Honda CB1000 Hornet SP 2025
โฉมใหม่ คล้ายอยู่นะ
ตามมาอีกรุ่น หรืออาจจะเป็นช่วงเข้าใกล้เทศกาล Eicma เข้าไปแล้วทุกที ทางค่ายปีกนกจากฝั่งยุโรปก็ปั่นกระแสอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งหลังจากเปิดตัว Forza 750 ไปแล้ว คราวนี้ กับเป็นคิวของพี่ใหญ่สายเน็กเก็ดอย่าง Honda CB1000 Hornet SP 2025 สตรีทไฟเตอร์รุ่นเวอร์ชันที่สะดุดตาที่สุด และต้องขอลัดคิวทำโมเดลรุ่นนี้ก่อนเพราะว่ามันสวยจนรู้สึกว่าคล้ายคลึงกับรุ่นอะไรกันนะ.. (จำไม่ได้)
Honda CB1000 Hornet SP 2025
นี่คือ Z เอ้ย CB1000 เวอร์ชัน SP
ไม่เคยคาดคิดว่าก่อนว่าเจ้าแตนยักษ์จะมีรุ่น SP กับเขาด้วย แต่กลับกันรอบนี้ ทางค่ายจัดให้เต็มระบบในเวอร์ชันตัวแต่ง ในชุดสีดำ ตัดแต้มด้วยสีทองเด่น ๆ ทั้งลวดลายกราฟิกออกแบบใหม่ ล้อ โคมไฟหน้า 2 ชั้นออกแบบใหม่ แบบ LED พร้อมไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ เสริมหล่อด้วยชิลด์หน้าแบบสปอร์ต ซึ่งให้ความแตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง
ของแต่งระดับพรีเมียม
เพื่อให้ความเป็นโทนเดียวกันเสมือนกับพญาแตนตัวยักษ์ แน่นอนว่าต้องมากับของแต่งระดับพรีเมียม กับระบบช่วงล่างด้วยโช้ค USD ด้านหน้าจาก Showa SFF-BP ขนาด 41 มม. ส่วนโช้คหลังเป็นโปรลิ้งค์ Ohlins TTX36 สามารถปรับการตั้งค่าได้ทั้งพรีโหลด รีบาวด์และคอมเพรสชัน ทำงานร่วมกับเฟรมเหล็กทวินสปาร์ ออกแบบใหม่ ต่อด้วยคาลิเปอร์เบรกด้านหน้า Brembo Stylema ขนาด 4 พอต จับคู่กับดับเบิ้ลดิสก์เบรกขนาด 310 มม. ส่วนด้านหลังเป็นปั๊มบะหมี่ (Nissin) 1 พอต จับคู่จานเบรก 240 มม. รัดมาด้วยล้อและยางขนาด 120/70-17 และ 180/55-17 ตามลำดับ โดยรวมเคลมน้ำหนักมาที่ 212 กก.
เครื่องยนต์เดิม แรงม้าเพิ่มขึ้น
ขณะที่ตัวเครื่องยนต์ยังคงใช้พื้นฐานเดียวกันกับซูเปอร์ไบค์เรือธงอย่าง CBR1000RR กับ 4 สูบเรียงขนาด 1,000 ซีซี ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 155 แรงม้าที่ 11,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 107 นิวตันเมตรที่ 9,000 รอบ ซึ่งมีแรงม้าเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน ๆ เนื่องการปรับปรุงระบบวาล์วใหม่ เพลาลูกเบี้ยว ปรับแต่งฝาครอบใหม่รวมถึงปรับอัตราทดเกียร์ใหม่ เพิ่มอัตราแรงบิดมากขึ้น และตอบสนองการทำงานแบบฉับพลันด้วยระบบคันเร่งไฟฟ้า และพิเศษกับเวอร์ชัน SP เพราะว่ารุ่นนี้ติดตั้งควิกชิฟเตอร์มาให้ โดยสามารถปรับได้ถึง 3 ระดับพ่วงมาพร้อมกับถังน้ำมันขนาด 17 ลิตร
ระบบช่วยเหลือขับขี่
สำหรับฟีเจอร์ช่วยเหลือการขับขี่ประกอบไปด้วย หน้าจอสี TFT ขนาด 5 นิ้ว พร้อมโหมดการขับขี่ (Rain, Standard, Sport และ User 2 โหมด) ระบบพาวเวอร์โหมด, เอ็นจิ้นเบรก 3 ระดับ ระบบแทร็คชันคอนโทรล 4 ระดับ และระบบป้องกันล้อหน้าลอย และสามารถเชื่อมต่อผ่าน Honda RoadSync มีระบบนำทาง หรือ Turn by Turn และส่วนอื่น ๆ อาทิ ระบบ ABS Dual Channel ระไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกระทันหัน พอร์ตชาร์จไฟ USB และระบบไฟส่องสว่าง LED รอบคัน
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ และทำออกมาสวยไม่น้อยเลยทีเดียว จนกระทั่งแฟน ๆ สาวกคิดว่านี่มัน Z1000 ในเวอร์ชันตัวแต่งหรือเปล่า (ล้อเล่น) โดยเปิดราคาในยุโรปแล้วที่ 9,999 ยูโร หรือราว ๆ 4.3 บาท (ไม่รวมภาษี) อย่างไรก็สามารถติดตามคันจริง ได้ในเร็ว ๆ นี้ หรืออาจจะเป็นในช่วงของงาน EICMA ที่กำลังจะจัดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ อยากเห็นคันจริงแล้วหล่ะสิ ..!!
อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก