Kawasaki ZX-6R 2025 สีใหม่ วิบวับ!!

Kawasaki ZX-6R 2025 สีใหม่ วิบวับ!!

ถึงคราวของซูเปอร์สปอร์ตสี่สูบเรียงพิกัด 600 ซีซีจากค่ายเขียวอย่าง Kawasaki ZX-6R หรือ Ninja 636 หนึ่งในไลน์อัพปี 2024 ที่มีการอัปเดตใหม่จากทางฝั่งยุโรปมาใช้รหัสปี 2025 พร้อมกับการอัปเดตใหม่ ดูแตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง

Kawasaki ZX-6R 2025
Kawasaki ZX-6R 2025 สีใหมา วิบวับ

OPTION : NEW COLORS 

Kawasaki ZX-6R 2025 สีขาว-ดำ-แดง
Kawasaki ZX-6R 2025 สีเทา-ฟ้า

มาแบบเดียวกันไม่ต่างจาก Z Series เลยก็คือออปชันเฉดสีที่มีมาให้ โดยคราวนี้ตัวรหัสปี 2025 จะมีจำหน่ายทั้งสี ขาว-ดำ-แดง และสีเทา-ฟ้า ซึ่งเป็นสีแบบเงาเพิ่มระดับความเรียบหรูขึ้นมากกว่าเดิม และยังคงความเสน่ห์กับดีไซน์และลวดลายต่าง ๆ “น้อย..แต่มาก” และความต่างระหว่างรุ่นเจ็นนี้กับเจ็นก่อน ๆ ก็คือเอกลักษณ์ที่หายไปกับ “สีเขียวประจำค่าย” ซึ่งแฟน ๆ ที่ภักดีต่อแบรนด์บางส่วนอาจไม่ชอบ หรืออาจจะชอบเพราะอยากเห็นอะไรใหม่ ๆ แปลกตาไปกว่าเดิม เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ก็อยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคลหล่ะครับ

สีใหม่ แปลกตาไปกว่าเดิม

“ส่วนตัวคิดว่า..ชอบ เพราะดูแตกต่าง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร เพราะหัวใจสำคัญหลัก ๆ ก็คือลีลาความเร่าร้อนของเครื่องยนต์สี่สูบเรียง พร้อมเสียงอันกึกก้องเป็นเอกลักษณ์ตั้งหากหล่ะ ชวนให้น่าโอบกอดนอนตะแคงสุด ๆ ”

ไฟหน้าสองดวงกลมโตในหนังตาอันขมวดเข้ม จัดทรงผมด้วยชิลด์แบบสปอร์ตและเปิดหน้าผากด้วยช่องแรมแอร์ขนาดใหญ่เพื่อดูดอากาศไปยังห้องเผาไหม้ ขณะที่ทรวดทรงแฟริ่งต่าง ๆ ออกแบบให้มีความคม โฉบเฉี่ยว เว้าช่วงตรงกลางให้ขาหนีบกับตัวถังได้สบายในแบบ “สปอร์ต” 

SPEC/DATA

Kawasaki ZX-6R 2025
Old School

ขุมพลังเครื่องยนต์สี่สูบเรียง 16 วาล์ว ขนาด 636 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีกำลังแรงม้าที่ 122 แรงม้าที่ 13,000 รอบ และมีแรงม้าสูงสุดถึง 128 แรงม้าเมื่อแรมแอร์ทำงานเต็มระบบ มาพร้อมกับแรงบิดที่ 70 นิวตันเมตรที่ 11,000 รอบ พร้อมด้วยแอสซิสต์สลิปเปอร์คลัตช์และควิกชิฟเตอร์ (Up) มาให้ใช้งานอีกด้วย 

ต่อด้วยระบบช่วงล่างด้วยโช้คอัป Up Side Down ขนาด 41 มม. Showa ฺ(SFF-BP) สามารถปรับได้เต็มระบบทั้งคอมเพราชัน รีบาวด์และพรีโหลด ส่วนโช้คหลังเป็นโช้คเดี่ยวปรับได้เต็มระบบเช่นเดียวกัน ต่อด้วยระบบเบรกกับดับเบิ้ลดิสก์คู่ด้านหน้าขนาด 310 มม. พ่วงคาลิเปอร์เบรกเรเดียลเม้าท์ขนาด 4 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มม.ใช้คาลิเปอร์ลูกสูบเดียว ในขณะที่ล้อจัดทรงมาให้ขนาด 120/70-17 และ 180/55-17 ตามลำดับ

พร้อมทั้งฟีเจอร์ใช้งานไม่ว่าจะเป็น หน้าจอสี TFT ขนาด 4.3 นิ้ว สามารถเชื่อต่อข้อมูลตัวรถผ่านสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิชัน RIDEOLOGY THE APP โหมดการขับขี่ 4 โหมด ระบบแทร็คชันคอนโทรล 3 ระดับ และระบบ ABS (เฉพาะรุ่น ABS) โดยเปิดจำหน่ายในตลาดอเมริกาสำหรับรุ่น (Non ABS) เปิดราคา 11,399 ดอลล่าร์หรือ ประมาณ 4 แสนบาท และรุ่น ABS เปิดราคา 12,399 ดอลล่าร์หรือราว ๆ 4.35 แสนบาท และอาจบวกชาร์จจากดีลเลอร์ประมาณ  550 ดอลล่าร์หรือเกือบ ๆ 2 หมื่นบาทนั่นเอง 

พิเศษกับรุ่น KRT Edition

และพิเศษในรุ่น KRT Edition พิเศษกับลวดลายของทีมแข่ง Kawasaki Racing Team ใน WorldSBK เหมาะสำหรับไบค์เกอร์โดยเฉพาะสายมอเตอร์สปอร์ตโดยเฉพาะ

สำหรับใครที่เป็นแฟน ๆ คาวาซากิ โดยเฉพาะซูเปอร์สปอร์ตไซส์กลางต้องไม่ควรพลาด เพราะไลน์อัพใหม่ จัดมาถือว่าสวยและแตกต่างไปจากเดิมจริง ๆ ลองสามารถสั่งจองได้ผ่านช่องทางออนไลน์ที่คาวาซากิ US ดูกันได้เลย หรือถ้าหากยังไม่ถูกใจลองเข้าชมตัวจริงสำหรับรุ่นในบ้านเราได้ (รุ่นปี 2024) โดยเปิดจำหน่ายแล้วพร้อมราคาพิเศษที่ 399,000 บาท พร้อมกิ๊ฟวอชเชอร์มูลค่า 12,000 บาท ประกันภัยชั้น 1 และทะเบียน พรบ.มูลค่า 21,000 บาท เลยนะ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -
Joe Superbike
Joe Superbikehttp://www.superbikemag.com
นักเขียน "หัวใจสีเขียว" ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกเป็นชีวิตจิตใจ และมาโลดแล่นในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก

บทความยอดนิยม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่