 |
 |
Razgatlioglu คือนักแข่งหนุ่มที่มีฟอร์มร้อนแรงไม่เบา แม้ว่าปีหน้า 2020 เขาจะย้ายจาก Kawasaki มาซบกับ Yamaha แต่เราก็ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเขา งานนี้เราลองไปพูดคุยจาก Phil Marron กันว่าเขามีพัฒนาการอย่างไรกันบ้างดีกว่า
Phil Marron: “การพัฒนาของ Toprak ตลอดปี 2019 นั้นยอดเยี่ยมจริงๆ “
หัวหน้าทีมของ Razgatlioglu เผยประสบการณ์การทำงานร่วมกันตลอด 12 เดือนที่ผ่านมาและครั้งแรกกับค่ายสีน้ำเงิน Yamaha
มีหลายเรื่องยังคงคุมเคลือไม่ชัดเจน หลังจากการทดสอบก่อนการแข่งขัน 2020 MOTUL FIM Superbike World Championship ผ่านไปแล้ว 2 ครั้ง ทั้งยังมีอะไรที่ยังไม่ได้สะสางอีกจำนวนมากจนกระทั่งการแข่งขันเรซแรกของฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นขึ้น อย่างไรก็ดีบางเรื่องก็ต้องการความกระจ่างชัดแจ่มแจ้งเสียก่อน เป็นต้นว่า Toprak Razgatlioglu (Pata Yamaha Official WorldSBK Team) สามารถปรับตัวเข้ากับ YZF-R1 มั้ย?
คำตอบของเรื่องนี้เป็นที่กังขามาตลอด แต่คำตอบที่ออกมาก็คือ ได้ นักแข่งชาวตุรกีสามารถทำท็อปฟอร์มกับ Yamaha ในวันที่ 2 ในการทดสอบที่ Aragon เขาทำเวลาที่ดีที่สุดห่างจาก Jonathan Rea’s (Kawasaki Racing Team WorldSBK) เพียงแค่ 0.019 วินาทีเท่านั้น
ความจริงคือ Razgatlioglu แม้กระทั่งตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่พอใจกับผลงานของเขาเท่าไหร่นัก แม้ว่าในปี 2019 เขาจะพยายามจนกระทั่งเขาสามารถคว้าตำแหน่งโพเดียมมาได้ต่อเนื่อง ก่อนที่จะตีไข่แตกกับศึก WorldSBK คว้าชัยชนะอันน่าทึ่งมาได้ 2 ครั้งในการแข่งขันที่ฝรั่งเศส
คนที่อยู่เคียงข้างเขาตลอดฤดูกาลที่ผ่านมาและตอนนี้ก็กลายมาเป็นส่วนนึงกับทาง Pata Yamaha ซึ่งคนๆ นั้นก็คือ Phil Marron หัวหน้าทีม อดีตมือขวาของ Eugene Laverty, Sam Lowes และคนอื่นๆ อีก หลายๆ คนอาจจะชี้นิ้วชายคนนี้ที่มาจากหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อ Moneyglass ตอนเหนือของไอร์แลนด์ ว่าเขาคือหัวหอกคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตของ Razgatlioglu ในฤดูกาลที่แล้ว ทว่าหากพูดกันตอนจบวันแรกของการทดสอบที่ Jerez ทาง Marron คงจะแย้งเป็นแน่
“การที่ได้เห็นเขาพัฒนาขึ้นมาตลอดทั้งปี ด้วยคำคอมเมนต์ คำแนะนำและความเข้าใจในตัวรถที่เขาขี่ทั้งหมดของเขา เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ นั่นคือจุดที่เราก้าวหน้ามากที่สุด เขาสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อการแข่งขันผ่านไปเรื่อยๆ ด้วยคำคอมเมนต์ของเขาทำให้เราสามารถเซ็ตรถให้เหมาะกับเขาได้ อาจจะไม่ได้รวดเร็วทันใจ แต่ในที่สุดเราก็ได้รถที่เหมาะกับเขา”
“เขายังหนุ่ม แต่เขามีประสบการณ์เยอะมาก ในแง่ของการแข่ง Superbike เขากลับไม่มีประสบการณ์ แต่การขี่รถแล้ว เขาทำมันตั้งแต่ตอนที่เขาเดินได้ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเขารู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่”
การสื่อสารที่ดีและชัดเจนเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของพวกเขาและเป็นอะไรที่พวกเขากำลังมองหา เพื่อที่จะถ่ายทอดไปยังทีมงานของ Crescent Racing โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าจะรับมือความแตกต่างระหว่าง YZF-R1 และ ZX-10RR อย่างไร
“มีวิศวกรเก่งๆ หลายคนในทีมและพวกเขาเริ่มที่จะเข้าใจในคำคอมเมนต์ของเขา นักบิดทุกคนบอกอะไรอย่างนึง แต่การรู้ว่าสิ่งนั้นหมายความว่าอะไรอย่างชัดเจนนั้นทำให้มันแตกต่างกันอย่างมาก พวกเขาต้องการที่จะเข้าใจในทุกๆ จุดที่เขาคอมเมนต์อย่างถ่องแท้”
จนถึงตอนนี้ “เราเริ่มที่จะเข้าใจว่าเขาต้องการอะไร อยากได้อะไร มันยังเป็นช่วงแรกๆ ก็จริง แต่เขาก็เริ่มคุ้นเคยกับรถแล้ว การตอบสนองที่ได้จากยางใหม่เองก็ดีเช่นกัน ซึ่งเป็นอะไรที่เราไม่เคยได้สัมผัสจากฤดูกาลที่แล้ว ดังนั้นเรื่องราวจึงเป็นไปได้ด้วยดี”
“เรายังคงพยายามที่จะหาบาลานซ์ที่เหมาะสมกับรถเพื่อให้เข้ากับตัวเขา เราได้ข้อมูลจากนักแข่ง Yamaha คนอื่นๆ แต่คำขอของเขา แม้จะไม่ถึงกับฟังไม่เข้าใจแบบภาษาเอเลี่ยน แต่ก็แตกต่างกับคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าเราจะเห็นเขาอยู่ท้ายรถดักลมอยู่บ่อยๆ แต่เขาไม่ชอบแบบนั้น เขาชอบรถที่สามารถเบรกได้ดีเยี่ยม ซึ่งตอนนั้นเราไม่เข้าใจ ดังนั้นเราก็เลยต้องหาจุดที่เหมาะสมกับเขาก่อน”
“ปี 2020 จะเป็นฤดูกาลที่ 6 ของ Razgatlioglu ในแพ็ดด็อกแล้ว ( 1 ฤดูกาลกับ STK600, 2 ฤดูกาลใน STK1000 และตั้งแต่ปี 2018 ก็เป็นในศึก WorldSBK) แต่เขายังอายุไม่ถึง 24 จนกว่าจะจบฤดูกาลไปอีก 5 วัน การที่เขาประสบความสำเร็จระดับนี้ก็มากกว่านักแข่งส่วนใหญ่แล้ว การตั้งเป้าหมายที่เล็กน้อยเกินไปสำหรับเขาเป็นเรื่องไม่เข้าท่าเท่าไหร่ ดังนั้นจึงควรตั้งเป้าให้เหมาะสมกับความมุ่งมั่นของเขามากกว่า”
“ในปี 2019 เราประสบความสำเร็จมากกว่าที่เราคาดคิดเอาไว้ เรารู้ว่ามันมีศักยภาพที่จะทำได้ แต่เราไม่ได้คิดว่าจะไปถึงจุดนั้น เราแค่ทำมันให้ดีอย่างที่เราเคยทำ โพเดียมต่อโพเดียมเลย”
“แต่จะตั้งเป้าปี 2020 โดยอิงจากผลลัพธ์ที่เขามีอยู่ตอนนี้ไม่ได้ เพราะมันเป็นเพียงแค่การทดสอบ เช้านี้เขาบอกว่าเขาต้องทำเวลาแล็ป 1 นาที 40 วินาทีให้ได้ แต่ผมบอกว่า “ไม่ได้ เราต้องทำให้ได้ 1 นาที 39 วินาที!” เขาทำหน้าประมาณว่า “เอางั้นเหรอ?” จากนั้นพอจบการทดสอบเขาก็ออกมาบอกว่า “ผมต้องทำให้ได้ 1 นาที 38 วินาที” แต่เขาขยับเป้าหมายของเขาออกไปอย่างรวดเร็วภายในแค่เวลาวันเดียวเท่านั้น!
“เราจำเป็นที่จะต้องให้เขาใจเย็นและมีสติไว้ เราจะยังไม่ตั้งเป้าหมายของเราในตอนนี้ เราต้องเข้าใจถึงศักยภาพทั้งหมดของรถและศักยภาพของเขาก่อนที่จะบอกว่าเราต้องการอะไร แต่ทุกคนในพิทเลนต้องการสิ่งเดียวกัน ซึ่งเราไม่ต้องพูดออกมาก็รู้กันอยู่!”
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก
