Home New Bike Multistrada V4 RS ยอดทัวริ่งสุดซิ่งเท่าที่เคยมีมา

Multistrada V4 RS ยอดทัวริ่งสุดซิ่งเท่าที่เคยมีมา

0
Multistrada V4 RS

Multistrada V4 RS ยอดทัวริ่งสุดซิ่งเท่าที่เคยมีมา

เปิดตัวโมเดลใหม่กันอย่างต่อเนื่องครับ สำหรับค่ายแดง มาครั้งนี้เป็นคิวของเจ้าทัวริ่งพิกัดเรือธงจากทาง Ducati ที่ทางค่ายบอกว่านี่คือการผสมผสานซูเปอร์ไบค์เข้ากับทัวริ่งกลายเป็น Multistrada V4 RS ยอดทัวริ่งสุดซิ่งที่สุดเท่าที่เคยมีมากันเลยทีเดียว และที่สำคัญยังแอบมีความพิเศษเพิ่มเติมคือจะมีตัวเลขนัมเบอร์รันต่อเนื่องระบุไว้บนแผงคออีกด้วยครับ

มาถึงตรงนี้คงจะสงสัยว่ามันซิ่งแบบสุด ๆ ยังไง แน่นอนว่าผมจะอธิบายให้ฟังเป็นจุด ๆ ไปครับ จุดแรกเลยแน่นอนว่ามาจากสไตล์ที่เป็นสปอร์ตสุด ๆ ทางค่ายมีการใส่ชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ไปในหลาย ๆ จุด เช่น บังโคลนหน้า การ์ดแฮนด์ แผ่นกันความร้อน และปากนก สร้างสีดำตัดกับสีขาวเพิ่มความคอนทราสต์ให้กับตัวรถ ทั้งยังลดน้ำหนักตัวรถโดยรวม

ยังมีส่วนท้ายรถที่ออกแบบให้เป็นมือจับคนซ้อนไปในตัว มีการใช้วัสดุพิเศษเทคโนโพลิเมอร์น้ำหนักเบาพิเศษเพิ่มความเพรียวให้ส่วนท้ายและดูสปอร์ตยิ่งขึ้น ซับเฟรมท้ายทำจากไทเทเนียมช่วยลดน้ำหนักรถได้มากถึง 2.5 กิโลกรัม และเพลตอลูมิเนียมสีดำรันนัมเบอร์ตามจำนวนคันที่ผลิตพร้อมธงอิตาลีซึ่งจะอยู่บริเวณที่แผงคอบนนั่นเอง

ต่อกันที่เครื่องยนต์ก็คือเครื่อง V4 1103 ซีซีที่มีชื่อว่า Desmosedici Stradale ที่เป็นเครื่องเดียวกันกับเจ้า Panigale และ Streetfighter แต่ปรับมาให้เหมาะสมกับการขับขี่แบบทัวริ่ง จึงให้กำลังแรงสูงสุด 180 แรงม้าที่ 12,250 รอบ และ 118 นิวตันเมตรที่ 9,500 รอบ มีการปรับมาใส่ปลายท่อ Akrapovic เพิ่มความแรงและความซิ่ง และยังมาพร้อมกับคลัตช์แห้ง STM-EVO SBK แบบเดียวกับรถสปอร์ตของทางค่าย ซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะและเสียงที่ถูกใจสายซิ่งหลาย ๆ คนยิ่งนัก

ยังมีลูกเล่นในส่วนของเครื่องยนต์ที่ช่วยลดความร้อนได้มากคือการปิดการทำงานของลูกสูบในแบงค์เครื่องด้านหลังเมื่อรถจอดเข้าเกียร์ว่าง และอุณหภูมิเครื่องสูงกว่า 70 องศา

ขณะที่ช่วงล่างก็โดดเด่นสไตล์สปอร์ต โดยจะได้ล้อขนาด 17 นิ้วเท่ากันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยจะเป็นล้ออัลลอยฟอร์จ Marchesini รัดมาด้วยยาง Pirelli Diablo Rosso IV Corsa ขนาด 120/70 ZR17 และ 190/55 ZR17 หน้าหลังตามลำดับ ส่วน

ระบบกันสะเทือนจะมาจากทาง Ohlins ที่มาพร้อมระบบโช้คไฟฟ้าอัจฉริยะ Ohlins Smart EC 2.0 เต็มระบบ ซึ่งจะปรับการทำงานของโช้คให้เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่โดยอัตโนมัติ

ระบบเบรกจะเป็น Brembo เต็มระบบเช่นกัน โดยด้านหน้าจะเป็นดิสก์เบรกคู่พร้อมคาลิเปอร์เบรก Brembo Stylema โมโนบล็อกสีแดงพิเศษ 4 ลูกสูบ ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวพร้อมคาลิเปอร์เบรก Brembo 2 ลูกสูบ และแน่นอนว่ามีระบบเบรก ABS แบบใช้งานในโค้งได้

ส่วนระบบอิเล็กทรอนิกส์นั้นจัดเต็มระดับเรือธง โดดเด่นด้วยระบบเรดาห์ทั้งด้านหน้าและด้านหลังช่วยให้รถสามารถใช้งานระบบอะแอ็ปทีฟครูซคอนโทรล ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา ยังมีพาวเวอร์โหมด 4 ระดับ ระบบแทร็คชันคอนโทรล ระบบควบคุมการลอยตัวของล้อ ระบบควบคุมเอ็นจิ้นเบรก ระบบควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง โหมดการขับขี่ 4 โหมด ระบบไฟส่องสว่างในโค้ง ระบบไฟเบรกเตือนเมื่อเบรกกะทันหัน ระบบช่วยรักษาเสถียรภาพบนทางลาดชัน หน้าจอสี TFT 6.5 นิ้วเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ พร้อมช่องใส่สมาร์ทโฟนที่มีช่องระบายอากาศไว้ช่วยลดความร้อนของโทรศัพท์ได้อีกด้วย ง

สุดท้ายเรื่องของการจำหน่ายสำหรับต่างประเทศก็จะเริ่มในช่วงต้นปี 2024 น่ะครับ ส่วนบ้านเราคงต้องรอนานหน่อย และเรื่องของสนนราคาก็บอกเลยว่าต้องมีล้านกลาง ๆ ขึ้นไปแน่ครับ เพราะอ็อปชันแน่นมาก ๆ ครับ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Exit mobile version