spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

Yamaha ผุดไอเดียไฮบริดใหม่ ‘Series Parallel Hybrid’

Yamaha ผุดไอเดียไฮบริดใหม่ ‘Series Parallel Hybrid’

ภาพโมเดลต้นแบบของรถที่ใช้ระบบไฮบริดรูปแบบใหม่

โลกในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบพลังงานไฟฟ้าเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมากในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ ซึ่ง  ในหลากหลายค่ายก็ล้วนสรรค์สร้างโมเดลที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ซึ่งทางยามาฮ่าเองก็ไม่รอช้าที่จะประดิษฐ์เครื่องยนต์ไฮบริดใหม่ ‘Series Parallel Hybrid’ หรือ SPHEV ที่จะผสานทั้งเครื่องยนต์สันดาป และมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิการขับขี่ให้ดีมากยิ่งขึ้น

โดยระบบ SPHEV ที่ทางฝั่งของยามาฮ่าพัฒนาจะใช้จะเป็นเครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิม ที่มีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่ม 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์เจเนอเรเตอร์ (Generator Motor) และ มอเตอร์ขับเคลื่อน (Drive Motor)

มอเตอร์ไฟฟ้าทั้งสองตัวที่ถูกติดตั้ง และทำงานร่วมกับเครื่องยนต์สันดาป

มอเตอร์ไฟฟ้าตัวแรกเป็น มอเตอร์เจเนอเรเตอร์ (Generator Motor) ที่ติดตั้งอยู่บริเวณข้อเหวี่ยง ทำหน้าที่ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ และปั่นไฟกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ลูกใหญ่ที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของเครื่องยนต์

ในส่วนของมอเตอร์อีกตัวจะเป็นมอเตอร์ขับเคลื่อน (Drive Motor) หรือมอเตอร์หลักที่ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนตัวรถเป็นหลัก โดยมอเตอร์ตัวนี้จะถูกติดตั้งอยู่บริเวณแกนล้อหลัง หน้าที่ของมันหลัก ๆ นอกจากจะเป็นตัวช่วยในการหมุนล้อแล้วยังสามารถปั่นไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะที่รถอยู่ในช่วงลดความเร็วได้อีกด้วย

Series Parallel Hybrid
การทำงานของเครื่องยนต์ระหว่างระบบไฟฟ้า และระบบสันดาป

โดยค่าแรกสุดของรถโมเดลนี้ จะเริ่มต้นด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ที่ถูกติดตั้งอยู่บนเพลาหลัง เมื่อขับไปถึงความเร็วได้ถึงจุดหนึ่งของตัวรถ ระบบเครื่องยนต์สันดาปก็จะเริ่มทำงาน และส่งกำลังไปยังล้อหลังผ่านระบบสายพาน เพราะถ้าอยู่ในช่วงของความเร็วสูงมอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดการทำงาน แล้วปรับเปลี่ยนไปใช้พลังงานจากเครื่องยนต์

Series Parallel Hybrid
เมื่อใช้ความเร็วสูงมอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดทำงาน แล้วใช้เครื่องยนต์แทน

โหมดการขับขี่ของมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มีโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมดได้แก่ โหมดไฟฟ้าล้วน (Full EV), โหมดไฮบริด (Hybrid Driving) และโหมดบูสต์ (Boost Driving) ซึ่งโหมด Boost Driving นี้จะมีสองรูปแบบย่อยได้แก่ ‘Dual Boost’ มอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งบนเพลาหลัง และเครื่องยนต์สันดาปจะทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มความเร็วให้กับตัวรถ 

และในโหมด Triple Boost มอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งบนเพลาหลัง และเครื่องยนต์สันดาปจะได้รับการเสริมพละกำลังด้วยมอเตอร์เจเนอเรเตอร์ที่ติดตั้งบนข้อเหวี่ยง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มแรงบิดโดยตรงไปยังข้อเหวี่ยง ทำให้เครื่องยนต์มีพละกำลังที่มากขึ้น แรงบิด และการตอบสนองสามารถทำได้ดีขึ้น

สุดท้ายนี้ระบบใหม่ ‘SPHEV’ เป็นที่อยู่ในช่วงของการพัฒนา และช่วงต้นแบบเท่านั้น และอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการวางจำหน่ายจริง ซึ่งระบบใหม่นี้จะถูกนำมาปรับใช้ในรถจักรยานยนต์ประเภทสกูตเตอร์ก่อน ซึ่งคาดการณ์ว่าโมเดลนี้จะถูกนำมาใช้งานในโมเดล Yamaha XMAX เป็นโมเดลแรก เนื่องจากรถในคลาสนี้เป็นรถที่มีขนาดกลาง ๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะกับการขับขี่ในเมือง และเดินทางไกล

อ่านข่าวอื่นๆ จาก Yamaha คลิกที่นี่

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -
GoKart SuperBike
GoKart SuperBike
ชื่นชอบทีมกีฬาที่มีสีแดงเป็นชีวิตจิตใจ เช่น Ducati Lenovo และสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

บทความยอดนิยม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่