2025 Pirelli Argentina
ทำลายสถิติ ครั้งแรก ทิ้งห่าง 2 วิ
นับเป็นปีที่ 2 แล้ว สำหรับการเข้าร่วมสู่การเป็นซัพพลายเออร์หลักในรายการแข่งขัน Moto2 และ Moto3 ของยางระดับโลกสัญชาติอิตาลีอย่าง Pirelli รวมถึงกดสถิติเรคคอร์ดมาแล้วมามายแทบทุกสนาม แต่หนึ่งในรูทแม็ปที่ยังไม่เคยได้สัมผัสในการแข่งขันอย่าง 2025 Pirelli Argentina ซึ่งครั้งนี้กลับกลายเป็นโจทย์สมการที่ท้าทายอย่างยิ่งต่อพีเรลลี ยังรวมไปถึงทีมเทคนิคอลและตัวนักบิดเองก็เช่นกัน

นับเป็นปีที่ 2 แล้ว สำหรับการเข้าร่วมสู่การเป็นซัพพลายเออร์หลักในรายการแข่งขัน Moto2 และ Moto3 ของยางระดับโลกสัญชาติอิตาลีอย่าง Pirelli รวมถึงกดสถิติเรคคอร์ดมาแล้วมามายแทบทุกสนาม แต่หนึ่งในรูทแม็ปที่ยังไม่เคยได้สัมผัสในการแข่งขันอย่าง ArgentinaGP ซึ่งครั้งนี้กลับกลายเป็นโจทย์สมการที่ท้าทายอย่างยิ่งต่อพีเรลลี ยังรวมไปถึงทีมเทคนิคอลและตัวนักบิดเองก็เช่นกัน
สถิติใหม่ เกิดขึ้นอีกครั้ง

ด้วยสภาพอากาศที่คาดการณ์ว่าจะต้องร้อนตับแตกเหมือนบ้านเราอย่างแน่นอน แต่กลับกันอุณภูมิที่สนามกลับเย็นกว่าที่คาดซึ่งอยู่ราว ๆ 18-20 องศา ส่วนอุณภูมิผิวแทร็กอยู่ที่ราว ๆ 30 องศาเท่านั้น จึงมาพร้อมกับชัยชนะทั้ง 2 รุ่นพร้อมสถิติครั้งใหม่โดยทิ้งห่างจากผลเวลาดีที่สุดครั้งก่อน ๆ เกือบ 2 วินาที (เทียบกับปี 2023 ที่ยาง Dunlop เป็นสปอนเซอร์)
โดย Manuel Gonzalez (Kalex) หนึ่งเดียวที่สามารถสร้างสถิติดีที่สุดในการควอลิฟายเวลาได้เร็วกว่า 1.41 นาที (อยู่ที่ 1’40.870 นาที นอกนั้น 1.41 นาทีขึ้น) ทำลายสถิติปี 2023 ที่ทำโดย Alonso Lopez ไว้ที่ 1’42.472 ซึ่งเร็วกว่า 1.6 วินาที โดยใช้ยาง Pirelli ประเภทซอร์ฟ (หน้า SC1 หลัง SC0) แต่ถึงอย่างไรเจ้าตัวก็จบอันดับการแข่งขันด้วยรองชนะเลิศอันดับ 1 ซึ่งพลาดตำแหน่งให้กับ Jake Dixon ไปอย่างน่าเสียดาย

ส่วนรุ่น Moto3 ผู้ที่ทำเวลาต่อรอบดีสุดก็คือ Matteo Bertelle (KTM) ผู้ออกสตาร์ทกริดแรกด้วยสถิติผลเวลาดีที่สุด (ควอลิฟาย) ที่ 1’46.034 นาที ทำลายสถิติที่ดีที่สุดของสนามซึ่งถูกเรคคอร์ดไว้เมื่อปี 2022 โดย Sergio Garcia เคยทำเวลาไว้ที่ 1’48.429 นาที ซึ่งเร็วกว่า 2 วินาที ด้วยยางหน้าพีเรลลี SC2 มิเดียม และยางหลังซอร์ฟ SC1 อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะทำผลเวลาการซ้อมดีสุด แต่ทว่าการแข่งขันจริงจะต้องอาศัยชั้นเชิงและความได้เปรียบ โดยเจ้าตัจบอันดับที่ 4 ในการแข่งขันและอันดับโพเดี้ยมตกเป็นของ Angel Piqueras
“จนถึงตอนนี้ เราสามารถกล่าวได้ว่าเราพอใจกับประสิทธิภาพของยางของเราในสนามนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่านี่เป็นการแข่งขันครั้งแรกของเราในสนามนี้ และเราไม่มีข้อมูลอ้างอิงมาก่อน มีหลายเหตุผลที่ทำให้เราสามารถกล่าวอย่างมั่นใจได้ดังนี้
ประการแรก ในทั้งสองรุ่นการแข่งขัน เราสามารถทำลายสถิติเวลาต่อรอบตลอดกาล (all-time lap records) ได้สำเร็จ โดยมีพัฒนาการที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับยางประเภทอื่น – เรากำลังพูดถึงการทำเวลาเร็วขึ้นถึง 1.6 วินาทีใน Moto2 และมากถึง 2.4 วินาทีใน Moto3
ประการที่สอง ควรกล่าวถึงว่า นักแข่งหลายคนสามารถทำเวลาได้ต่ำกว่าสถิติสนามเดิมในทั้งสองรุ่นการแข่งขัน ตั้งแต่การฝึกซ้อมในช่วงบ่ายของวันศุกร์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะแสดงให้เห็นว่านักแข่งสามารถปรับตัวเข้ากับยางของเราได้อย่างรวดเร็ว และสามารถทำรอบได้เร็วตั้งแต่เริ่มต้น
ประการสุดท้าย ต้องเน้นย้ำว่า การพัฒนาสถิติเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากนักแข่งเพียงคนเดียว แต่เป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นกับนักแข่งเกือบทุกคนในทั้งสองรุ่นการแข่งขัน เพราะแทบทุกคนสามารถทำเวลาได้ต่ำกว่าสถิติเดิม นอกจากนี้ นักแข่งบางคนได้ทดสอบการวิ่งระยะยาว (long runs) และยางก็แสดงให้เห็นถึงอัตราการสึกหรอที่อยู่ในระดับที่ดี”
ถึงแม้จะเป็นครั้งแรกในฐานะซัพพลายเออร์รายใหม่ แต่ทว่าผลงานที่ออกมาถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะนักบิดหลาย ๆ คนที่ทุ่มเทกำลังอย่างเต็มความสามารถ นอกจากจะทำลายสถิติเดิมแทบจะทุกคนแล้ว เรายังได้ได้ข้อมูลอันมีค่าเพื่อนำมาพัฒนาประสิทธิภาพของยางสำหรับการแข่งขันในครั้งต่อ ๆ ไป
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก