spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

Flat Track ประสบการณ์การขี่แนวใหม่สุดมันที่ Yamaha จัดให้

Flat Track ประสบการณ์การขี่แนวใหม่สุดมันที่ Yamaha จัดให้

Flat Track

ล่าสุดสื่อมวลชนชาวไทยก็ได้เข้าร่วมหลักสูตรพิเศษ การขับขี่แบบ Flat Track  ประสบการณ์การขี่แนวใหม่สุดมันที่ Yamaha จัดให้ โดยเป็นหลักสูตรที่ทางเราเองก็ยังไม่เคยได้มีโอกาสสัมผัสการขับขี่แบบนี้มาก่อน การขับขี่สไตล์นี้เราอาจจะได้เห็นกันบ่อย ๆ จากนักแข่ง MotoGP หรือ นักแข่งทางเรียบหลาย ๆ รายการที่จะต้องมีโอกาสได้ฝึกซ้อมการขับขี่ในสไตล์นี้

Flat Track

สำหรับในครั้งนี้มีโค้ชระดับมืออาชีพจาก Yamaha มาแนะนำการขับขี่ นำโดยโค้ชตั้น เดชา ไกรศาสตร์ และโค้ช เบ็น ประสิทธิ์ ฮัลเกรน ที่จะมาแนะนำการขับขี่ในครั้งนี้ให้ถูกต้อง เข้าใจมากขึ้น ซึ่งสนามสำหรับเรียนการขับขี่วันนี้คือที่ค่ายนวภพ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ที่ถูกออกแบบพิเศษสำหรับการขับขี่สไตล์แฟล็ตแทร็กโดยเฉพาะ พื้นผิวเป็นดินอัดแน่น ออกแบบโค้งต่อเนือง มีเนินซึมบาง ๆ บอกเลยว่าขี่มันแน่นอน…

Flat Track

ด้วยสถานการณ์โควิดแบบนี้ เราเรียนรู้การอยู่ร่วมกับโรคระบาดอย่างถูกต้อง โดยการแบ่งกลุ่มขับขี่ วอร์มร่างกาย ลดความแออัดในรอบการขับขี่ พร้อมกับรับคำแนะนำจากโค้ชเบื้องต้นกันก่อน ในรอบแรกโค้ชต้องการให้เราจับฟีลของตัวรถให้ได้ก่อน ไม่จำเป็นต้องขี่เร็วมาก เน้นฟีลลิ่ง จัดท่านั่ง การคอนโทรลตัวรถให้ได้ก่อน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรก ๆ ในการขับขี่ โดยรถที่มีให้ได้ลองสไลด์มีหลายรุ่นเลย นำโดย WR155R, Exciter, XSR155 และ MT-15

โดยเราจะเริ่มกันในส่วนของท่านั่งการขับขี่กันก่อนเลย โค้ชเบ็น แนะนำให้นั่งอยู่กลางลำรถ ไม่จำเป็นต้องถอยท้าย หรือนั่งหน้าจนเกินไปพยายามให้อยู่กลางตัวรถให้มากที่สุด เน้นสร้างบาลานซ์ให้กับตัวรถ จะมีเพียงช่วงตอนเลี้ยวสไลด์เท่านั้นให้ขยับตัวออกเล็กน้อยเพื่อหาบาลานซ์ ในส่วนของแฮนด์ไม่จำเป็นต้องเกร็งแขนมากนัก ดันแฮนด์ส่วนทางกับทางที่จะเลี้ยวเพื่อที่บังคับตัวรถให้ท้ายรถสไลด์ออกไปจับฟีลลิ่งด้านท้ายให้ได้ ถ้าจะให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เข้าโค้งแบบเอ็นดูโร่ และออกโค้งแบบทางเรียบ

การควบคุมคันเร่งต้องเนียน จังหวะเบรกต้องได้ แรก ๆ มันจะงง ๆ หน่อยตอนเข้าโค้ง เพราะต้องทำอะไรหลายอย่าง ทั้งเบรก ทั้งเติมคันเร่ง ทุกอย่างต้องได้จังหวะ ซึ่งเบรกก็ไม่ได้เพื่อให้ช้าลง แตะเบรก (หลัง) ช่วยเล็กน้อย เผื่อที่จะให้ท้ายรถเกิดอาการสไลด์สร้างองศาในการเข้าโค้ง พร้อมกับการเปิดคันเร่งตามทันทีเพื่อที่จะให้ล้อหลังเกิดการปั่นฟรีทิ้ง สไลด์ไปตามไลน์ที่เราต้องการ

ทั้งนี้รอบเครื่องยนต์ กำลังเครื่องยนต์ ต้องพอดี ที่มีกำลังส่งที่ล้อหลัง เอาง่าย ๆ คือเกียร์ต้องพอดีไม่ต่ำหรือสูงเกินไป ความรู้สึกของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน ตรงนี้อาจจะให้ลองจับฟีลลิ่งดู เพราะ WR155R คาแรคเตอร์เครื่องยนต์เป็นอีกสไตล์ ส่วน XSR155 ก็มีสไตล์ที่แตกต่างกัน ยางหลังเองก็เป็นอีกองค์ประกอบที่จะทำให้รถสไลด์ได้มากน้อยไม่เท่ากัน

ถ้าเราเข้าใจการเลี้ยวสไลด์และชินกับอาการท้ายสไลด์ ก็จะทำให้การขับขี่สนุกมากขึ้น เพราะการขับขี่แบบแฟล็ตแทร็กจะเป็นการขับขี่แบบสไลด์ไปตลอดทั้งทาง ทุกอย่างคือการฝึกซ้อม คันเร่ง เบรก ท่าขับ ทุกอย่างต้องแม่นยำจะทำให้การขับขี่สมบูรณ์แบบที่สุด

ขี่ Flat Track ดียังไง ขนาดนักแข่งระดับโลกยังต้องมาขี่”

Flat Track

โค้ชตั้น ให้ข้อมูลว่านักแข่งทางเรียบอย่างทีม YAMAHA Thailand Racing Team มาลงซ้อมแฟล็ตแทร็กจะช่วยในเรื่องของการแก้อาการท้ายสไลด์ สร้างความเคยชินเวลารถแข่งสไลด์ สร้างบาลานซ์ในการขับขี่ได้ดีขึ้นมากกว่าเดิม เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เดินคันเร่งออกโค้งได้เร็วมากขึ้นกว่าเดิม และการขับขี่สไตล์นี้จะช่วยเสริมในเรื่องความฟิตร่างกายเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย

สำหรับวันนี้ได้มีโอกาสมาขับขี่กับโค้ชตั้น โค้ชเบ็น ได้อะไรกลับมาพัฒนาตัวเองเยอะเลย เพื่อที่จะกลับมาประยุกต์ใช้ในการขับขี่รถในชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั้งการขับขี่ทดสอบในสนามแข่ง ฝึกขับขี่แบบแฟล็ตแทร็กแบบนี้ช่วยแก้อะไรหลาย ๆ อย่างได้

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ ไทย ยามาฮ่า มอเตอร์ ที่ได้เชิญเราเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์ขับขี่สไตล์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยลองมาก่อน ถือว่าได้ประสบการณ์และได้ประโยชน์มากจริง ๆ ครับ

อ่านข่าวอื่นๆ จาก Yamaha คลิกที่นี่

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -

บทความยอดนิยม