KTM 1290 SUPER DUKE RR ขีดสุดของซูเปอร์เน็กเก็ด
ค่ายสีส้มขวัญใจวัยรุ่นออสเตรีย เปิดตัวโมเดลที่จะทำให้หน้าประวัติศาสตร์เน็กเก็ดไบค์เปลี่ยนไปอีกครั้ง กับ KTM 1290 Super Duke RR ซูเปอร์เน็กเก็ดโมเดลระดับขั้นสุด พร้อมจำนวนขายแบบลิมิเต็ดอิดิชันเพียง 500 คันเท่านั้น มีอะไรโดดเด่นยังไงบ้าง ไปตำกันทีละด้านได้เลย
ถือเป็นโมเดลแรกเลยสำหรับเคทีเอ็มกับโค้ดเนม RR ซึ่งถือว่าเป็นขั้นสุดของทางค่าย เป็นโมเดลระดับเรือธงพร้อมการผลิตแบบจำนวนจำกัด และพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Pure Performance หรือว่าว่าวกันซื่อๆ ง่ายๆ ว่า สมรรถนะแบบเน้นๆ
โมเดลพิเศษระดับเรือธงนี้จะผลิตขึ้นเพียง 500 คันเท่านั้นและสามารถสั่งพรีออเดอร์ทางออนไลน์เท่านั้น
สิ่งที่ทำให้โมเดลนี้น่าสนใจมากๆ คือตัวเลขสเปกชีตที่อยู่ในระดับน่าตื่นตาตื่นใจ ขุมพลัง 2 สูบวีขนาด 1,301 ซีซี แรง 180 ม้า หนัก 180 กก. 140 นิวตันเมตร เท่ากับว่าม้า 1 ตัวแบกน้ำหนัก 1 กก. เท่านั้น แถมทอร์คยังมหาศาลอีกด้วย วงเล็บไว้ว่าเครื่องผ่าน Euro5 แล้วด้วยนะครับ
สิ่งที่เปลี่ยนไปในโมเดลนี้เมื่อเทียบกับโมเดลสแตนดาร์ดก่อนคือ เบากว่าเดิม 9 กก. แต่ตัวรถยังคงแข็งแรง มีความคล่องตัว และให้ความนิ่งที่ความเร็วสูงๆ ได้ดีกว่า โดยล้อนั้นเบาลงกว่าเดิม ทำให้มีน้ำหนักใต้สปริงน้อยลงกว่าเดิมถึง 1.5 กก. ซึ่งส่งผลต่อดีต่อการขับขี่อย่างมาก
และสิ่งที่เด่นมากที่สุดคือระบบกันสะเทือนขั้นสุดจาก WP โดยด้านหน้าจะมาพร้อมโช้คหน้าหัวกลับ WP APEX PRO 7548, กันสะบัด WP APEX PRO 7117 และโช้คหลัง WP APEX PRO 7746 ซึ่งทั้งหมดสามารถปรับค่าต่างๆ ได้หมด และมีการทำพิเศษเพื่อโมเดลนี้โดยเฉพาะ
สิ่งสำคัญที่ทำให้น้ำหนักของโมเดลนี้เบาลงอย่างมากคือการใช้คาร์บอนไฟเบอร์จำนวนมาก โดยซับเฟรมเองก็ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ และการนี้เองทำให้ดีไซเนอร์สามารถออกแบบท้ายใหม่รับกับไฟท้าย LED แบบใหม่ได้ นอกจากนี้ตัวรถยังมีระบบอะแด็พทีฟเบรกไลท์อีกด้วย ซึ่งเจ้าระบบนี้จะทำงานด้วยการกระพริบไฟเบรกถี่ๆ เวลาเบรกกะทันหันเพื่อช่วยเตือนคนที่ขับตามมาด้านหลังได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนในจุดที่ไม่น่าเชื่ออย่างองศาการเปิดคันเร่ง ให้มาไว้ขึ้นอีก 7 องศาเมื่อเทียบกับโมเดลปกติ ช่วยให้คุณบิดคันเร่งสั่งเครื่องยนต์ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ส่งแรงได้ทันใจ ทั้งยังลดภาระที่ข้อมือได้อีกด้วย
และเพื่อให้สามารถขับขี่ในสนามได้สมกับรหัสพิเศษนี้แบบเต็มขั้น ตัวรถก็เลยมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เอื้อกับการขับขี่ในสนาม ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ในสนาม Track Mode และโหมด Perfomance ที่ปรับปรุงใหม่ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับค่าการทำงานของระบบอื่นๆ ได้เกือบจะไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็น ระบบป้องกันการสลิปที่ล้อหลัง การตอบสนองคันเร่ง ระบบช่วยออกตัว และระบบแทร็คชันคอนโทรล
ปิดท้ายอสูรร้ายพันธ์ุโหดด้วยท่อสลิปออนจากแบรนด์ Akrapovic ทำจากไทเทเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อทำให้มันดุดันและสวยงามมากยิ่งขึ้น
ต้องบอกว่าโมเดลนี้คือขีดสุดของเน็กเก็ดในค.ศ.นี้จริงๆ ครับ ไม่ว่าจะในด้านไหนๆ ก็ตาม สนนราคานั้นก็ร้อนแรงน่าดูอยู่ที่ 21,499 ปอนด์หรือราวๆ 930,000 บาท หากมาจำหน่ายในไทยแล้ว สนนราคาคงทะลุล้านบาทไปจนถึงล้านกลางๆ เป็นแน่
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก