Honda ADV350 VS Zontes 368G เทียบชัด ๆ คันไหนดี

Honda ADV350 VS Zontes 368G ศึกครั้งใหญ่ในตลาดของสกูตเตอร์ แอดเวนเจอร์ในคลาสไม่เกิน 400 ซีซี เพราะเปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการใน Motor Expo ครั้งที่ 41 ที่ผ่านมา กับเจ้าของฉายา ‘รถขนขิง’ อย่าง Zontes 368G รถสไตล์สกูตเตอร์แอดเวนเจอร์ที่มอบออฟชั่นมาให้แบบจัดเต็ม โดยเปิดราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 178,800 บาท หากนำมาเทียบกับรุ่นพี่ที่ขายอยู่ก่อนหน้าแล้วอย่าง Honda ADV 350 จะเป็นยังไง ?

ขอเน้นย้ำ ในบทความนี้เป็นเพียงแค่การแนะนำสเปค และฟีเจอร์ที่น่าสนใจของรถทั้งสองโมเดลที่วางจำหน่ายในประเทศไทยเพียงเท่านั้น มิได้เป็นการชี้นำ หรือชักจูงให้ผู้อ่านชวนไปซื้อแต่อย่างใด ไม่มีใครจ่ายเงินเพื่อเขียนคอนเทนต์นี้ทั้งสิ้น แต่ถ้าอยากจ่าย… (ก็ได้นะ)

Honda ADV350

เริ่มกันที่เจ้าบ้านที่วางจำหน่ายอยู่ก่อนแล้ว ‘ตั้งแต่ปี 2023’ อย่าง Honda ADV350 รถแนวสกูตเตอร์ แอดเวนเจอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ด้วยช่วงล่างที่มีการจัดให้มาแบบพร้อมลุยตั้งแต่โรงงาน นำมาวิ่งที่ถนนในกรุงเทพมหานครฝาท่อจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะต้องบอกเลยว่ารถคันนี้เป็นรถที่ขับขี่ในเมืองก็ได้ หรือจะนำไปทัวร์ริ่งก็ดี 

โดยราคาวางจำหน่ายของ Honda ADV350 ในประเทศไทยมีราคาวางจำหน่ายแนะนำอยู่ที่ 181,900 บาท สำหรับรุ่น Standard และ 188,900 บาท สำหรับรุ่น RoadSync

Zontes 368G

ถัดมากับทางด้านของผู้มาเยือนอย่างน้องใหม่ ที่เริ่มมาทำตลาดในประเทศอย่าง ‘Zontes’ ที่ก่อนหน้านี้ได้ทำการส่งสัญญาณด้วยการนำโมเดล 350E และ 350D มาวางจำหน่ายในประเทศไทย ก่อนที่ทั้งสองรุ่นย่อยจะแสดงพลังอำนาจ ด้วยยอดจอง และยอดขายที่ถล่มทลายในชั่วพริบตา และในคราวนี้ก็ได้กลับมาอีกครั้งกับโมเดล Zontes 368G รถตระกูลสกูตเตอร์ แอดเวนเจอร์ ที่มาพร้อมฟังก์ชันการขับขี่แบบจัดเต็ม ให้มาแน่นทุกจุด จนผู้บริโภคแทบจะอุทานออกมาว่า ‘ให้มาขนาดนี้เลยหรอครับเนี่ย’ 

โดยราคาวางจำหน่ายของ Zontes 368G อยู่ที่ 182,800 บาท

Honda ADV350 VS Zontes 368G

ตั้งแต่หัวข้อนี้เป็นต้นไปจะเทียบกันให้เห็นแบบหมัดต่อหมัดของสองโมเดลที่เป็นรถประเภทเดียวกัน แนวสกูตเตอร์ แอดเวนเจอร์ ซึ่งการเทียบในครั้งนี้ข้อมูลต่าง ๆ จะมาจากรายละเอียดบนใบ Spec Sheet จริง ๆ จะไม่มีการลดทอน หรือปัดขึ้นแต่อย่างใด โดยเทียบให้เห็นด้วยหลักการที่ว่า ‘จ่ายเงินไปตั้งหลายบาท สามารถซื้ออะไรได้บ้าง’

โดยเริ่มกันที่เรื่องของเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อน ที่ดูเหมือนว่าทางฝั่งของ Zontes 368G จะโดดเด่นกว่ารถของบ้านปีกนกอยู่พอสมควร ด้วยซีซีเครื่องยนต์ที่ให้มามากกว่า แรงม้าที่มีมากกว่า แรงบิดที่มากกว่า แม้ระบบเกียร์ที่ใช้จะเป็นเกียร์ CVT แบบเดียวกันก็ตาม

แต่ถ้ามองถึงเรื่องของ ‘ความทนทาน’ ก็คงต้องให้ฮอนด้ามาก่อนเป็นอันดับ 1 เนื่องจากภาษีตลาดที่ทางฮอนด้าทำมาดี ประกอบกับการที่ทางค่ายการันตีคุณภาพเครื่องยนต์ด้วยตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าเครื่องยนต์ของค่าย Zontes จะทนแบบพี่ปีกนกเขาไหม ?

ในด้านของมิติรถ และระบบช่วงล่างขอทำการขมวดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน โดยขอเริ่มที่ช่วงล่างก่อน เมื่อดูจากตารางข้อมูลก็อาจจะมีความคล้าย ๆ กัน มีความพอฟัดพอเหวี่ยงของทั้งสองแบรนด์ ที่ด้านหน้าเป็นโช้คอัพแบบหัวกลับ ของ ADV มาจากค่าย Showa แบรนด์โช้คอัพจากญี่ปุ่น การันตีชื่อเสียงอย่างยาวนาน (แต่ตัวที่ให้มาไม่ได้เป็นสเปคเทพขนาดนั้นหรอก) โดยมีขนาดแกน 37 มิลลิเมตรที่ไม่สามารถปรับค่าอะไรได้เลย และทางด้านของค่าย Zontes เป็นโช้คอัพที่ผลิตเองจากโรงงาน ที่ให้ขนาดแกนใหญ่กว่าประมาณ 5 มิลลิเมตร โดยความพิเศษคือ สามารถปรับค่าคอมเพลสชันได้

ในส่วนของระบบกันสะเทือนด้านหลังก็เป็นโช้คอัพคู่แบบเดียวกัน ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม โดยทางฝั่ง ADV เป็นโช้คอัพจาก Showa ที่ยังคงคอนเซปต์ไม่สามารถปรับค่าอะไรได้เช่นเดิม แต่ในส่วนของ Zontes เป็นโช้คอัพที่ผลิตจากโรงงานเช่นเดียวกัน สามารถปรับพรีโหลด และรีบาวด์ได้ ถ้ามองแค่นี้ค่ายบ้านจีน ‘แดกขาด’ 

แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป จริงที่ดูผิวเผินเหมือนว่าค่ายจีนให้โช้คอัพที่ปรับค่าได้ทั้งด้านหน้า และด้านหลังเหมาะสมกับเป็นรถสกูตเตอร์ แอดเวนเจอร์ ขนานแท้ ไม่ใช่แค่เอาทรง แต่ก็ต้องขอบอกว่า ‘ไม่มีประโยชน์’ ถ้าผู้ใช้งานเอาไปแล้วไม่ปรับค่าอะไรเลย ไม่มีร้านที่มีความรู้ในการปรับตั้งค่า หรือผู้ขับขี่ไม่มีความเข้าใจในการปรับค่าเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานมันก็จะกลายเป็นแค่โช้คอัพกาก ๆ ธรรมดาต้นนึงที่ย้วยไปตามสภาพถนน และตามกาลเวลา

ระบบเบรกของทั้งคู่เหมือนกันเป็นระบบดิสก์เบรกเดี่ยวทั้งด้านหน้า และด้านหลัง โดยดิสก์เบรกหน้าของ ADV เป็นคาลิเปอร์เบรกจากค่าย Nissin แบบเรเดียลเมาท์ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และในส่วนของ 368G เป็นคาลิเปอร์เบรกจากค่าย J.Juan เบรกสัญชาติประเทศสเปนที่ควบคุมการผลิตด้วย ‘Brembo’ แบบเรเดียลเมาท์เช่นเดียวกัน ที่มาพร้อมขนาดจานเบรก 256 มม. และ 300 มม. ของทั้ง ADV และ 368G ตามลำดับ ถ้าวัดกันที่เบรกเดิมโรงงานก็ยังต้องให้ค่ายบ้านจีนชนะ แต่ถ้าหากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกก็แนะนำใส่คาลิเปอร์ตัวเทพไปเลยเพื่อคุณภาพการเบรกที่ยอดเยี่ยม

มิติตัวรถทางฝั่งบ้านปีกนกเหมือนว่าจะมีขนาดที่ ‘เตี้ย สั้น อ้วน’ จับตรงไหนก็ดูเต็มไม้เต็มมือ แต่ทางฝั่งของค่ายบ้านจีนจะดูมีลักษณะ ‘สูง ยาว ผอม(กว่านิดนึง)’ แต่ในเรื่องรูปพรรณอาจจะไม่กล่าวถึงตรงนี้มาก เพราะแล้วแต่คนชอบ หลากคน หลากสไตล์ เพราะแต่ละคนก็มีแนวทางการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป

*จอทางฝั่งของ Honda ยังเป็นจอในโมเดลเก่าที่วางขายในประเทศไทย

ต่อมาในด้านของรายละเอียดอื่น ๆ ที่มาพร้อมกับตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Traction Control ที่มีทั้งสองรุ่นย่อย ระบบเบรกแบบ ABS ซึ่งก็เป็นฟังก์ชันที่มีในรถทั้งสองโมเดล แต่ความพิเศษของ 368G คือสามารถเลือกเปิด-ปิด ABS ที่ล้อหลังได้ แต่ของทางฮอนด้าไม่สามารถปิดได้

หน้าจอเรือนไมล์ทางฝั่งฮอนด้าเป็นแบบ Full LCD แต่ทางฝั่ง 368G เป็นหน้าจอสีแบบ TFT ขนาด 8 นิ้วที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่นของทาง Zontes แต่ต้องเรียนให้ทราบแบบนี้ว่าในรุ่น ‘ปัจจุบัน’ ที่วางขายของเจ้า ADV350 จะยังคงเป็นจอแบบ Full LCD ธรรมดา แต่ในโมเดลหน้าที่จะนำมาวางขายในประเทศไทยจะเปลี่ยนจอกลางใหม่ เป็นจอสี TFT ขนาด 5 นิ้วสามารถรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้เช่นเดียวกัน (ถือว่าช่วยแล้วนะฮอนด้า แฮะ ๆ)

ช่องจ่ายไฟแบบ USB Type-C มีมาให้ทั้งสองโมเดล แต่ทางฝั่งฮอนด้าจะมีเพียงช่องเดียวซึ่งอยู่ที่บริเวณช่องเก็บของด้านซ้ายของตัวรถ แต่ทางด้านของโมเดล 368G จะเป็นช่องชาร์จแบบพอร์ตคู่ Type-A + Type-C (มาเหนือเลย) โดยจะมีติดตั้งทั้งหมด 3 ตำแหน่งได้แก่ บริเวณใต้จอแสดงผล, บริเวณช่องเก็บของด้านซ้าย และ ช่องเก็บของใต้เบาะ 

มันก็คงเป็นเรื่องที่น่าพอใจ หรือน่ายินดี เพราะจริงแหละที่มีเยอะ เหลือดีกว่าขาด แต่ก็เกิดข้อสงสัยไปพร้อม ๆ กันว่าทำไมในรถจักรยานยนต์เราถึงต้องมีจุดชาร์จไฟที่เยอะขนาดนั้น คงไม่น่ามีใครใช้จุดชาร์จไฟพร้อม ๆ กันทีเดียวถึง 3 จุด

ชิลด์กันลมด้านหน้าเป็นแบบปรับมือทั้งคู่โดยฝั่งบ้านปีกนกสามารถปรับได้ 4 ระดับ แต่ทางฝั่งของค่ายบ้าน Zontes สามารถปรับได้มากถึง 5 ระดับ

โดยความพิเศษของทาง 368G อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่ดูแบบผิวเผินอาจจะดูปกติ หรือแทบไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำ เพราะมันคือ ‘พักเท้ากลาง’ ที่คุณสมบัติของมันไม่ได้มีไว้ให้ซ้อมสามแต่อย่างใด แต่มันมีไว้เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถยืนขับได้ เมื่อขับขี่ทางที่มีลักษณะขับขี่ยาก 

และนี่คือทั้งหมดของรายละเอียดสเปคของรถจักรยานยนต์ทั้งสองโมเดลที่เปรียบเป็นคู่ปรับ เพราะอยู่ใน Segment เดียวกัน ซึ่งต้องขอย้ำอีกครั้งว่าบทความนี้ไม่ได้ชี้นำ หรือแนะแนวทางในการเลือกรถคันไหนเป็นพิเศษ แต่เพียงแค่ต้องการนำเสนอข้อมูล ‘ประกอบการตัดสินใจ’ ให้กับผู้ที่เลือกซื้อเพียงเท่านั้น

สิ่งที่โดดเด่นของค่าย Honda

หลังจากที่ได้เล่าถึงสเปคต่าง ๆ ของตัวรถทั้งสองโมเดลไปแล้ว ส่วนสุดท้ายก็คงจะต้องเป็นสิ่งที่โดดเด่นของแต่ละค่าย โดยจะขอเริ่มจากค่ายปีกนก ‘Honda’ ก่อน เนื่องจากเป็นค่ายที่วางขายในส่วนของ ADV350 ก่อน จริงที่ฮอนด้าวางจำหน่ายโมเดลนี้ในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2023 ลากมาจนถึงตอนนี้ก็ร่วม ๆ จะ 2 ปีเข้าไปแล้ว แม้จะได้ฉายา ‘จอมกั๊ก’ แต่ก็ต้องยอมรับถึงในสิ่งที่โดดเด่นของฮอนด้าคือ ‘คุณภาพ’ คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ในปี 2567 ที่ผ่านมาทางฮอนด้ามียอดขายรถจักรยานยนต์รวม 1.38 ล้านคัน 

เพราะการรับประกันคุณภาพของชิ้นส่วน เครื่องยนต์ หรือคุณภาพการใช้งานต่าง ๆ ฮอนเขาทำถึงแบบตัวแม่จริง ๆ  เพราะรถค่ายนี้เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคซื้อไปแล้วไม่ต้องลุ้น ดูแล เข้าเช็คระยะตามรอบ รถจักรยานยนต์ค่ายนี้ก็อยู่กับเจ้าของได้มากกว่า 10 ปี อะไหล่หาง่าย เบิกเมื่อไหร่ของมีพร้อม ไม่ต้องมานั่งกังวลว่า ‘อะไหล่ชิ้นนี้จะข้ามน้ำข้ามทะเลมาเดือนไหน’ และที่สำคัญตลาดมือสอง Honda แข็งโป๊ก ปล่อยต่อยังไงก็มีคนมารอรับช่วงต่ออย่างแน่นอน

สิ่งที่โดดเด่นของค่าย Zontes

มาถึงทางด้านของค่ายบ้านจีนอย่าง Zontes กันบ้าง หนึ่งเรื่องที่ต้องชื่นชมคือการให้สเปค หรือฟังก์ชันการใช้งานมาแบบคุ้มค่า คุ้มราคาในทุกบาทที่ต้องจ่ายไป ไม่ว่าจะเป็นแคชบาร์ที่ติดตั้งมาให้พร้อมจากโรงงาน การให้จอสีแบบ TFT ขนาด 8 นิ้วรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และสามารถตั้งค่าตัวรถต่าง ๆ ได้เพียงแค่ปลายนิ้ว เอาไปไม่แทบไม่ต้องแต่ง แต่ถ้าอยากเพิ่มประสิทธิภาพก็อัพเกรด พร้อมลุยทุกเส้นทางแน่นอน

แต่เรื่องที่ต้องคำนึงของทาง Zontes ก็น่าจะหนีไม่พ้นในเรื่องของคุณภาพ เนื่องจากเป็นค่ายน้องใหม่ที่พึ่งเริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยได้ไม่นาน การเตรียมในส่วนของอะไหล่ก็ยังเป็นข้อสงสัยว่าจะเพียงต่อความต้องการหรือไม่ มันจึงกระเทือนไปยังตลาดมือสองที่รถคันนี้น่าจะยังไม่เป็นที่ต้องการเท่ากับค่ายปีกนก

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของ Honda ADV350 ได้ที่นี่ (คลิ๊ก) 

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของ Zontes 368G ได้ที่นี่ (คลิ๊ก)

โดยทั้งสองโมเดลที่ได้นำมาเปรียบเทียบกันในบทความนี้มีวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วอย่างเป็นทางการโดย Honda ADV350 มีราคาวางจำหน่ายทั้งหมดสองรุ่นย่อยได้แก่ รุ่นธรรมดา มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 181,900 บาท และรุ่น RoadSync มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 188,900 บาท และโมเดล Zontes 368G มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 182,800 บาท ชอบแบบไหนไปแบบนั้น เพราะรถที่ดีคือรถที่ผู้ขับขี่ขับแล้ว ‘มีความสุข’

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -