Manuel Gonzalez คว้าโพเดี้ยม พร้อมทุบสถิติใหม่ใน ThaiGP 2025

ประเดิมศึกแรกของการแข่งขันไทยแลนด์กรังปรีย์ 2025 ที่สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์ โดย Manuel Gonzalez คว้าโพเดี้ยม ในรุ่น Moto2 จาก Liqui Moly Dynavolt Intact GP ด้วยอันดับ 1 ในการแข่งขัน พร้อมเวลาต่อรอบดีที่สุด 1:35.390 นาที
ทุบสถิติครั้งใหม่ ด้วยยาง Pirelli
ทุบสถิติดีต่อเนื่อง!! นับตั้งแต่การก้าวเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนรายหลักและเป็นเพียงรายเดียวอย่างยาง Pirelli โดยการแข่งขันครั้งนี้ นักแข่งสามารถทำ All-Time lap Records หรือผลเวลารวมดีที่สุด สถิติยังคงเป็นของกอนซาเลส ซึ่งทำไว้ที่ 1:34.591 นาที รวมถึงเบสแล็ปเรคคอร์ดที่ดีที่สุดที่ 1:35.590 นาที (ทำลายสถิติเมื่อปีที่แล้วที่ไอโอกุระทำไปได้ที่ 1:35.597 นาที)
สำหรับผลเวลาดีที่สุดในรุ่น Moto3 ตกเป็นของ David MUÑOZ แม้เจ้าตัวจะชวดโพเดี้ยมก็ตาม แต่ยังสามารถคว้าสถิติใหม่ด้วยเวลาดีที่สุด 1:41.042 นาที ซึ่งเร็วกว่าสถิติในปี 2024 ของ Luca Lunetta เกือบ 0.2 วินาที (โพเดี้ยมในรุ่น Moto3 ตกเป็นของ José Antonio Rueda หนุ่มนักบิด ศิษย์อาโจ จาก KTM)
อย่างไรก็ตามในรอบควอลิฟาย นักแข่งไม่สามารถเมเนจเวลาและปรับปรุงเวลาให้ดีขึ้นแม้ว่าจะพยายามกดรอบเร็วขึ้นก็ตาม อันเนื่องสภาพอากาศที่ร้อนระอุและอุณหภูมิผิวแทร็กสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นยางหลังซอฟต์ และยางหน้า SC1 จึงเป็นตัวเลือกนักแข่งรุ่น Moto2 เลือกใช้มากที่สุด ซึ่งให้กริปมากกว่ายางมิเดียม ส่วนรุ่น Moto3 ใช้ยางหลังสเปคเดียวกัน แต่เลือกใช้ยางหน้า SC1 และ SC2 คละกันไป
สถิติครั้งใหม่!! กับผลเวลารวมดีสุดแม้ว่าอากาศจะร้อนกว่าในปี 2024
“ในช่วงเวลานี้ของปีที่บุรีรัมย์ อุณหภูมิอากาศและผิวแทร็กสูงกว่าในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีการแข่งขันรายการไทยจีพีครั้งล่าสุด โดยเฉพาะในรอบการควอลิฟายปีนี้ อุณหภูมิของผิวแทร็กสูงกว่า 55 องศาเซลเซียส เทียบกับปีที่แล้วที่อยู่เพียงเล็กน้อยกว่า 40 องศา นับเป็นความแตกต่างถึง 15 องศา ซึ่งทำให้แทร็กมีความลื่นมากขึ้น แม้ว่าระดับของการยึดเกาะยังคงดีอยู่
แม้อุณหภูมิจะสูงกว่าฤดูกาลที่แล้ว แต่ในการฝึกซ้อมช่วงเช้า ซึ่งมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับรอบควอลิฟายของปีที่แล้ว กลับมีการทำลายสถิติรอบที่เร็วที่สุดในทั้งสองรุ่น ซึ่งเป็นการปรับปรุงจากสถิติที่ทำไว้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน และในรอบควอลิฟาย นักแข่งก็สามารถทำเวลาได้ใกล้เคียงกัน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อเรื่องนี้มีทั้งโครงสร้างตัวถังรถที่ออกแบบมาเพื่อใช้ศักยภาพของยางให้ได้อย่างเต็มที่ และในรุ่น Moto2™ ยังมีการเปลี่ยนมาใช้ล้อหน้าขนาด 3.5 นิ้ว อีกด้วย ในขณะเดียวกัน อุณหภูมิในปีนี้ก็สูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว อีกทั้งนี่เป็นการแข่งขันแรกของฤดูกาล ในขณะที่ปี 2024 สนามบุรีรัมย์เป็นสนามท้าย ๆ ของปี ทำให้ทีมและนักแข่งมีประสบการณ์มากกว่า”
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก