เพียงแค่ 4 ปีหลังจากที่ Harley-Davidson เผยโฉมรถคอนเซ็ปต์ Livewire ให้โลกได้รับรู้ พวกเขาก็ใช้โอกาสนี้ประกาศตัวเองว่าจะเป็นค่ายแรกที่ทำรถตามแนวคิดนี้มาเป็นรถโปรดักชั่นขี่ถนนจริงๆ ให้ได้ ในขณะเดียวกันทางค่ายเองก็จบงานการผลิตโมเดล Livewire ใหม่และพร้อมวางจำหน่ายในปีถัดไปแล้วก็ยังมีแผนขยายตลาดเพิ่มในกลุ่มของรถที่มีกำลังต่ำกว่าลงมาเพื่อทำหน้าที่เป็นบันไดต่อไปสู่รุ่นที่ใหญ่กว่าของทางแบรนด์
“เรากำลังเติบโตในแง่ของรถไฟฟ้า ทั้งในด้านของขนาด กำลังและราคา” Michelle Kumbier หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ Harley-Davidson กล่าว “พวกมันจะต้องขี่ง่าย เปิดคันเร่งแล้วไปได้อย่างทันที และไม่ทำให้ลูกค้าหน้าใหม่กลัว” “เราจัด Livewire ทัวร์ขึ้นมา เราพาลูกค้าหลายพันคนลองขี่มันและให้เขาเสนอความคิดเห็นและมันก็ได้ผลดีมากๆ” “ผู้คนจะเดาไม่ได้เลยว่ามันจะสนุกมากแค่ไหน เราวางแผนที่จะมีรถทดสอบให้ตัวแทนจำหน่ายด้วย เพื่อที่ลูกค้าจะได้เข้ามาลองขี่มันเพื่อที่จะได้ตกหลุมรักมัน”
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับก้าวย่างในด้านรถไฟฟ้าของ Harley ก็จะเป็นโมเดล Livewire นี่ล่ะครับ ทางค่ายเน้นย้ำกว่าจะมีการโฟกัสไปที่พละกำลังและสมรรถนะที่ดี Livewire จะเป็นสินค้าพรีเมี่ยมและแน่นอนว่าราคาก็พรีเมี่ยมด้วยเช่นกันแน่นอนว่า Harley จะไม่ระบุตัวเลขแรงม้าหรือว่าตัวเลขอะไรลงไปให้เรารู้ชัดเจนแน่ แต่เขาจะบอกว่าลูกค้าของเราไม่ได้สนใจมันแน่นอนหากว่ารถเราวางขายกับตัวแทนจำหน่ายในปี 2019 แล้ว
นอกจากโมเดล Livewire แล้วจะยังมีรถขนาดกลางอีก 2 โมเดลที่จะวางจำหน่ายในช่วงปี 2021 – 2022 มันจะเล็กกว่า เบากว่าและมีกำลังน้อยกว่า แต่คุณจะยังจำเป็นต้องใช้ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์เพื่อขี่มัน แน่นอนว่าเรื่องราคานั้นยังไม่ชัดเจน แต่ Kumbier บอกว่าราคาจะเอื้อมถึงได้ง่ายกว่า Livewire
Harley จะผลิตรถสำหรับใช้งานเมืองที่น้ำหนักเบาและเล็กกว่าซึ่งจะออกแบบมาให้เป็นเหมือนโมเดลแนะนำให้คนที่ไม่ใช่ไบค์เกอร์ได้รู้จักแบรนด์ Harley โดยมุ่งเน้นไปที่รถใช้งานในเมืองโดยจะมีพละกำลังเหมือนกับ 2 โมเดลข้างต้น
“เราตื่นเต้นกับรถไฟฟ้ามาก” Kumbier เสริม “นี่ยังเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น”
อ่านข่าวสารเพิ่มเติม คลิกทีนี้
ติดตาม Facebook SuperBike คลิกทีนี้
 |
 |
