เรารู้จัก Suzuki GSX-R1000 มาก็นานหลายปี และประชาชนคนไทยที่หลงรักสองล้อก็ล้วนแล้วแต่ต้องรู้จักเจ้า GSX-R1000 ในเรื่องของความแรงความดิบและความถึก และมาครั้งนี้นี้เราก็ได้โอกาสทดสอบ GSX-R1000R ที่เป็นตัวท็อปรหัส R ที่เรารู้กันในใจว่าคือ Racing
ก็อย่างที่เห็นเลยครับ ครั้งนี้นี้เรานำเจ้า Suzuki GSX-R1000R สปอร์ตไบค์เรือธงตัวท็อปและโมเดลใหม่ล่าสุดของทางค่ายมาทดสอบกัน ก่อนอื่นก็ขอพูดเรื่องความแตกต่างจากโมเดลปกติอย่าง GSX-R1000 หลักๆ เลยก็จะต่างกันเรื่องราคา เอ้ย เรื่องนี้ก็ใช่ แต่มันไม่ใช่ประเด็นโว้ย คือหลักๆ GSX-R1000R ก็จะต่างตรงมีตัว R มากกว่าตัวนึง (ยังไม่เลิกเล่นอีก) คือต่างกันตรงที่จะมีระบบกันสะเทือนที่ดีกว่าอัพเกรดเพิ่มเติมจากโมเดลปกติ มีระบบช่วยออกตัวหรือ Launch Control มีควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง และปิดท้ายเรื่องความแตกต่างจากภายนอก ก็จะมีระบบไฟเดย์ไลท์แบบ LED ที่ด้านบนช่องแรมแอร์ด้านหน้าตัวรถข้างๆ ไฟหน้า หลักๆ ก็จะมีดังที่บอกไปครับ ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่า เป็นส่วนใหญ่จะเป็นไปในเรื่องของการเพิ่มสมรรถนะในการซิ่งแบบสนามเป็นหลักครับ สมกับเป็นรหัส R
โฉบเฉี่ยว
เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกของ Suzuki GSX-R1000R คันนี้ก็อย่างที่บอกไปไม่ต่างกับ GSX-R1000 มากนัก มีเฉดสีให้เลือก 3 เฉดสีที่คล้ายกันทั้ง 2 โมเดล แต่ที่แน่ๆ ทั้งสองโมเดลมีดีไซน์ร่วมกัน วิธีแยกด้วยตาเปล่าให้มองไปที่โช้คหน้าใกล้กับคาลิเปอร์เบรคล่าง เจ้า GSX-R1000R จะมีโช้คหน้า Balance Free Fork รุ่นท็อปจาก Showa ที่จะมีตัวแท็งค์แยกเพิ่มออกมา โดยเน้นไปที่ความโฉบเฉี่ยวในแบบสปอร์ตโมเดิร์น และโดยเฉพาะกับสีน้ำเงิน Metallic Triton Blue หรือสีของคันที่เรานำมาทดสอบในฉบับนี้มันคือชุดสีที่ลอกแบบมาจากรถแข่งของทีม Suzuki Ecstar มาเลย เรียกว่าได้ฟีลลิ่งและกลิ่นอายของสนามแข่งมาเลยล่ะครับ ตัวไฟหน้าใหม่โคมเดี่ยวนี้ดูเล็กกว่าโมเดลก่อนๆ และแตกต่างจากของค่ายอื่นค่อนข้างมากนี้ ทางค่ายบอกว่าเพราะต้องการลดน้ำหนัก และเป็นโคมไฟเดี่ยวตรงกลางด้านหน้าสุดเพื่อให้มีแรงต้านอากาศน้อย หรือช่วยในเรื่องแอโรไดนามิกส์นั่นเอง แต่ไม่ทิ้งความสว่างคมชัดไป ด้วยการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแบบ LED แทน นอกจากนี้ด้านบนแรมแอร์ทั้งสองข้างก็มีไฟเดย์ไลท์อย่างที่บอกไป เสริมลุคสปอร์ตที่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับขี่บนท้องถนนได้อีกด้วย
นอกจากนี้มิติตัวรถนั้นยังมีขนาดเล็กลงกว่าโมเดลเก่าๆ โดยการออกแบบใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งในรายการ MotoGP โดยให้รูปทรงปราดเปรียวตั้งแต่หัวจรดท้ายรถเพื่อให้สอดคล้องกับหลักอากาศพลศาสตร์หรือแอโรไดนามิกอีกด้วย เรียกว่าไม่ได้หล่ออย่างเดียว แต่หล่อในแบบที่มีประโยชน์กับการขับขี่อีกด้วย ส่วนนึงที่ตัวรถเล็กลงก็เพราะเครื่องยนต์ตัวใหม่นี้นั้นมีขนาดที่เล็กลงด้วยหากเทียบกับโมเดลเก่าๆ บวกกับเฟรมและแชสซีใหม่ที่ทำช่วยให้รถเบาและขนาดเล็กกะทัดรัดลงอีกด้วย และเมื่อประกอบกับท่านั่งขับขี่ที่เป็นไปในแบบเรซซิ่งด้วยก็ช่วยให้พลิกรถขณะเข้าโค้งได้ง่าย ซอกแซกได้ง่ายขึ้นด้วยครับ
ขุมกำลัง
มาพูดถึงเรื่องหัวใจหลักของเจ้า GSX-R1000R คันนี้กันบ้าง เครื่องยนต์ของเจ้า GSX-R1000R คันนี้มีขนาดความจุอยู่ที่ 999.6 ซีซี 4 สูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่นำมาจาก GSX-RR รถแข่ง MotoGP เรียกว่าถ่ายทอด DNA กันมา จุดเด่นคือใช้ลูกสูบฟอร์ตอลูมิเนียมที่แข็งแรง ทนทานและน้ำหนักเบา มีระบบ Clutch Assist System ช่วยผ่อนแรงในการบีบกำคลัทช์และเข้าเกียร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น วาล์วไอดีและไอเสียทำจากไทเทเนียมที่ทั้งเบาและทนทาน มีระบบ Suzuki Racing Variable Valve Timing (SR-VVT) หรือเรียกกันง่ายๆ ว่าระบบวาล์วแปรผันที่ทำงานร่วมกันกับ Suzuki Exhaust Tuning Alpha และ Suzuki Top Feed Injector (S-TFI) ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้เพิ่มสมรรถนะให้กับเครื่องยนต์ในการขับขี่ในความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่สูง โดยไม่กระทบการขับขี่ในความเร็วรอบต่ำและกลางอีกด้วย โดยเคลมแรงม้ามาสูงสุดที่ 202 แรงม้า เราขึ้นทดสอบก็ได้ใกล้เคียงไม่ต่างกันมากนัก เรียกว่าเป็นสปอร์ตไบค์ตัวพันที่ทรงพลังระดับแนวหน้าเลย
จากการลองขับขี่ก็พบว่าเครื่องยนต์ของ Suzuki ยังมีความดิบ ดุดัน มีอัตราเร่งที่ดี เรียกว่าบิดติดมือเลยทีเดียว เนื่องจากแรงบิดหรือทอร์คนั้นมาไว กำลังของรถเองก็มีมากขึ้น แต่แน่นอนว่า Suzuki ก็ได้ให้ตัวช่วยต่างๆ เพื่อมาช่วยคุมความดิบของมันมาด้วย ซึ่งจะเล่าในหัวข้อต่อๆ ไป
อัพเกรด
แนวคิดของ Suzuki ที่มีต่อการพัฒนา GSX-R1000R คือแนวคิดที่ไม่ซับซ้อน โดยคำนึงถึงเรื่อง การวิ่ง การเลี้ยว และการเบรค ซึ่งก็สื่อถึงการเร่งเครื่องยนต์ การเข้าโค้งและการเบรคซึ่งต้องดีกว่าเดิมในทุกอย่าง ดังนั้นทาง Suzuki จึงอัพเกรดและใส่เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาเสริมในจุดต่างๆ ซึ่งเรื่องของการเร่งก็คือระบบวาล์วแปรผันซึ่งได้พูดไปแล้วในเรื่องของเครื่องยนต์นั่นแหละครับ เรื่องการเข้าโค้งแน่นอนว่าส่วนสำคัญก็คือเรื่องของช่วงล่างครับ งานนี้ Suzuki เลือกจัดโช้คหน้า Showa Balance Free Fork และโช้คหลัง Balance Free Rear Cushion Lite ซึ่งซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีเยี่ยมในขณะขับขี่ในแบบสปอร์ตหรือเรซซิ่ง ซึ่งถูกเซ็ตมาให้เหมาะกับการขับขี่ในสนามซะมากกว่า ซึ่งจากการทดสอบจะพบว่ามันค่อนข้างแข็ง และจะแข็งเกินไปหากขี่บนถนนในเมืองที่อาจจะมีหลุมบ่อหรือความขรุขระมากกว่าพื้นแทร็คในสนาม แต่เจ้านี่ตอบโจทย์การขับขี่ในสนามมากๆ มันช่วยเพิ่มการยึดเกาะได้มากขึ้น ช่วยให้การขับขี่และควบคุมรถได้ดีขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ตอนเข้าโค้งด้วย แน่นอนเรื่องการหยุดรถหรือการเบรคก็มีการนำคาลิเปอร์เบรค Brembo โมโนบล็อกแบบ 4 พ็อตมาใช้ ให้พลังหยุดหรือแรงเบรคที่ยอดเยี่ยม
นอกจากเรื่องชิ้นส่วนที่มีการอัพเกรดเพิ่มเติม ตัวรถยังใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ตามสมัยนิยม ไม่ว่าจะเป็นคันเร่งไฟฟ้า เซ็นเซอร์ IMU หรือตัววัดแรงเฉื่อยตามแกนต่างๆ ช่วยตรวจจับการเคลื่อนไหวของตัวรถ ทำงานร่วมกับระบบ Suzuki Drive Mode Selector หรือโหมดขับขี่และมีแทร็คชั่นคอนโทรลที่ปรับค่าได้มากถึง 10 ระดับ มีระบบ Low RPM Assist ที่ช่วยคุมรอบเดินเบาขณะออกตัวป้องกันรถดับ ระบบ Easy Start ที่ช่วยให้สตาร์ทรถได้ง่ายได้เพียงกดปุ่มเดียว มีระบบช่วยออกตัว และมีควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยเสริมประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ ร่วมถึงเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ในแบบเรซซิ่งหรือการขับขี่ในสนามได้เป็นอย่างมาก ซึ่งจากการทดสอบแทร็คชั่นคอนโทรลเองก็ทำงานตัดกำลังได้รวดเร็ว และสามารถปรับใช้งานได้ง่ายผ่านปุ่มควบคุมที่แฮนด์บาร์ทางด้านซ้ายมือ หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิตอลก็แสดงผลรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ได้ครบถ้วนและมองเห็นได้ชัดเจนแม้แสงแดดแรง
สรุป
สรุปรวมๆ แล้วเจ้า GSX-R1000R คันนี้จัดเป็นซูเปอร์ไบค์ตัวพันที่เน้นไปในการขับขี่แบบเรซซิ่งหรือการขับขี่ในสนาม ด้วยองค์ประกอบต่างๆ ที่เอื้อให้ใช้งานในสนาม อาจจะใช้เป็นรถแข่ง หรือขี่สนุกๆ ในงานแทร็คเดย์ก็ได้ เรียกว่าเกิดมาเพื่อซิ่ง แต่ก็ไม่ผิดหากจะเอามาขี่ถนน แต่อาจจะต้องมีการปรับเซ็ตโช้คให้นุ่มลงบ้าง เพราะค่าเดิมนั้นแข็ง จนอาจจะทำให้เกิดการกระด้าง หรือสะท้านสะเทือนหากเจอกับถนนหนทางบ้านเราได้ สนนราคาค่าตัว 809,000 บาทก็ถือว่าไม่แรง เมื่อเทียบกับความดิบหรือความทรงพลังของเครื่องยนต์ สมรรถนะและลูกเล่นต่างๆ ของรถที่ให้มา จัดได้ว่าคุ้มค่า ขนาดไม่เปลี่ยนท่อรถยังดุดันขนาดนี้ หากเปลี่ยนท่อซักใบรับรองขี่สนุกยิ่งกว่านี้อีกครับ ส่วนในเรื่องความเหมาะสมสำหรับมือใหม่นั้นก็เรียกว่าก็พอไหว เนื่องจากรถยังมีโหมดการขับขี่ และแทร็คชั่นคอนโทรลที่ช่วยตัดกำลังของรถได้ หากเลือกใช้โหมดที่เหมาะสม และปรับตัวให้คุ้นเคย ไปเรียนขับขี่เพิ่มเติม ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ครับ.
SUZUKI GSX-R1000R
Rating
Engine | 9 |
Handling | 9 |
Brake | 9 |
Track | 9 |
Cruise | 6 |
Urban | 7 |
Newbies | 7 |
Advance | 9 |
Appearance | 9 |
Value | 9 |
Total | 83 |
Specifications
เครื่องยนต์ | สี่สูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำ |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 999.6 ซีซี |
ระบบวาล์ว | 4 วาล์วต่อสูบ |
ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก | 76.0 X 55.1 มม. |
อัตราส่วนการอัด | 13.2:1 |
แรงม้า ทดสอบจริง | |
แรงบิด ทดสอบจริง | |
ระบบเกียร์ | 6 สปีด |
ระบบจุดระเบิด | อิเล็กทรอนิกส์ |
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | หัวฉีด |
ระบบสตาร์ท | สตาร์ทไฟฟ้า |
ระบบคลัทช์ | คลัทช์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน |
ยาว X กว้าง X สูง | 2,075 X 705 X 1,145 มม. |
ขนาดยางหน้า | 120/70 – ZR19 M/C 58W |
ขนาดยางหลัง | 190/55 – ZR17 M/C 75W |
ระบบกันสะเทือนหน้า | โช้คหัวกลับ Showa Balance Free Fork ปรับสปริงพรีโหลด คอมเพรสชั่นและรีบาวด์แดมปิ้งได้ |
ระบบกันสะเทือนหลัง | สวิงอาร์มและโช้คเดี่ยว Balance Free Rear Cushion Lite ปรับสปริงพรีโหลด คอมเพรสชั่นและรีบาวด์แดมปิ้งได้ |
เบรคหน้า | ดิสก์เบรคคู่ขนาด 320 มม. คาลิเปอร์เบรค Brembo โมโนบล็อกแบบ 4 พ็อต พร้อม ABS |
เบรคหลัง | ดิสก์เบรคเดี่ยวขนาด 220 มม. คาลิเปอร์เบรค Nissin แบบ 1 พ็อต พร้อม ABS |
ระยะฐานล้อ | 1,420 มม. |
ความสูงเบาะ | 825 มม. |
น้ำหนักรถ | 203 กก. |
ความจุถังน้ำมัน | 16 ลิตร |
ราคา | 809,000 บาท |
ติดต่อ | Facebook: SuzukiSociety |
จุดเด่น
โช้คหน้า Sub tank
สี ลวดลาย
ข้อสังเกต
ปลายท่อไอเสียใหญ่มาก
อ่านบททดสอบรถอีกมากมาย คลิก
อ่านข่าวสารเพิ่มเติม คลิกทีนี้
ติดตามข่าวสาร Facebook คลิกทีนี้