GSX-R1000 2025 สีใหม่ เปิดขายในอเมริกา

GSX-R1000 2025 สีใหม่ เปิดขายในอเมริกา

สีเทา Metallic Matte Sword Silver

เมื่อกี้นี้หลายคนอาจได้ทราบข่าวสำคัญ สำหรับค่ายซูซูกิบริษัทแม่จากญี่ปุ่นได้ประกาศหยุดทำการผลิตเจ้า GSX-R1000 ซูเปอร์ไบค์ระดับตัวพันรุ่นเรือธงของทางค่ายเป็นที่เรียบร้อย อ่านข่าวคลิ๊กที่นี่ ก่อนเดินหน้าสายการผลิตโมเดลรุ่นใหม่ในอนาคต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางค่ายซูซูกิจากทางฝั่งอเมริกาเอง ยังมีโฉมโมเดลมาจำหน่ายในรุ่นเวอร์ชัน 2025 ซึ่งอาจเป็น “ล็อตสุดท้าย” ทิ้งทวนให้เหลือเพียงความทรงจำดี ๆ ให้กับเหล่าสาวกได้จับจองนั่นเอง 

เบนซ์ Racing ทดสอบเจ้า GSX-R1000R ที่แก่งกระจาน

ซึ่งเจ้ารุ่นนี้อาจขนานนามได้ว่าเป็นโมเดลแห่งการท่องกาลเวลาไปซะแล้ว นับตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปัจจุบันก็ล่วงเลยมาถึง 8 ปีแล้วหน้าตาไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย แต่อย่างไรก็ยังเป็นรุ่นนิยมครองใจเหล่าไบค์เกอร์มาแล้วนักต่อนัก (SuperBike ก็เช่นกัน) และคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก กับรถสปอร์ตตัว 1000 มาพร้อมเสน่ห์กับความดิบเถื่อนที่จับหาได้ยากในยุคนี้ 

ด้วยเอกลักษณ์ความบ้าระห่ำอีกเช่นเคย ทางซูซูกิจากทางฝั่งอเมริกา ได้ทำการปล่อยโฉมเจ้า Suzuki GSX-R1000 2025 และ GSX-R1000R ในเวอร์ชันใหม่ที่ไม่ใหม่ แต่อาจจะถูกใจสาวกค่ายซูด้วยชุดสีที่เปลี่ยนไป ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น 

สีแดง-ดำ Candy Daring Red Glass Black

ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 999.8 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีขนาดลูกสูบและช่วงชัก 77 x 55.1 มม.ใช้ระบบวาล์วแปรผัน (Variable Valve Timing) พร้อมตัววาล์วทำจากไทเทเนียม โดยมีขนาดของวาล์วไอดี 31.5 มม.และวาล์ไวไอเสีย 24 มม. ผ่านมาตรฐาน Euro4

นอกจากนี้ยังใช้ระบบคันเร่งไฟฟ้า กับระบบเกียร์ 6 สปีดจับคู่กับควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง มีระบบ Clutch Assist System ช่วยผ่อนแรงในการบีบกำคลัทช์และเข้าเกียร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยสามารถทำรอบเรดไลน์ได้สูงถึง 14,500 รอบ/นาที กับแรงม้าที่ให้มาถึง 202 ตัว พร้อมกับความจุถังน้ำมันที่ 16 ลิตร 

พร้อมระบบช่วงล่างขั้นเทพด้วยระบบ Suspension เซ็ตค่าจากสนามแข่ง โดยด้านหน้าเป็น Upside down จาก SHOWA BFF (เสริมซับแทงค์ในรุ่น R1000R)  ปรับแต่งได้เต็มระบบ ขณะที่ด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยวจาก SHOWA BFRC-Lite ปรับแต่งได้เต็มระบบเช่นกัน พร้อมด้วยระบบเบรกกับดิสก์เบรกด้านหน้าขนาด 350 มม. พ่วงคาลิเปอร์ Brembo โมโนบล็อก 4 ลูกสูบ และดิสก์เบรกด้านหลังขนาด 240 มม. ใช้คาลิเปอร์เบรก Nissin ลูกสูบเดียว ติดมาพร้อมกับระบบเบรก ABS Dual Channel และระบบแทร็คชันคอนโทรลที่สามารถปรับได้ถึง 10 ระดับ ส่วนล้อและยางหน้า-หลังมีขนาด 120/70-17 และ 190/55-17

 

นอกจากมีระบบต่าง ๆ ที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ยังมีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกในการขับขี่มากมาย อาทิ ระบบ Easy Start ระบบป้องกันการโจรกรรม โหมดการขับขี่ 3 โหมด ระบบนำทาง เซ็นเซอร์ IMU แกนช่วยตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวรถ ระบบ Low RPM Assist ที่ช่วยคุมรอบเดินเบาขณะออกตัวป้องกันรถดับ ระบบ Easy Start ที่ช่วยให้สตาร์ทรถได้ง่ายได้เพียงกดปุ่มเดียว และมีระบบช่วยออกตัว ถือว่าครบครันและเหมาะสำหรับการขับขี่ใช้งานทั่วไปหรือแม้กระทั่งในสนามแข่งก็ถือว่าตอบโจทย์เลยทีเดียว 

และนี่ก็เป็นข้อมูลส่วนคร่าว ๆ สำหรับสเปกตัวรถ อาจไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก นอกจากชุดสีที่เปลี่ยนไป สำหรับรุ่น GSX-R1000R และ GSX-R1000 มีจำหน่ายด้วยกันรุ่นละ 2 สีได้แก่สีแดง-ดำ Candy Daring Red Glass Black (ล้อเฉดสีแดงและกระบอกโช้คสีทองพร้อมซับแทงค์ในรุ่น R) และสีเทา Metallic Matte Sword Silver (ล้อเฉดสีดำและกระบอกโช้คสีทองพร้อมซับแทงค์ในรุ่น R) โดยรุ่น GSX-R1000R มีราคาอยู่ที่ $18,649 ดอลล่าร์สหรัฐหรือราว ๆ 6.8 แสนบาท ส่วนรุ่น GSX-R1000 มีราคาอยู่ที่ 16,499 ดอลล่าร์สหรัฐหรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 6 แสนนิด ๆ

หากใครที่ชอบความเดือดแบบบ้าระห่ำ สามารถเข้าไปจับจองกันได้ แต่อาจเสียค่าชิปปิ้งซักเล็กน้อย เพราะดูยังไงก็คาดว่าไม่น่าจะเข้าไทย เพราะรอตั้งแต่โฉม 2024 แล้วจนป่านนี้ก็ยังไม่เข้ามาเลยครับ อินดี้สมชื่อจริง ๆ หรือเราอาจจะได้เห็นโฉมรุ่นอื่น ๆ มาแทนก็เป็นไปได้ 

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก=

- Advertisement -
Joe Superbike
Joe Superbikehttp://www.superbikemag.com
นักเขียน "หัวใจสีเขียว" ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกเป็นชีวิตจิตใจ และมาโลดแล่นในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก

บทความยอดนิยม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่