กลับมาอีกครั้งสำหรับโมเดลใหม่จาก BMW Motorrad ครั้งนี้มีการขยับซีซีเพิ่มขึ้นอีกนิด แรงม้าเพิ่มขึ้นอีกหน่อย หน้าจอเรือนไมล์หรูหรากับโมเดลแอดเวนเจอร์ทัวริ่งอย่าง BMW F 850 GS และ F 750 GS ที่เพิ่งเปิดตัวไปในประเทศไทยไปเมื่อไม่นานมานี้เอง ครั้งนี้ทาง BMW Motorrad ได้พาพวกเรามาทดสอบกันที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ท่ามกลางบรรยากาศปลายฝนต้นหนาว แต่วันที่เราไปน่าจะเป็นฝนส่งท้ายชุดใหญ่กันเลยทีเดียว
ก่อนอื่นผมต้องขอบอกว่าการทดสอบรอบสื่อมวลชนครั้งนี้ไม่ธรรมดาโดยเราได้ร่วมขับขี่กับMr. GS Trophy อย่าง Tomm wolf ชายผู้ที่หลงใหลในการขับขี่แบบผจญภัยมาตั้งแต่ปี 1978 ด้วยรถ BMWที่เขาดัดแปลงให้พร้อมลุยด้วยตัวเองโดยในวันนี้เขาจะร่วมทดสอบไปกับเราตลอดทั้งวันแม้ว่าฝนจะยังไม่หยุดก็ตามพวกเราเตรียมตัวกันก่อนจะขี่ออกจากจุดเริ่มต้นที่โรงแรมโซโซฟิเทลหัวหิน
F 850 GS
การขับขี่แบ่งเป็นผลัดโดยเราต้องสลับรถกันชับมีทั้งF 750 GS, F 850 GS และ R 1200 GS เดินมาช้าไปนิด คันแรกของผมก็เลยกลายเป็นเจ้า R 1200 GS ไปซะอย่างนั้น ขับขี่เพลินๆ ไปก่อน ก่อนจะไปสลับรถกันที่ปั๊ม ปตท.หนองหญ้าปล้อง คราวนี้เป็นคราวของผมบ้าง ผมได้ลองขี่เจ้า F 850 GS มิติตัวรถและท่านั่งขับขี่นั้นกำลังดี ด้วยระบบกุญแจแบบคีย์เลส ผมจึงสามารถกดปุ่มสตาร์ทรถแบบไม่ต้องเสียบกุญแจได้เลย ต้องบอกเลยว่าครั้งนี้ BMW ได้ใส่เทคโนโลยีที่เดิมเคยมีแต่ในรุ่นใหญ่ มาใส่ให้กับน้องรองด้วย และเทคโนโลยีอย่างอื่นก็มีเพิ่มมากขึ้นด้วย มีหนึ่งระบบที่ผมเจอก่อนและได้ใช้งานเลยคือ ระบบเตือนแรงดันลมยางฟ้องขึ้นมาว่าลมยางอ่อน ผมก็จัดแจงเอารถไปเติมก่อน พอสัญลักษณ์บนหน้าจอหายไป ก็เริ่มสบายใจ ชอบมากๆ ครับระบบนี้ เวลาขี่ไปไหน เหยียบตะปูหรืออะไรอื่นแรงดันลมตกเราก็จะได้รู้ทันที สร้างความปลอดภัยได้ดีเลยทีเดียว เราขับออกมาทางท่ายางเรื่อยๆ มีสายฝนตกลงมาตลอดทาง ทำให้เส้นทางที่เราใช้นั้นค่อนข้างลื่นถึงลื่นมาก แม้เครื่องยนต์ 2 สูบเรียงขนาด 853 ซีซี 95 แรงม้าจะถือว่ามีกำลังค่อนข้างมา แต่ยังดีที่ตัวรถนั้นมีระบบ ASC หรือระบบควบคุมเสถียรภาพอัตโนมัติ และมีโหมดการขับขี่ซึ่งผมเลือกปลอดภัยไว้ก่อน โดยเปิดไว้ที่โหมด Rain ผมสัมผัสได้ว่าคันเร่งไฟฟ้าเดินได้ละเอียดดีมาก สมู้ทไม่กระโชกโฮกฮากเลย ทางลื่นๆ จึงไม่เป็นปัญหาอะไร บวกกับระบบเบรคที่ติดรถมาให้ด้านหน้าเป็นดิสก์เบรคคู่ Brembo พร้อม ABS ที่ทำงานได้เนียนๆ ละเอียด โช้คหน้าแบบหัวกลับระยะยุบ 204 มม. และด้านหลังที่เป็นโช้คแบบปรับไฟฟ้า ระยะยุบ 219 มม. (รถโมเดลพื้นฐานไม่มีต้องซื้่อเพิ่ม) สามารถปรับได้ขับขี่แบบคนเดียว สองคน และพร้อมสัมภาระได้ เป็นช่วงล่างที่สุดยอดมากสำหรับรถระดับนี้บอกเลยว่าคุ้มมากๆ แต่ว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายที่งานนี้เรายังไม่ได้ทดสอบแบบแอดเวนเจอร์อะไรมากนัก เพราะเส้นทางที่เราจะทดสอบแบบลุยๆ หนักๆ ต้องเปลี่ยนกะทันหันเนื่องจากฝนตกหนักและน้ำท่วม ในครั้งนี้เราจึงยังไม่ได้ใช้สมรรถนะของล้อหน้าพร้อมลุยขนาด 21 นิ้วซึ่งเป็นล้อซี่ลวดและยางแบบไม่ต้องใช้ยางใน แต่ที่แน่ๆ BMW F 850 GS นั้นพร้อมลุยแน่นอน สังเกตได้จากช่วงล่างที่ให้มาได้เลยทั้งระยะยุบโช้ค ล้อและยางที่ติดรถมาครับ
F 750 GS
ถึงเวลาต้องเปลี่ยนรถอีกครั้งเส้นทางเริ่มกลับมาเป็นถนนลาดยางได้ขับขี่BMW F 750 GS ต้องบอกก่อนเลยว่า คันนี้ได้ออกแบบมาให้กับสายถนนมากกว่า F 850 GS โดยออกแบบให้มีระดับเบาะที่เตี้ยกว่าเหมาะสำหรับชาวเอเชียอย่างพวกเราไม่ได้ว่าขาสั้นนะ แต่คิดว่าถ้าเท้าถึงพื้นจะขี่ด้วยความมั่นใจและสนุกยิ่งขึ้น เส้นทางเริ่มมีโค้งขึ้นเขาก่อนที่จะวิ่งตรงตัดเข้าถนนใหญ่ เครื่องยนต์นั้นเท่ากับ F 850 GS เพียงแต่แรงม้าที่ให้มาถูกปรับจูนให้เหลือ 77 แรงม้า เอาจริงๆ บางคนก็บอกว่าดี บางคนก็บอกว่าไม่ดี ใช้คำว่าเหมาะสมดีกว่า 77 แรงม้า สำหรับวิ่งบนถนน ลุยบาง ทางไกลบ้าง อัตราการกินน้ำมันก็เปลี่ยนไปนะครับ BMW ออกแบบไว้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว ขับขี่สนุก ปลอดภัยตลอดเส้นทาง ซึ่งคันที่ผมได้ขับขี่ เป็นตัว Exclusive ที่มีโหมดการขับขี่เพิ่มเข้ามาเหมือนตัว F 850 GS นั้นก็คือโหมด Pro และยังมีระบบ Dynamic Traction Control (แทร็คชั่นคอนโทรล) และระบบ Dynamic ESA (ปรับโช้คไฟฟ้า) และ ABS Pro
ส่วนที่ต่างกับ F 750 GS หลักๆ นอกจากเรื่องของกำลังแรงม้าที่น้อยลง ก็จะเป็นเรื่องของช่วงล่างครับ โดย เอาจริงๆ ก็พอลุยได้บ้าง เปลียนยางให้เหมาะหน่อยก็ขี่ลุยได้เลย เราเข้าเส้นหลักทำความเร็ว 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างง่ายๆ ในพริบตาเดียวเป็นอีก 1 รุ่นที่รู้สึกว่าคุ้มค่ามากๆ ถึงแม้เส้นทางวันนี้จะดูไม่ลุยมาก แต่การขับขี่บนถนนลาดยางลื่นๆ ก็ไม่มีปัญหา การยึดเกาะก็จะน้อยคล้ายๆ กับการลุยทางฝุ่น (ไม่นับเรื่องสิ่งกีดขวาง) ระบบไฮเทคต่างๆ ที่ให้มาผมลองใช้ไปแทบทุกอย่าง ทั้งระบบวัดแรงดันลมยางหรือเตือนลมยางอ่อน ระบบเบรค ABS ที่เบรคในโค้งได้อย่างมั่น โหมดการขับขี่แบบ Rain คันเร่งไฟฟ้าที่ตอบสนองได้อย่างดีละเอียดมากๆ และที่ต้องบอกเลยว่าเครื่องยนต์บล็อคใหม่ความจุขนาด 853 ซีซี เกียร์ 6 สปีด ที่ให้มานั้นขี่สนุกกว่าเดิมมากๆ แต่ยังไงก็ตามอ่านการทดลองขับขี่จบแล้วก็ยังไม่ดีเท่าคุณได้ทดลองขี่เอง สุดท้ายนี้สิ่งที่ผมได้ยินมาตลอดก็คือ “ยังไง BMW มันก็คือ BMW”