Praga ZS 800 เรโทรไบค์จากแบรนด์ไฮเปอร์คาร์สัญชาติเช็ค
เมื่อแบรนด์ไฮเปอร์คาร์หันมาทำมอเตอร์ไซค์ อะไร ๆ มันก็ต้องดูหรูหรา ล้ำเลิศ เพริศแพร้ว จนทำเอาใจแป้ว โดยเฉพาะกับเจ้า Praga ZS 800 เรโทรไบค์คันที่คุณกำลังเห็นอยู่นี้ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง BD 500 มอเตอร์ไซค์ระดับไอคอนิกของทางค่ายเมื่อปี 1928
โมเดลสุดพิเศษนี้เป็นผลงานของทีมวิศวกรผู้ชำนาญการของทางแบรนด์ที่บรรจงสร้างไฮเปอร์คาร์ที่ชื่อว่า Bohema ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่สมัยใหม่กับดีไซน์แบบย้อนยุคจนกลายเป็นโมเดลสุดพิเศษขึ้นมา
ตัวรถไม่เพียงแต่โดดเด่นในเรื่องของการออกแบบ แต่ยังมีน้ำหนักเบาจนหลายคนคาดไม่ถึง ด้วยการเลือกใช้เฟรมที่ผลิตขึ้นจากวัสดุโครโมลี น็อนและสกรูไทเทเนียม ท่อไอเสียไทเทเนียมเต็มระบบ ล้อคาร์บอนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักรถเปล่าเพียง 142 กิโลกรัม หรือน้ำหนักรถพร้อมของเหลวที่ 158 กิโลกรัมเท่านั้น
มาดูในส่วนของขุมพลังกันบ้าง โมเดลนี้จะใช้เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 4 จังหวะระบายความร้อนด้วยอากาศขนาด 773 ซีซี (เครื่องของ Kawasaki W800) ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ยังคงให้กลิ่นอายของความคลาสสิกจากตัวก้านกระทุ้งวาล์วด้านขวา แต่ก็ถูกปรับปรุงให้ทันสมัยให้มีความประหยัดและผ่านมาตรฐาน Euro5 ซึ่งให้กำลังสูงสุดที่ 50 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 65 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 5 สปีด
โดยมีถังน้ำมันขนาด 11.5 ลิตรเป็นแหล่งบรรจุเชื้อเพลิงและเป็นส่วนหนึ่งของเฟรม พร้อมฝาครอบคาร์บอนฟอร์จเพิ่มความสวยงามหรูหรา
ช่วงล่างของรถนั้นเป็นอะไรที่โดดเด่นและแปลกตาอย่างมาก ตัวรถเลือกใช้ระบบกันสะเทือนด้านหน้าโช้คเดี่ยวพร้อมสวิงอาร์มแฃะกระเดื่อง โดยใช้โช้คจาก Ohlins TTX22 ที่ปรับแต่งค่า ๆ ต่างได้เต็มระบบ ด้านหลังเองมีดีไซน์ของรถในสไตล์หลังแข็ง แต่ก็เลือกวางโช้คโช้คเดี่ยว Ohlins TTX Air ไว้ใต้เบาะ ขณะที่ระบบเบรกนั้นเลือกใช้ไฮดรอลิกดรัมเบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลังบิลด์ติดไว้กับตัวล้อเลย เรียกได้ว่ารักษาภาพลักษณ์ความเรโทรไว้ขีดสุดจริง ๆ
ส่วนในเรื่องเทคโนโลยีนั้นเรียกว่าทุ่มไปในขบวนการผลิตและการออกแบบ แต่ไม่ได้มีการระบุถึงเรื่องเทคโนโลยีที่ช่วยในการขับขี่เลย แต่ก็อย่างว่าล่ะครับ รถแบบนี้ไม่ได้ออกแบบมาให้ขี่ซิ่งอยู่แล้ว เน้นออกมาให้ขี่โชว์ให้คนเหลียวหลังมองเท่านั้น หรือจะซื้อมาประดับบารมีก็บอกเลยไม่ผิดหวัง เพราะสนนราคาอยู่ที่ 86,000 ยูโรแบบยังไม่รวมภาษี หรือคิดราว ๆ 3.15 ล้านบาท โดยจะผลิตขึ้นเพียง 28 คันเท่านั้น และจะเริ่มส่งมอบภายในกลางปีนี้
งานนี้ใครเงินเหลือก็ไปจัดกันได้นะครับ ซื้อมานี่ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม จอดที่ไหนใครก็ต้องหันมามองอย่างแน่นอนครับ
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก