spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

BOSCH 2025 เริ่มแผนพัฒนาระบบเบรกไฟฟ้า

BOSCH 2025 เริ่มแผนพัฒนาระบบเบรกไฟฟ้า

BOSCH 2025 เริ่มแผนการพัฒนาระบบเบรกไฟฟ้า เพราะเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะที่ไม่ว่าจะเป็นภายในรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ นั้นเป็นสิ่งที่ถูกพัฒนามาตลอดในช่วงเวลาร่วม ๆ 10 ปีที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะในพาร์ทของรถจักรยานยนต์ที่มีการอัปเกรดในเรื่องของเทคโนโลยีไปอย่างก้าวกระโดด อาทิ ระบบคันเร่งไฟฟ้า (Throttle-by-wire) , ระบบ ABS ขณะเข้าโค้ง และระบบควบคุมแรงยึดเกาะที่ไวต่อองศาการเอียง ก็ถูกติดตั้งมาเป็นเทคโนโลยีมาตรฐานแล้วเช่นเดียวกัน 

โดยตอนนี้ทาง Bosch บริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ได้ออกมาพัฒนาเกี่ยวกับ ‘ระบบเบรกไฟฟ้า’ (Brake-by-wire) ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก แต่ก็อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา

ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวทาง Bosch ได้ออกมาประกาศว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ของบริษัท โดยมีการทดสอบเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้เป็นระยะทางกว่า 3,300 กิโลเมตร ที่มีสภาพอากาศแตกต่างกันเพื่อต้องการให้มั่นใจว่าเมื่อถึงเวลาต้องนำมาใช้งานจริง ๆ จะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

หลักการทำงานของ ระบบเบรกไฟฟ้า (Brake-by-Wire)

Bosch 2025
ทำงานผ่านระบบเซ็นเซอร์

เมื่อผู้ขับขี่กดเบรก เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่ที่ก้านเบรกจะตรวจจับแรงกดและส่งข้อมูลไปยัง หน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Control Unit – ECU) และ ECU จะประมวลผลข้อมูล และกำหนดแรงเบรกที่เหมาะสมสำหรับล้อแต่ละข้าง 

ซึ่งจะเป็นการแทนที่ระบบแทนที่ระบบไฮดรอลิกแบบเดิมที่ใช้ของเหลวในการส่งแรงดันไปยังคาลิปเปอร์เบรก ระบบนี้จะใช้ สัญญาณไฟฟ้า เพื่อสั่งให้ตัวกระตุ้นอิเล็กทรอนิกส์ทำงาน ตัวกระตุ้นอิเล็กทรอนิกส์ที่ติดตั้งบนคาลิปเปอร์เบรกจะทำงาน ทันทีและแม่นยำ ตามคำสั่งจาก ECU ทำให้เบรกตอบสนองเร็วขึ้น และสามารถปรับแรงเบรกแบบอิสระต่อกันที่ล้อหน้าและล้อหลัง

อีกทั้งระบบเบรกไฟฟ้าตัวนี้ สามารถทำงานร่วมกับระบบ ABS (Anti-lock Braking System), ระบบควบคุมแรงดันเบรกขณะเข้าโค้ง (Cornering ABS), และระบบควบคุมแรงยึดเกาะ (Traction Control) ทำให้ระบบสามารถปรับแรงเบรกตามสภาพถนนและองศาการเอียงของมอเตอร์ไซค์ได้อย่างแม่นยำ

Bosch 2025
ภาพรวมของการทำงานภายในระบบรถยนต์

แน่นอนว่าข้อดีของระบบเบรกไฟฟ้า คือ

  1. มีการตอบสนองไวขึ้น – ลดระยะเวลาที่ระบบเบรกจะเริ่มทำงาน
  2. น้ำหนักเบาลง – ไม่ต้องใช้ปั้มเบรก และสายไฮดรอลิก
  3. สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ ของตัวได้ดีมากยิ่งขึ้น

แน่นอนว่ามีข้อดี ก็ย่อมต้องมี ‘ข้อเสีย’ ตามมา 

  1. ความเสี่ยงจากระบบอิเล็กทรอนิกส์ 

แน่นอนว่าอะไรที่เป็นไฟฟ้า หากเซ็นเตอร์ที่ควบคุมการทำงานเกิดขัดข้อง หรือมีปัญหาก็อาจจะทำให้เบรกเกิดการทำงานที่ผิดปกติ

2. การบำรุงรักษาที่ละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม

ระบบเบรกไฟฟ้าอาจจะต้องมีการดูแลรักษาที่มากกว่าระบบเบรกแบบไฮดรอลิกทั่วไป เพราะระบบอาจจะมีความซับซ้อน จึงทำให้ต้องมีการตรวจสอบเซ็นเซอร์ ทั้งตัวกระตุ้น และตัวรับอย่างสม่ำเสมอ

ซึ่งเทคโนโลยีระบบเบรกไฟฟ้าอาจจะดูมีความเหมาะสมเป็นพิเศษเมื่อถูกติดตั้งในรถยนต์ โดยเฉพาะเมื่อการมาถึงในยุคของรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งทาง Bosch เองก็มีแผนในการนำเทคโนโลยีดังกล่าวบรรจุเข้าไปในตัวรถอีกด้วย 

แล้วถ้าระบบเบรกนี้ถูกติดตั้งลงในรถจักรยานยนต์ ?

จะเข้าท่าไหม ถ้าระบบเบรกไฟฟ้าถูกบรรจุในรถจักรยานยนต์

แน่นอนว่ารถจักรยานยนต์อาจจะดูไปในหลากหลายเส้นทางมากกว่ารถยนต์ เพราะบางครั้งผู้ขับขี่อาจจะต้องการความคล่องตัวในการเดินทาง แน่นอนว่าสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง สภาพอากาศ หรือเส้นทางขรุขระ ถ้าเกิดเดินทางไปในเส้นทางที่ค่อนข้างมีอุปสรรคเยอะ ระบบเบรกอาจจะมีปัญหาจากการที่สายไฟถูกตัดขาด หรือเซ็นเซอร์ของเบรกเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกต่าง ๆ แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้อาจทำให้ผู้ขับขี่ใช้เบรกได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ 

จึงทำให้การดูแลรักษาระบบเบรกจะถูกดันขึ้นมาเป็นสิ่งแรก ๆ ที่เหล่านักบิดต้องดูแล ซึ่งผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บางคนการหยอดน้ำมันโซ่ หรือการเช็คลมยางก่อนออกเดินทางยังเป็นสิ่งที่ไม่ได้ใส่ใจดูแลได้มากเท่าที่ควร 

แม้ว่าระบบเบรกไฟฟ้าจะเป็นเทคโนโลยีที่มีความล้ำหน้า แต่ปัญหาในเรื่องของความน่าเชื่อถือ และระบบความปลอดภัย ของเบรกชนิดนี้ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม ซึ่งในอนาคตถ้าระบบเบรกนี้มีประสิทธิภาพมากพอ ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ในการเห็นเบรกประเภทติดตั้งอยู่ในรถจักรยานยนต์ทั่วไป แต่ผู้ขับขี่จะสามารถไว้ใจระบบเบรกไฟฟ้า 100% ได้หรือไม่ เพราะเมื่อระบบมีปัญหา มันอาจจะไม่ใช่แค่ปัญหาที่น่ารำคาญ แต่มันอาจหมายถึงชีวิตของผู้ขับขี่

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -
GoKart SuperBike
GoKart SuperBike
ชื่นชอบทีมกีฬาที่มีสีแดงเป็นชีวิตจิตใจ เช่น Ducati Lenovo และสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

บทความยอดนิยม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่