 130 มิลลิเมตร มาคู่กับระบบเบรคแบบจานดิสที่มีขนาดใหญ่ 240 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์เบรค Nissin ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับความปลอดภัยที่ให้มาคือ ABS
ช่วงล่างด้านหลังเป็นโช้คคู่ Showa Subtank กระบอกสีทองที่มีระยะยืดยุบตัวแกนได้120 มิลลิเมตร ทั้งซ้าย และขวา ซึ่งก็ถือว่าเป็นโช้คหลังที่ติดมาจากโรงงานที่ดี ไม่แพ้รถบิ้กไบค์เลยละครับ
ระบบเบรคหลังที่ให้มาเป็นแบบดิสเบรคจากโรงงาน ออกแบบมาสวยโดนใจตั้งแต่แรกพบสบตา มีการวางตำแหน่งเยื้องออกมาทางด้านหลังง่ายต่อการเซอร์วิสและมีความสวยงาม ตัวคาลิปเปอร์เป็น Nissin จานดิสมีขนาด 220 มิลลิเมตร (Non ABS)
ล้อหน้า-หลัง เป็นล้อแม้กซ์ดีไซน์ 6 ก้านคู่ดูลงตัว สีดำมาพร้อมกับยาง IRC ขนาด 110/80-14 และ 130/70-13 (หน้า/หลัง) เป็นแบบ TUBELESS ไร้ยางในตัวลายดอกยางเป็นลายดอกแบบกึ่งลุย กึ่งสตรีสดูได้อารมณ์ลงตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ดินลูกรัง และถนนดำ
เครื่องยนต์ 150 ซีซีคล่องตัว..ECU ใหม่
มาดูที่พละกำลังเครื่องยนต์ ESP หัวฉีด PGM-Fi ขนาด 1 สูบ 149.3 ซีซี แคมเดี่ยว ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีแรงม้าเคลมโรงงานที่ 14 แรงม้า และมีกำลังแรงบิดที่ 13.8 นิวตันเมตร ระบบส่งอากาศถูกออกแบบใหม่ในเหมาะสมกับตัวรถทั้งตัวกรองและท่อกรอง รวมไปถึงระบบระบายไอเสียผ่านมาตรฐาน Euro 4 ที่มีการเดินคอท่อใหม่ทั้งแต่ต้นจนปลาย ที่ดีไซน์องศาใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะรองรับการขับขี่แนว ADV อีกด้วย
***ในการพูดคุยกับวิศวกรออกแบบ เกี่ยวกับตัวเครื่องยนต์ นั้นได้ความพอประมาณเอาแบบที่ผู้อ่านเข้าใจง่ายๆ สำหรับเครื่องยนต์นั้นพื้นฐานเครื่องตัวนี้นั้นก็คือ เครื่องเดียวกับ PCX150 แต่มีการออกแบบกราฟน้ำมันและอากาศ ในกล่อง ECU ใหม่ทั้งหมด ทำให้รถคันนี้มีคาแร็กเตอร์เครื่องยนต์รอบดีในช่วง ต้น-กลาง ขับขี่สนุกขึ้น จามสไตล์ ADV (สำหรับใครยังไม่พอใจ เเนะนำไล่เม็ดส่งกำลังใหม่ พร้อมกับปรับองศาชาม รับรองเด็ด!!)
ฟิวลิ่งการขับขี่
การขับขี่ทดสอบใน ศูนย์ขับขี่ปลอดภัย กรุงเทพ โดยในการทดสอบครั้งนี้จะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มทดสอบและเป็นฐานการทดสอบแต่ละจุดที่ทางครูฝึกได้ได้ออกไว้เพื่อที่จะให้เราจับการทำงานของช่วงล่าง อัตราเร่ง การเบรค ท่านั่งการขับขี่และการบังคับเลี้ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
มาดูสรีระท่านั่งขับขี่กันก่อน ด้วยที่เป็นสกูเตอร์แฮนด์บาร์ เบาะนั่งพอดิบพอดี ทรงขับขี่กำลังดีเลยละครับ ท่านั่งแบบนี้ เหมาะมากสำหรับการขับขี่ทางไกล ขับขี่ในเมืองอาจจะมีความรู้สึกถึงแฮนด์บาร์ที่กว้างอาจจะมีผลในตอนที่ต้องการเลี้ยวรถ หรือการมุดในเมืองอาจจะลำบากไปนิกนึง แต่ก็อย่างที่บอกละครับ
ถ้าชินเมื่อไรปัญหานี้จะหมดไป แต่สำหรับการขึ้นลูกระนาดหรือกระดกที่ทำไว้ให้ขับขี่ผ่าน เมื่อเรายืนแล้วจัดท่าขับขี่แบบ เอ็นดูโร่ ตำแหน่งการจับแฮนด์เป็นอะไรที่เหมาะสมอย่างยิ่งเลยละครับ ทำให้การขับขี่ผ่านอุปสรรคนั้น ทำได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว จนรู้สึกสนุกมากยิ่งขึ้น เมื่อต้องใช้ท่าขับขี่แบบยืน
การทำงานของช่วงล่างเป็นที่น่าประทับใจของการทดสอบครั้งนี้เลยก็ว่าได้ เพราะว่าโช้คหลังที่ให้มาจากโรงงานเป็นโช้คหลังแบบ SubTank Showa และช่วงยืดหยุบของโช้คหน้าที่ให้เยอะพอสมควรสำหรับการขับขี่บนถนน ในการเข้าโค้ง สลาลม นั้นทำได้ดีฟิวลิ่งของตัวโช้คหน้ามีความหนืดของเบอร์น้ำมันระดับนึงเมื่อเทียบกับรถในคลาสที่ผมเคยขับขี่มา และโช้คหลังที่สามารถซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี รู้สึกได้เลยว่า การเข้าโค้งมั่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ได้ทดสอบระบบเบรคแบบเต็ม ประทับใจเบรคหน้า สำหรับการทำความเร็วในทางตรงของสนามและมีระยะการกำเบรคแบบเต็มๆ โดย ABS ที่ให้มา ขอย้ำก่อนว่ามีในส่วนของเบรคหน้าเท่านั้นนะครับ เดี๋ยวจะตกใจ งง กันไปใหญ่ว่าทำไมเบรคหลังเนี่ยกำแล้วล้อล็อกลากกันยาวเลย
ฟิวลิ่งเบรคหน้าทำได้ดีโดยมีปัจจัยต่างๆเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนะครับ ทั้งพื้นถนน ยาง โช้ค และน้ำหนักการกำเบรค ในตอนนั้น มีความสัมพันธ์ทั้งหมด ฟิวลิ่งตอนนั้นคือ กำไปประมาณ 70% อาจจะไม่เต็มที่แต่เรารู้สึกได้ว่า ถ้ากำต่อไปอีก ABS ต้องทำงานแน่ๆ แล้วกระทุ้งปั้มหน้าจะคล้ายน้ำมันออกจากปั๊มเพื่อไม่ให้ล้อล๊อก แต่ฟิวลิ่งตอนนั้นเป็นฟิวที่ดีที่ดึงคือได้ระยะเบรคที่สั้น แล้วไม่มีแรงต้านจากปั้มขึ้นที่นิ้วมือ ช่วงยุบโช้คหน้าซับแรงได้ทั้งหมด
ยางทำงานได้เต็มที่พอดีทำให้รู้เลยว่า โช้คและเบรคที่ให้มาทำงานได้อย่างดีเยี่ยมเลยละครับ ส่วนฟิวการเบรคด้านหลังส่วนตัวการทดสอบของผมแล้วนั้น คือการชะลอความเร็ว ไม่ใช่การหยุดรถ ก็ทำได้ดี สามารถที่จะช่วยชะลอความเร็วได้เป็นอย่างดี เอาง่ายๆนี้คือเปอร์เซ็นในการกำเบรคหน้าของผมอยู่ที่ 70% และหลังอยู่ที่ 30% แล้วแต่สถานการณ์
ส่วนที่ใครชอบฟิวกำเบรคหลังหนักๆ ท้ายสไลค์นิดๆ แนะนำลองไปเส้นทางที่มีฝุ่น ดินลูกรังการยึดติดของยางกับถนนน้อยๆ บอกเลยว่ามันส์แน่นอน (ไม่แนะนำอันตราย) สไตล์แอดเวนเจอร์ ที่เราจะให้ล้อหลังล็อกสไลค์ทำให้การคอนโทรลช่วยบังคับเลี้ยวทิศทางได้
กำลังเครื่องยนต์ ด้วยพื้นฐานที่เป็นเครื่องยนต์ขนาด 150 ซีซีแบบเดียวกับ Honda PCX แต่มีการปรับจูนกราฟจ่ายน้ำมันในกล่องใหม่ทั้งหมดให้มีกำลังในช่วงของแรงต้นและกลาง ของย่านกำลังเครื่องยนต์ ทำให้รู้ได้ถึงกำลังในการออกตัวอยู่พอสมควร อาจจะไม่เด่นชัดมากแต่รู้ได้ว่าช่วงต้นทำได้ดีกว่า PCX อย่างแน่นอน แต่ความเร็วกว่าคิดว่าไม่น่าจะต่างจาก PCX เช่นเพราะเป็นเครื่องยนต์บล๊อกเดียวกัน (มีโอกาสถ้าได้ลองยาวๆจะมาเล่าให้ฟัง) การดีไซน์ท่อไอเสียมีปลายท่อสูงอาจจะออกแบบไว้ให้ลุยน้ำ ลุยลำธาร สังเกตฝั่งกรองอากาศอย่าลุยน้ำก่อนช่องดูดอากาศเข้าไอดีเป็นพอ ไม่งั้นอาจจะน๊อคน้ำก็เป็นได้
การขับขี่ในครั้งนี้ต้องบอกก่อนว่าคือสัมผัสแรกที่รู้สึกได้เลยว่าเป็นรถที่ขี่ง่าย คล่องตัว การบิดคันเร่งและการเลี้ยว กำลังเครื่องยนต์เพียงพออยู่เสมอในความเร็วระดับปานกลาง แต่ถ้าใครอยากได้แรงกว่านี้อีกสักนิดแนะนำให้ไปไล่ระบบส่งกำลังใหม่ คิดว่าต้องดีขึ้นอีกเป็นกองอย่างแน่นอน ไม่เชื่อลองดู…
สรุปเลยแล้วกัน!! รีวิว Honda ADV150 2019
คันนี้เป็นโมเดลที่ขายกันทั่วโลก ผลิตที่ประเทศไทย ดีไซน์การออกแบบใหม่หมด ระบบไฟส่องสว่างแบบ LED ทั้งคัน เรือนไมล์ LCD ฟังก์ชั่นเพียบแฮนด์บาร์ดูดีสไตล์แอดเวนเจอร์มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ระบบเบรคที่เป็นดิสเบรคทั้งหน้าและหลัง มี ABS ที่ล้อหน้า โช้คหลังแบบ SubTank Showa เครื่องยนต์มีกำลังในย่านความเร็วต้น-กลาง ขี่ง่ายคล่องตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งในเมืองและ การออกทริปเล็กๆสัก 200-300 โลแบบ สบายๆเลยละครับ สำหรับตอนนี้ก็ได้วางจำหน่ายและปล่อยให้รับรถกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนใครที่อยากเป็นเจ้าของ ก็ไม่ต้องคิดมาก ซื้อก่อนขี่ก่อน..และก็หล่อก่อน จอ บอ!!
สีที่จัดจำหน่าย มีทั้งหมด 3 สี โดยมีราคากลางที่ 97,900 บาท
- สีแดง Advance Red
- สีดำ Tough matte Black
- สีเทา Tough Matte Brown
อ่านข่าวสารเพิ่มเติม คลิกทีนี้
ติดตามข่าวสาร Facebook คลิกทีนี้