Home ราคาและสเปครถมอเตอร์ไซค์ Kawasaki Kawasaki จัดเต็ม ! ลุยเปิดโมเดลใหม่ ในงาน Motor Show 2023

Kawasaki จัดเต็ม ! ลุยเปิดโมเดลใหม่ ในงาน Motor Show 2023

0

Kawasaki จัดเต็ม เปิดตัวโมเดลใหม่ เอาใจสาวกบิ๊กไบค์ ในงาน Motor Show 2023 

ภาพถ่ายผู้บริหาร บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด

มาดูรถฝั่งค่ายยักษ์เขียวในงาน Motor Show 2023 ซึ่งจัดเต็มแบบไม่เป็นรองใคร รุกเปิดโมเดลใหม่ล่าสุด ประเดิมโดย Ninja ZX-4R รถซูเปอร์สปอร์ตทรงพลัง ในคลาส 400 ซีซี ที่มากับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง, Eliminator รถฟรีสไตล์ครูเซอร์ใหม่ขนาด 400 ซีซี

และ Versys 650 รถทัวริ่งโฉมใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นพี่อย่าง Versys 1000 พร้อมจัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมอีกมากมาย ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 นี้

Ninja ZX-4R 

Ninja ZX-4R SE 2023

Kawasaki จัดเต็ม นำทัพรถจักรยานยนต์หลากหลายรุ่น เข้าร่วมประชันโฉมภายในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ซึ่งมีดาวเด่นเป็นสุดยอดรถจักรยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ต ทรงดุดันอย่าง Ninja ZX-4R ด้วยตำแหน่งทางการตลาดที่วางไว้อย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับในโมเดลนี้ คือเวอร์ชันรถจักรยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ตขนาด 400 ซีซี ที่ให้ความเร้าใจที่ยากจะหาคู่เปรียบเทียบได้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง เป็นกุญแจสำคัญของความสนุกสนานในการขับขี่ ที่ได้ส่งผ่านประสิทธิภาพที่บดบัง รถรุ่นอื่นในคลาส 400 ซีซี ด้วยพละกำลังเครื่องยนต์ 75 แรงม้า และมีรอบเครื่องยนต์ที่สูงกว่า 15,000 รอบต่อนาที ทำลายทุกขีดจำกัด

ส่วนควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ ECU ใช้พื้นฐานเดียวกับ Z H2 รุ่นเรือธงของคาวาซากิ ทั้งเกรี้ยวกราดและดุดัน โดยมี ETV (Electronics Throttle Valves) ที่มีขนาดใหญ่ถึง ø34 mm ที่ทำให้ตอบสนองการบิดคันเร่งอย่างดีเยี่ยม และทำให้ง่ายต่อการทำงานในส่วนของระบบต่าง ๆ ภายในรถจักรยานยนต์รุ่นนี้

เช่น KTRC, การเลือกโหมดการขับขี่ และการใช้งานควิกชิพเตอร์ (ในรุ่น SE) กับเสียงอันเร้าใจของเครื่องยนต์ Ninja ZX-4R มาจากท่อไอเสียที่ได้แรงบันดาลใจจาก Ninja ZX-6R เพื่อให้ได้กำลังสูงสุดและเสียงเร้าใจ โดยที่ไม่ผิดกฎหมาย 

ช่วงหน้า

 

ด้านแรมแอร์ที่อยู่ตรงกลางเป็นฟีเจอร์ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของโมเดล Ninja ZX โดยช่องทางเดินอากาศของ Ninja ZX-4R ถูกออกแบบมาให้คล้ายกับ Ninja H2 ซึ่ง Know-how นี้จะเพิ่มอัตราการไหลของอากาศและเพิ่มความดันอากาศทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นทุกความเร็วรอบ ทั้งยังออกแบบมาให้ป้องกันน้ำเข้าสู่เครื่องยนต์ในการขับขี่ในขณะฝนตกด้วย

โช้คหน้า Showa

ระบบกันสะเทือน High-Grade Suspension SFF-BP (Separate Function Fork – Big Piston) Horizontal Back-link Rear Suspension ระบบรองรับน้ำหนักด้านหน้าถูกติดตั้งมาเป็นระบบ SFF-BP ของ SHOWA ทำให้ Ninja ZX-4R สามารถขับขี่ได้ทั้งในสนามแข่งและรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

โช้คหลัง แบบ Horizontal Back-Link ที่ออกแบบมาจาก Ninja ZX-10R

ในส่วนของโช้คอัพหลัง เป็นแบบ Horizontal Back-Link ที่ออกแบบมาจาก Ninja ZX-10R (ในรุ่น SE สามารถปรับ Preload ที่โช้คอัพหน้าได้)

เรือนไมล์ TFT Colour

เรือนไมล์ TFT Colour Instrumentation with Circuit Mode หน้าจอ TFT ขนาด 4.3 นิ้ว พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ในการควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ผ่านระบบ Smartphone Connectivity โดยหน้าจอ TFT มี Built in Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของผู้ใช้รถโดยเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่น “RIDEOLOGY”

ซึ่งมีฟังก์ชั่นแสดงข้อมูลรถ และตั้งค่าการขับขี่ต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์ได้เลย ทำให้ Ninja ZX-4R สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น รองรับสมรรถนะสไตล์สปอร์ตที่มีพิษสงรอบตัวยิ่งกว่ารุ่นใด ๆ ในคลาส 400 ซีซี สำหรับรุ่น Ninja ZX-4R เปิดราคาที่320,000 บาท และรุ่น Ninja ZX-4R SE เปิดราคาที่ 360,000 บาท

Eliminator 

รถครูเซอร์รุ่น Eliminator โมเดลใหม่ในพิกัด 400 ซีซี

มาต่อกันที่รุ่น Eliminator รถฟรีสไตล์ครูเซอร์ใหม่ขนาด 400 ซีซี ขับเคลื่อนด้วยกำลังเครื่องยนต์พื้นฐานเดียวกันกับ Ninja 400 และเฟรมโครงตาข่ายที่มีน้ำหนักเบา

ตำแหน่งการขับขี่เป็นธรรมชาติซึ่งรองรับผู้ขับขี่ได้หลากหลาย ช่วยเสริมความมั่นใจตั้งแต่วินาทีที่นั่งขับขี่ มีน้ำหนักเบา จุดศูนย์ถ่วงรวมที่ดี จะช่วยให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่วด้วยความเร็วต่ำได้

มาพร้อมกับหน้าจอ LCD หน้าจอดิจิทัล ที่ออกแบบใหม่ที่ให้ความโมเดิร์นและคอมแพค ซึ่งจอ LCD นี้เป็นองค์ประกอบที่ทำให้ Eliminator คันนี้สมบูรณ์ ด้วยลักษณะและคาแรคเตอร์ที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้ Eliminator เป็นคู่หูในการขับขี่ในทุก ๆ วัน สำหรับราคาเปิดตัวรโมเดลนี้ อยู่ที่ 224,900 บาท

Versys 650 2023

Versys 650 รถทัวริ่งโฉมใหม่ เป็นหนึ่งในรุ่นที่ผู้ขับขี่เข้าใจมันได้เป็นอย่างดี คู่หูการเดินทางท่องเที่ยวและผจญภัยขนาดกลางกับสไตล์ใหม่และเพิ่มความสะดวกสบายที่มากขึ้น โดดเด่นด้วยระบบ KTRC เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ไม่ว่าจะออกสำรวจนอกเมืองหรือฝ่าฟันการจราจรในเมืองก็ตาม 

รวมไปถึงชิลล์หน้าปรับระดับได้ถึง 4 ระดับ โครงสร้างตัวถังที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ช่วยเพิ่มการป้องกันลมได้อย่างดีเยี่ยม เรือนไมล์ TFT แบบ full-colour ขนาด 4.3 นิ้ว ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น “RIDEOLOGY” ช่วยสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ Versys 650 ได้ถูกดีไซน์ใหม่โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Versys 1000 ปรับรูปลักษณ์ให้เข้ากับตระกูลที่แข็งแกร่งอย่าง Versys โดดเด่นด้วยไฟ LED ใหม่ที่ทันสมัย แฟริ่งด้านหน้าทั้งหมดถูกออกแบบใหม่ให้ความปราดเปรียวและน่าดึงดูด

อีกทั้งยังช่วยให้ระบายอากาศรอบตัวผู้ขับขี่ได้โดยตรงเพื่อเพิ่มความสบายให้กับผู้ขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยว หรือการขับขี่เพื่อความสนุกสนาน สำหรับราคาสำหรับโมเดลรุ่น Versys 650 เปิดตัวที่ 329,500 บาท ซึ่งราคาเท่าเดิมเช่นกันเดียวกันตัวเวอร์ชันเก่านั่นเอง 

พร้อมกันนี้ คาวาซากิยังยกทัพรถอีกหลากหลายรุ่นมาให้ชมไม่ว่าจะเป็นสายเอ็นโูโร่ KLX230, KLX230S, KLX230SM, KLX230SE, KLX140F, KLX110, KX252 รถตระกูลนินจา อาทิ Ninja ZX-10RR, Ninja ZX-6R, Ninja 650, Ninja 400 และรุ่นอื่น ๆ อย่าง Z1000, Z900, Z650, Versys 1000, KLR 650, Vulcan S, Z650RS, Z900RS

รวมไปถึงอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ไรดิ้งเกียร์ หมวกกันน็อกและผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาเครื่องยนต์ มาร่วมจัดแสดง โดยผู้จองรถจักรยานยนต์คาวาซากิภายในงานจะได้รับข้อเสนอและสิทธิประโยชน์มากมาย

สนใจเข้าชมรถจักรยานยนต์คาวาซากิได้ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 ณ บูธรถจักรยานยนต์ Kawasaki บูธหมายเลข C02  อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

 

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Exit mobile version