Home New Bike Super Meteor 650 2023 ครูเซอร์ตัวใหม่จาก Royal Enfield

Super Meteor 650 2023 ครูเซอร์ตัวใหม่จาก Royal Enfield

0

  Super Meteor 650 2023 ครูเซอร์ตัวใหม่จาก Royal Enfield

หลังจากจบงาน EICMA และ Rider Mania ในประเทศอินเดียที่เพิ่งจัดไปเร็วๆ นี้ รอยัล เอ็นฟีลด์พร้อมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ Super Meteor 650 อย่างเป็นทางการในประเทศอินเดียและยุโรป ที่มากับรุ่นย่อย 2 รุ่น

ได้แก่ Super Meteor 650 และ Super Meteor 650 Tourer ใน 7 โทนสี พร้อมประกาศเปิดตัวในเอเชียแปซิฟิกเร็ว ๆ นี้

ด้วยเอกลักษณ์ด้านการทรงตัวและการควบคุม ดีไซน์การออกแบบในราคาที่เข้าถึงได้ กับรถจักรยานยนต์ Super Meteor 650 2023  ที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นที่ศูนย์เทคโนโลยีแห่งสหราชอาณาจักรของแบรนด์ ร่วมกับ Harris Performance โดยเฟรมและสวิงอาร์มถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำทำให้ควบคุม บังคับเลี้ยวได้ง่าย อีกทั้ง มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมในช่วงความเร็วสูง ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจในทุกครั้งที่ออกเดินทาง 

ดิสเบรกเดี่ยวขนาด 320 ม.ม. / ปั้มเบรก BYBRE / โช้ค Upside Down และ ล้ออัลลอย 19 นิ้ว

โครงสร้างของตัวรถ ถูกสร้างขึ้นด้วยนวัตกรรมทางวิศวกรรมที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นรูปโครงเหล็กแบบฟอร์จ, การหล่อแบบ Investment casting และการ Pressings & Extrusions ซึ่งเฟรมแบบใหม่นี้ มีการออกแบบให้มีจุดยึดฝาสูบใหม่ มาพร้อมกับโช้คแบบ USD (UpSide Down) มีช่วงชักที่ 120 ม.ม. และโช้คหลังแบบพิเศษพร้อม pre-load ได้ถึง 5 ระดับ กับระยะยุบตัวที่ 101 ม.ม. และเมื่อช่วงล่างทั้งหมด ถูกผสานด้วยเฟรมออกแบบมาพิเศษ ทำให้ Super Meteor 650 รุ่นนี้เหมาะกับการขับขี่ระยะทางไกลเลยทีเดียว 

สำหรับรายละเอียดของเจ้าตัว Super Meteor 650 ในด้านเครื่องยนต์จะเป็นแบบสองสูบขนาด 648 ซีซี ที่มีพละกำลังขนาด 46.4 แรงม้าที่ 7,250 รอบ ให้แรงบิดสูงสุดที่ 52.3 นิวตันเมตรที่ 5,650 รอบ มีอัตราส่วนการอัด 9.5 : 1

พร้อมระบบคลัตช์แบบเปียกหลายแผ่นซ้อนกัน รวมถึงการใช้เกียร์แบบ 6 สปีด ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด EFI และระบบสตาร์ทไฟฟ้า 

มิติตัวรถ

ด้านมิติรถมีขนาด (กว้างxยาวxสูง) 890×2,260×1,155 ม.ม. มีความสูงพื้นเบาะ 740 ม.ม. ระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถ 135 ม.ม. และระยะฐานล้อ 1,500 ม.ม. โดยน้ำหนักหนักรถ (รวมของเหลว) อยู่ที่ 241 ก.ก. ซึ่งถือว่าไม่หนักมาก

มากันที่ช่วงล่างของตัวรถ ระบบเบรกหน้าเป็นดิสก์เบรกเดี่ยว 320 ม.ม. คาลิเปอร์โอ้ตลูกสูบคู่ และเบรกหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยว 300 ม.ม. คาลิเปอร์โอ้ตลูกสูบ พร้อมระบบ ABS แบบ Dual Channel กับล้อหน้าขนาด 100/90-19 (ล้อแม็ก) และล้อหลังขนาด 150/80-16 (ล้อแม็ก) 

แผงหน้าปัด LCD

ต่อกันที่เทคโนโลยีของตัวรถ แผงหน้าปัดมาตรวัดความเร็วแบบอะนาล็อกเข้ากับการทำงานของจอ LCD ที่แสดงข้อมูลต่างๆ อาทิ รอบเครื่องยนต์, ไฟบอกเกียร์, มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง, นาฬิกา, และมาตรวัดระยะทาง จากนั้นจะมีอุปกรณ์นำทางแบบ TBT (Turn-By-Turn) หรือที่รู้จักในชื่อ Royal Enfield Tripper

ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือกับ Google เชื่อมโยงกับสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ผ่านบลูทูธ ช่องเสียบ USB แบบแยกส่วนอยู่ใต้แผงด้านซ้าย และจุดสนใจเพิ่มเติมครูเซอร์รุ่นนี้คือ ไฟหน้าแบบ LED ซึ่งเป็นครั้งแรกของรอยัล เอ็นฟีลด์ ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันสไตล์ย้อนยุค แต่ให้ประโยชน์ทั้งหมดจากเทคโนโลยี LED

นอกจากนี้ Super Meteor 650 ถูกออกแบบให้การขี่และควบคุมรถทำได้ง่าย ผ่านการออกแบบตัวรถจักรยานยนต์ที่คำนึงถึงหลักสรีระศาสตร์ และให้ฟีลลิ่งในการขับขี่ ทรงตัวได้นิ่งแม้มีลมแรงบนถนน อีกทั้งคล่องตัวสูงในทุกโค้ง เครื่องยนต์นิ่งและนุ่มนวล และพร้อมแรงบิดที่เหลือเฟือในทุกรอบเครื่องยนต์

และที่สำคัญคือ สไตล์การออกแบบที่คงเอกลักษณ์ของความเป็นรอยัล เอ็นฟีลด์ เหล่านี้ คือเป็นจุดเด่นของ Super Meteor 650 ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางในเมือง หรือนอกเมืองที่เป็นไปด้วยทางตรง ทางโค้งและเนินเขา

ด้วยความสูงที่พอเหมาะสำหรับรถกลุ่มนี้ เบาะนั่งที่รองรับช่วงสะโพกและเอวได้ดี ช่วยให้ผู้ขี่ยืนคร่อมรถได้อย่างสบาย อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของรถครูซเซอร์ก็คือตำแหน่งการขี่ ซึ่ง Super Meteor 650 มาพร้อมที่พักเท้าหน้าที่ยื่นไปทางข้างหน้ารถ และแฮนด์บาร์กว้างที่ยกขึ้น ทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถมากขึ้น มีตัวถังน้ำมันขนาดใหญ่เพิ่มระยะให้มากขึ้น และยางแบบไม่มียางในที่กว้าง

ของทั้งล้ออัลลอยหน้าขนาด 19 นิ้ว และหลังขนาด 16 นิ้ว ทำให้ผู้ขี่อุ่นใจได้เวลาทำความเร็วบนไฮเวย์การออกแบบแบบไดนามิก และรูปทรงที่โดดเด่นเพิ่มความปราดเปรียวให้รูปลักษณ์ของรถ อีกทั้งสื่อถึงการเคลื่อนไปข้างหน้าแม้รถจะจอดอยู่กับที่

ขนาดเครื่องยนต์ 648 ซีซี พร้อมโลโก้แบบดั้งเดิมของ รอยัล เอ็นฟีลด์

ปิดท้ายที่ความโดดเด่นของสีสันตัวถังโดย Super Meteor 650 มาพร้อมสีตัวถังที่ให้ความเงาเป็นประกาย โลโก้ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโลโก้แบบดั้งเดิมของรอยัล เอ็นฟีลด์ ผลิตด้วยวัสดุโครเมี่ยมตัดเฉดสองสีให้มิติ และความโดดเด่น เสมือนเป็นเครื่องประดับชิ้นเอกที่จัดตำแหน่งวางได้อย่างลงตัวข้างตัวถังรถ

โทนสีตัวรถ

Super Meteor 650 มาพร้อมตัวเลือกสีดำ Astral Black, สีฟ้า Astral Blue, สีเขียว Astral Green, สีเทา Interstellar Grey และสีเขียว Interstella Green สำหรับรุ่น Super Meteor 650 Tourer

ซึ่งมาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม เช่น แผงบังลม, เบาะนั่งแบบ deluxe touring, ที่พิงหลัง มาใน 2 ตัวเลือกเฉดสี ได้แก่ สีแดง Celestial Red และสีฟ้า Celestial Blue

รุ่น Tourer กับพนักพิงและชิลด์หน้า ให้ฟีลความเป็นทัวริ่งสมบูรณ์แบบ

สำหรับ Solo Tourer คือธีมสำหรับการตกแต่ง Super Meteor สำหรับการเดินทางแบบคนเดียวให้โดดเด่นมีสไตล์มากขึ้น รอยัล เอ็นฟีลด์ ได้ออกแบบอุปกรณ์ตกแต่งเสริมที่จะทำให้เส้นทางโซโล่ของผู้ขี่สมบูรณ์แบบ และมีสไตล์ในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกระจก และคิ้วปลายแฮนด์ ไฟเลี้ยว LED ทั้งด้านหน้าและหลัง, ชุดแต่งเดี่ยว, การ์ดเครื่องยนต์, ล้ออัลลอย, ที่พักเท้าผู้ขี่ และการ์ดเครื่องยนต์สีเงิน

โดยโทนสี Astral และ Interstellar ที่เน้นการเดินทางไกลสองคนนั้นจะมีอุปกรณ์ตกแต่ง เช่น เบาะนั่งแบบทัวริ่งที่หนากว่า ทำให้เดินทางไกลได้สบายมากยิ่งขึ้น, พนักพิงสำหรับคนซ้อนเบาะ และชิลด์หน้ารุ่นฟลายสกรีนทัวร์ริ่ง นอกจากนี้ยังสามารถเลือกซื้ออุปกรณ์เพื่อตกแต่งเพิ่มเติมได้ เช่น แฮนด์บาร์, กระจกแบบทัวริ่ง, พักเท้าผู้ขี่, ไฟตัดหมอก LED, การ์ดเครื่องยนต์ Air Fly Evo, การ์ดกันถังน้ำมันสีดำ, ไฟเลี้ยว LED ด้านหน้าและด้านหลัง และกล่องใส่สัมภาระขนาดใหญ่

สุดท้ายนี้ก็ฝากไว้ด้วยสำหรับครูเซอร์ตัวใหม่ ของรอยัล เอ็นฟีลด์ ที่ออกแบบดีไซน์เหมาะสำหรับชาวครูเซอร์ ที่จะใช้ในตัวเมืองหรือขับขี่ระยะทางไกล สำหรับใครที่จะหารถธรรมดาขนาดกลาง ก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.royalenfield.com/ ได้เลยครับ 

 

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Exit mobile version