Honda PCX160 VS 2025 Yamaha NMAX TECHMAX155 ใครเจ๋งกว่า?
2025 Yamaha NMAX TECHMAX155 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยกับ ที่เรียกได้ว่าการเผยโฉมโมเดลใหม่ในการวางจำหน่ายที่ตลาดบ้านเรา ซึ่งค่ายส้อมเสียงจัดมาให้แบบไม่ธรรมดา มีหลายอย่างถูกปรับเปลี่ยนใหม่ในโฉมนี้ หากนำมาเทียบกับทางฝั่งของโมเดลจากค่ายปีกนกอย่าง ‘All New Honda PCX160’ จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ?
ขอเน้นย้ำ : ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน อ่านอย่างเข้าใจ และเป็นกลาง ทุกตัวอักษรในบทความนี้จะเป็นเทียบถึงจุดเด่น ฟีเจอร์ต่าง ๆและสิ่งที่น่าสนใจในรถของสองรุ่นนี้ มิได้เป็นการชักชวน หรือชักจูงในการนำไปเลือกซื้อหรืออย่างใด หากเข้าใจแล้ว ก็มาเริ่มกันเลย ลุย
All New Honda PCX160
เริ่มกันกับโมเดลที่เปิดตัว และวางขายในประเทศไทยก่อนอย่าง All New Honda PCX160 จากค่ายปีกนก ที่มาใหม่ในครั้งนี้มีการปรับดีไซน์ไฟหน้า ไฟท้ายใหม่อย่างเห็นได้ชัด และแตกต่างจากตัวที่เคยวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างสิ้นเชิง โดยจุดที่เพิ่มมาใหม่ที่น่าสนใจจะเป็นจอสีแบบ TFT แล้ว (มาได้สักที) แต่ในส่วนของเครื่องยนต์ยังคงเป็นเครื่องยนต์เดียวกันกับโฉมก่อนหน้าที่วางขายในประเทศไทย
ราคาวางจำหน่ายของ PCX160 โฉมใหม่นี้มาด้วยกันทั้งหมดสองรุ่นย่อยได้แก่ รุ่น Standard (รุ่นธรรมดานั่นแหละ) ไม่มีจอสี TFT จะเป็นเรือนไมล์ LCD แบบธรรมดาเท่านั้น ราคาวางจำหน่ายแนะนำอยู่ที่ 96,000 บาท รุ่น RoadSync ที่เป็นจอสีแบบ TFT จะมีราคาวางจำหน่ายแนะนำอยู่ที่ 99,900 บาท และรุ่นพิเศษที่มาพร้อมชุดแต่งจาก H2C มีราคาวางจำหน่ายแนะนำอยู่ที่ 107,500 บาท
All New Yamaha NMAX TechMax155
เปิดใหม่สด ๆ ร้อน ๆ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ที่เรียกได้ว่ามาใหม่ครั้งนี้พร้อมซัดเพื่อนบ้านให้กระจุย เพราะมาพร้อมกับดีไซน์ไฟหน้า ไฟท้ายใหม่ทั้งหมด เรือนไมล์แบบใหม่ อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบเกียร์ใหม่ ‘YECVT’ ที่จะช่วยอัปเกรดประสบการณ์การขับขี่ให้มีความเร้าใจมากยิ่งขึ้น เพราะทางค่ายเคลมมาว่า ‘มันแรงเสมือนติดเทอร์โบ’ โมเดลนี้บอกได้เลยว่าสมคำนิยาม นี่แหละ ‘ออลนิว’ ของจริง
ราคาวางจำหน่ายของ All New NMAX TechMax155 โฉมใหม่จะมีสองรุ่นย่อยได้แก่ รุ่น Standard ที่ยังคงใช้ระบบชุดเกียร์เดิมกับที่วางขายในโฉมก่อนหน้าเปิดราคาวางจำหน่ายแนะนำอยู่ที่ 98,500 บาท และรุ่น Turbo ที่มาพร้อมชุดเกียร์ใหม่ มีราคาวางจำหน่ายแนะนำอยู่ที่ 113,500 บาท
Honda PCX160 VS Yamaha NMAX TechMax155
หลังจากนี้จะเป็นการเทียบแบบหมัดต่อหมัดของทั้งสองโมเดลที่เป็นเจ้าตลาดในกลุ่มคลาสไม่เกิน 155 ซีซี โดยทุกข้อมูลที่ได้พิมพ์ลงไปจะเป็นข้อมูลจากใบ Spec Sheet ของตัวรถทั้งสองแบรนด์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทราบว่าการควกกระเป๋าจ่ายไปหลายบาทสามารถได้อะไรกลับคืนมาบ้าง
| รุ่นรถ | Honda PCX160 | Yamaha NMAX TechMax155 |
| เครื่องยนต์ | eSP+ ระบายความร้อนด้วยน้ำ | Blue Core ระบายความร้อนด้วยน้ำ |
| ปริมาตรกระบอกสูบ | 157 ซีซี | 155 ซีซี |
| แรงม้า (เคลม) | 15.8 แรงม้าที่ 8,500 รอบต่อนาที | 15.3 แรงม้าที่ 8,000 รอบต่อนาที |
| แรงบิด (เคลม) | 15 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที | 14.2 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที |
| ขนาดกระบอกสูบ / ช่วงชัก | 60 x 55.5 มม. | 58 x 58.7 มม. |
| อัตราส่วนการอัด | 12:1 | 11.6:1 |
| ระบบเกียร์ | CVT | YECVT |
| ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | หัวฉีดอัจฉริยะ PGM-FI | หัวฉีด |
| ระบบสตาร์ท | ไฟฟ้า | ไฟฟ้า |
| ระบบส่งกำลังสุดท้าย | สายพาน | สายพาน |
 |
 |
เริ่มกันที่เครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อน ที่ดูจากสเปคในตารางด้านบนทางฝั่งของค่ายส้อมเสียงถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย แม้จะยังคงเป็นเครื่องยนต์เทคโนโลยี Blue Core แรงม้าเท่า ๆ กัน แรงบิดหย่อนกว่าค่ายปีกนกนิดหน่อย แต่จุดเด่นไฮไลท์คือมันมาพร้อมกับระบบเกียร์ ‘YECVT’ หรือ Yamaha Electric Continously Variable Transmission ที่จะช่วยรีดกำลังเครื่องยนต์ให้มีมากยิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่เร้าใจมากยิ่งขึ้น (เรียกง่าย ๆ ว่ารอบมันมาไวขึ้นนั่นแหละ)
ทางด้านของค่ายปีกนกกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ eSP+ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ ก็ถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีความทนทานเป็นอันดับต้น ๆ แต่อัตราเร่งของเกียร์ CVT ที่ติดมากับรถหากนำมาเทียบในชั่วโมงนี้กับระบบเกียร์ใหม่ของทางยามาฮ่า ก็ถือว่าทางด้านของค่ายส้อมเสียงมีความน่าสนใจมากกว่าเท่าตัว
| รุ่นรถ | Honda PCX160 | Yamaha NMAX TechMax155 |
| ระบบกันสะเทือนหน้า | โช้คอัพแบบเทเลสโคปิก | โช้คอัพแบบเทเลสโคปิก |
| ระบบกันสะเทือนหลัง | โช้คอัพคู่ ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม | โช้คอัพคู่ ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม |
| ระบบเบรกหน้า | ดิสก์เบรกเดี่ยว | ดิสก์เบรกเดี่ยว |
| ระบบเบรกหลัง | ดิสก์เบรกเดี่ยว | ดิสก์เบรกเดี่ยว |
| ระบบเบรก ABS | มีแค่เพียงด้านหน้า | มีทั้งด้านหน้า และด้านหลัง |
| ประเภทวงล้อ | ล้อแม็ก | ล้อแม็ก |
| ขนาดล้อ และยางหน้า | 110/70-14 M/C ไม่มียางใน | 110/70-13 M/C |
| ขนาดล้อ และยางหลัง | 130/70-13 M/C ไม่มียางใน | 130/70-13 M/C |
| กว้าง x ยาว x สูง | 742 x 1,936 x 1,123 มม. | 740 x 1,935 x 1,200 มม. |
| ระยะฐานล้อ | 1,313 มม. | 1,340 มม. |
| ระยะห่างจากพื้น | 135 มม. | 135 มม. |
| ความสูงเบาะ | 764 มม. | 770 มม. |
| น้ำหนักรถ | 133 กิโลกรัม | 134 กิโลกรัม |
มาในส่วนที่สองที่เป็นเรื่องของมิติรถ และระบบช่วงล่าง โดยจะขอเริ่มจากระบบช่วงล่างก่อน ซึ่งทั้งคู่ให้มาเหมือนกันทุกประการสมกับที่เป็นเพื่อนรักกันมาอย่างยาวนาน โดยระบบกันสะเทือนด้านหน้าจะเป็นโช้คอัพแบบ ‘เทเลสโคปิก’ และด้านหลังเป็นโช้คอัพคู่ที่ผลิตโดยโรงงาน ที่โดนตัด ‘ซับแทงค์’ ออกทั้งคู่ แต่ส่วนตัวมองว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่เลือกซื้อรถในสองโมเดลนี้ ส่วนใหญ่นะ ย้ำกว่าส่วนใหญ่ ก็ถอดโช้คอัพของเดิมออกเก็บใส่กล่อง แล้วทำการอัพเกรดโช้คอัพใหม่เพื่อให้การขับขี่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าขับขี่แบบธรรมดาทั่วไปในท้องถนนก็คิดว่าเพียงพอแล้วต่อการใช้งาน
 |
 |
ระบบเบรกของทั้งคู่เหมือนกัน แต่ไม่ทั้งหมด ซึ่งในจุดที่เหมือนกันคือระบบเบรกจัดมาให้เป็นแบบดิสก์เบรกเดี่ยวทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ แต่ในส่วนที่แตกต่างคือ Yamaha NMAX ให้ระบบเบรกแบบ ABS ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง สวนทางกับทางค่ายฮอนด้าให้มาเพียงแค่ด้านหน้าเท่านั้น (จะหวงด้านหลังไว้ทำไมล่ะคะคุณพรี่) และมีระบบ Traction Control เหมือนกันทั้งสองโมเดล
 |
 |
ทางด้านของมิติตัวรถทางบ้านปีกนกเหมือนจะดูหนากว่านิดนึง ถ้าเทียบกับโมเดลของ All New Yamaha NMAX ตัวใหม่ซึ่งดูผอมกว่า (อาจจะเป็นเพราะเหลี่ยมสันของแฟริ่งรอบ ๆ รถ) แต่เมื่อได้ลองคร่อมทั้งสองโมเดลแล้วก็พบว่า ‘มันไม่ได้ต่างกันมากขนาดนั้น’ ส่วนว่าชอบดีไซน์แบบไหนก็แล้วแต่ใจของเจ้าของเงินแล้วล่ะครับ
| รุ่นรถ | Honda PCX160 | Yamaha NMAX TechMAX155 |
| หน้าจอเรือนไมล์ | หน้าจอสีแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว | หน้าจอสี TFT 4.2 นิ้ว + LCD ขนาด 3.2 นิ้ว |
| ระบบนำทาง | Turn by Turn | ระบบนำทาง Garmin Street Cross |
| ช่องจ่ายไฟ USB-Type C | มี | มี |
| ชิลด์กันลมด้านหน้า | มี | มี |
| ขนาดความจุใต้เบาะ | 30 ลิตร | 25 ลิตร |
ในด้านของรายละเอียดอื่น ๆ ที่มาพร้อมกับตัวรถ เริ่มกันที่หน้าจอเรือนไมล์ของผู้ขับขี่ ซึ่งทางฝั่งของ All New PCX160 มาพร้อมหน้าจอสีแบบ TFT ขนาด 5 นิ้วรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชัน Honda RoadSync ต่อมาทางด้านของ All NEW NMAX155 มาพร้อมกับหน้าจอแบบสองชั้นบนล่าง โดยด้านบนจะเป็นหน้าจอสีแบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว และด้านล่างจะเป็นจอแบบ LCD ขนาด 3.2 นิ้วที่มีฟีเจอร์ระบบนำทาง Garmin StreetCross ที่ดูแล้วเหนือกว่าเพราะอีกฝั่งให้มาเพียงแค่ระบบนำทางแบบ Turn-by-Turn เท่านั้น (โถ่เอ้ย)
 |
 |
ภาพรวมของหน้าจอกลาง ส่วนตัวของผู้เขียนชื่นชอบทางฝั่งฮอนด้ามากกว่า (ย้ำว่าส่วนตัวของผู้เขียนไม่ได้เอนเอียง) เพราะเป็นหน้าจอเดียวขนาด 5 นิ้วที่มาแบบชัด ๆ เต็ม ๆ ดูง่าย ๆ เห็นครบทุกรายละเอียด ซึ่งหน้าจอของ NMAX ที่เป็นแบบสองชั้นมันดูคับแคบเสียเหลือเกิน (นานาจิตตังบางคนอาจจะชื่นชอบก็ได้
ทั้งคู่มีช่องจ่ายไฟแบบ USB Type-C โดยจะอยู่ในช่องเก็บของบริเวณหน้ารถทั้งคู่ ซึ่งทั้งคู่มีติดมาให้เพียง 1 ช่องเท่านั้น (ก็โอเคนะ เพราะทำไมเราถึงต้องมีพอร์ต USB-Type C เยอะขนาดนั้นกันนะ) ทั้งคู่มีชิลด์กันลมด้านหน้าเหมือนกัน ช่องเก็บของใต้เบาะ ทางด้านของ PCX มีขนาดความจุอยู่ที่ 30 ลิตรขณะที่ทางฝั่งของ NMAX มีขนาดความจุเพียง 25 ลิตรเท่านั้น
ราคาวางจำหน่าย
 |
 |
และแล้วก็เดินทางกันมาถึงหัวข้อสุดท้าย ซึ่งอาจจะเป็นหัวข้อที่เหล่ายอดนักอ่านรอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปมากกว่านี้ ขอเริ่มกันที่ทางค่ายปีกนกก่อน ‘All New Honda PCX160’ ที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยรุ่น Standard มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 96,000 บาท และรุ่น RoadSync กับราคาแนะนำที่ 99,900 บาท
และทางด้านของ ‘All New Yamaha NMAX155’ รุ่น Standard มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 98,500 บาท และในรุ่นของ TechMAX ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังใหม่ของทางค่าย มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 113,500 บาท
หากเทียบราคาของทั้งคู่ทางด้านของค่ายส้อมเสียงมีราคาแพงกว่าทั้งโฉมธรรมดาที่มีราคาสูงกว่าตัวธรรมดาของ PCX อยู่ที่ 2,500 บาท และรุ่น TechMAX ที่แพงกว่าตัวท็อปสุดของ PCX อยู่ที่ 13,600 บาท ซึ่งก็อาจจะมีความเป็นไปได้ในเรื่องของราคาที่แพงกว่าเป็นเพราะเทคโนโลยีใหม่ของทางค่ายที่อัดแน่นมาให้ผู้ขับขี่ได้ทดลอง
แต่ถ้ามองกันแบบไม่โลกสวย Yamaha วางขายด้วยราคาตัวท็อปที่แตะแสนแบบนี้บอกได้เลยว่าทางฝั่งฮอนด้ายิ้มมุมปาก แล้วคิดในใจเบา ๆ ว่าหวานเจี๊ยบอีกแล้วสินะเรา เพราะส่วนต่างหลักหมื่นนี้ถ้าใจไม่รักจริง ๆ ก็เป็นไปได้ยากมาก ๆ ที่อยากจะจ่ายในราคาที่สูงขนาดนี้
สิ่งที่โดดเด่นของค่าย Honda
สิ่งที่โดดเด่นในโมเดล All New PCX160 นี้ คงจะหนีไม่พ้นหน้าจอสีแบบ TFT ที่รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ามาเป็นตัวชูโรง ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์คู่ใจเทคโนโลยี eSP+ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ได้รับความนิยมจากทางฮอนด้า ขึ้นชื่อในเรื่องของความทนทาน เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ลดแรงเสียดทาน และประหยัดน้ำมัน (อยู่ที่มือ และการบิดของแต่ละบุคคล) มาพร้อมระบบ Piston Oil Jet เทคโนโลยีที่ช่วยลดแรงเสียดทาน และระบายความร้อนของลูกสูบ พร้อมกับดีไซน์ที่ครองใจวัยรุ่นกันมาอย่างยาวนาน
สิ่งที่โดดเด่นของค่าย Yamaha
แน่นอนว่าสิ่งที่น่าสนใจของ Yamaha NMAX TechMAX155 คันนี้คงหนีไม่พ้นระบบขับเคลื่อนใหม่อย่าง YECVT เทคโนโลยีใหม่จากทางยามาฮ่าที่ช่วยควบคุมระบบส่งกำลังเพื่อให้ขับขี่สนุก อีกทั้งการจับคู่กันกับระบบวาล์วแปรผัน VVA ที่ตอบสนองดีทุกแรงบิดทั้งรอบต่ำ และรอบสูง ทันใจทั้งการออกตัว และเร่งแซง ใครที่อยากลองของใหม่จะลองเลี้ยวไปทดสอบก็ไม่เสียหาย
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมฉบับเต็มของ All New PCX160 2025 ได้ที่นี่ (คลิ๊ก)
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมฉบับเต็มของ All New Yamaha NMAX TechMAX155 2025 ได้ที่นี่ (คลิ๊ก)
ทั้งสองโมเดลที่ถูกหยิบยกขึ้นมาในบทความนี้มีวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยทางฝั่งของ All New Honda PCX160 2025 มีวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมดสองรุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Standard (รุ่นธรรมดา) วางจำหน่ายที่ราคา 96,000 บาท และรุ่น RoadSync วางจำหน่ายที่ราคา 99,900 บาท และเพิ่มความพิเศษด้วยรุ่น Exclusive Edition พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งจาก H2C ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษ วางจำหน่ายที่ราคา 107,500 บาท
และโมเดลที่พึ่งเปิดตัวแบบสด ๆ ร้อน ๆ อย่าง All New Yamaha NMAX TechMAX155 มาพร้อมสองรุ่นย่อยเช่นเดียวกัน รุ่นแรกธรรมดา ราคา 98,500 บาท ที่ปรับเปลี่ยนเพียงแค่หน้าไฟหน้า ไฟท้าย และดีไซน์รอบคันวางจำหน่ายที่ราคา และรุ่น TechMAX ราคา 113,500 บาท ที่เพิ่มความพิเศษด้วยระบบขับเคลื่อนใหม่ ‘YECVT’ เอกสิทธิ์เฉพาะจาก Yamaha วางจำหน่ายที่ราคา บาท ชอบคันไหนก็ไปครอบครองคันนั้น บทความนี้เพียงแค่มาชี้แจงถึงจุดที่น่าสนใจของทั้งสองโมเดล จะขับขี่คันไหนก็จัดไป แต่อย่าไปขี่ใกล้คนหลายใจแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก
 |
 |
