spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

Yamaha R1 2025 ตัวซิ่งติดปีกใหม่

Yamaha R1 2025 ตัวซิ่งติดปีกใหม่

Yamaha R1 2025

ไหนบอกเลิกผลิตแล้ว..!! หลอกกันนี่นา เล่นทำเอาสาวกเลือดน้ำเงินอกหักกันระทมแทบจะหันหนีไปซบค่ายอื่น ๆ กันซะแล้ว แต่อย่างน้อยการกลับมาครั้งนี้ก็ยังถือว่าเป็นข่าวดีให้ใจชื้นไม่น้อยเลยทีเดียว กับการเปิดตัวซูเปอร์ไบค์พิกัดเรือธงจากค่ายส้อมเสียงอย่าง R1 พร้อมพลิกวงการมอเตอร์สปอร์ตอีกครั้ง ด้วยการคัมแบคครั้งใหม่ของ Yamaha R1 2025 และรุ่น R1M 2025 พร้อมคุณสมบัติสำหรับการขับขี่ในสนามโดยเฉพาะ 

โดยทางยามาฮ่าจากฝั่งยุโรปพร้อมเปิดเผยถึงผลิตภัณฑ์ซูเปอร์ไบค์พิกัดเรือธง ที่ได้รับการปรับปรุงสมรรถนะและอัปเดตเทคโนโลยีมาใหม่แบบเดียวกันกับตัวแข่ง WorldSBK รวมถึง DNA ตัวแข่งโมโตจีพีอย่าง M1 เพื่อให้เหล่านักบิดสามารถปรับสไตล์การขับขี่ในสนามได้อย่างเต็มระดับ 

วิงก์เลตใหม่

Yamaha R1 2025
วิงก์เลตติดตั้งมาใหม่

สิ่งที่ปรับปรุงมาใหม่คงจะเป็นในเรื่องของรูปลักษณ์หน้าตาที่ปรับใหม่เล็กน้อย โดยเฉพาะวิงก์เลตคาร์บอนไฟเบอร์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวแข่ง MotoGP ซึ่งจะช่วยเพิ่มในเรื่องของหลักอากาศพลศาสตร์ ทั้งยังช่วยสร้างแรงกดป้องกันล้อหน้าลอยนั่นเอง ส่วนสำหรับรุ่น R1M นั้นก็ติดตั้งวิงก์เลตมาให้เช่นเดียวกัน รวมถึงแฟริ่งที่เป็นพาร์ทคาร์บอนสวย ๆ รอบคัน เอาใจสายไล่เบาเป็นพิเศษ

แฟริ่งคาร์บอนไฟเบอร์ (รุ่น R1M)

Yamaha R1 2025
รุ่น R1M พร้อมด้วยแฟริ่งคาร์บอนไฟเบอร์

ช่วงล่าง New Upgrade

Yamaha R1 2025
ช่วงล่างจัดมาใหม่

อีกสิ่งหนึ่งที่อัปเกรดมาใหม่คงจะเป็นในเรื่องของตัวโช้คที่เป็นรุ่น KYB ดีไซน์ใหม่ที่มีขนาดแกน 43 มม. สามารถแดมปิ้งได้ทั้งรีบาวด์และคอมเพรสชันปรับได้แบบสองทิศทาง รวมถึงคาลิเปอร์เบรก Brembo ด้านหน้าและปั้มบน รวมไปถึงผ้าเบรกเกรดแข่งขันอย่าง Brembo Z04 ขณะที่ตัวจานดิสก์หน้า-หลังขนาด 320 และ 220 มม. มีขนาดล้อและยางที่ 120/70ZR17 และ 190/55ZR17 ตามลำดับ 

ไหน ๆ รุ่นตัวปกตินั้นให้คาลิเปอร์ Brembo มาแล้ว แต่สำหรับในรุ่นของ R1M ยังคงใช้เป็นปั๊มเบรกทั่วไปอยู่ แต่ทว่าในเรื่องของตัวโช้คก็ต้องยอมเขา เพราะได้โช้คปรับไฟฟ้าจาก Ohlins ทั้งหน้า-หลัง สามารถปรับได้เต็มระบบ

เครื่องยนต์ครอสเพลน CP4

เครื่องยนต์ครอสเพลนสี่สูบเรียงขนาด 998 ซีซี มีแรงม้าถึง 200 แรงม้า

ยังคงให้ความโดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ CP4 ครอสเพลนสี่สูบเรียงขนาด 998 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมกล่อง ECU สมรรถนะแบบเดียวกับรถแข่งที่ได้รับการทดสอบจากทีมเอ็นจิเนียร์ของยามาฮ่า เรซซิ่ง พร้อมเพลาลูกเบี้ยวแบบใหม่ และระบบคันเร่งไฟฟ้า (Yamaha Chip Controlled Throttle) และตัวเซ็นเซอร์คันเร่งไฟฟ้า ทั้งยังคงให้แรงม้ามากถึง 200.0 แรงม้ามาที่ 13,500 รอบ แรงบิด 113.3 นิวตันเมตรที่ 11,500 รอบ 

นอกจากนี้ยังมาพร้อมด้วยเฟรมเดลต้าบ็อกซ์ขนาดกระทัดรัดและตัวซับเฟรมที่มีขนาดเบาพิเศษ ซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ทั้งการเข้าโค้งที่แม่นยำ รวมไปถึงความนิ่งเสถียรในการขับขี่ทางตรงด้วยความเร็วสูง

ระบบช่วยเหลือขับขี่

อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์อำนวยความสะดวกกับหน้าจอสี TFT มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มากมาย อาทิระบบ IMU 6 แกนที่มาพร้อมกับระบบ Yamaha Ride Control ควบคุมโหมดการขับขี่ แอสซิสต์สลิปเปอร์คลัตช์ ระบบแทร็คชันคอนโทรล ABS ระบบเอ็นจิ้นเบรก ระบบ Launch Control ระบบ Lift Control ระบบสไลด์คอนโทรล เพาเวอร์โหมดไว้ปรับใช้งาน และควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทางที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ได้สมูทและเนียนมากยิ่งขึ้น 

สำหรับเรื่องของการจำหน่ายทั้งสองโมเดลคาดว่าจะมีการเปิดตัวขึ้นภายในงาน EICMA ที่อิตาลีในเร็ว ๆ นี้ และคาดว่าน่าจะเข้าไทยในช่วงปีหน้าก็เป็นไปได้ หรือเป็นไปได้ก็อาจจะมีรุ่น Y-AMT มาเพิ่มอีกเวอร์ชันหนึ่งก็เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่เปิดตัวดังกล่าวหรือแม้กระทั่ง R9 ที่เขาลือ ๆ กันแต่ก็ขอให้มาครับ แฟน ๆ อดใจรอกันไม่ไหวแล้ว 

อ่านข่าวอื่นๆ จาก Yamaha คลิกที่นี่

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -
Joe Superbike
Joe Superbikehttp://www.superbikemag.com
นักเขียน "หัวใจสีเขียว" ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกเป็นชีวิตจิตใจ และมาโลดแล่นในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก

บทความยอดนิยม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่