PCX160 2024 อัป 5 สีใหม่ เอาใจขาซิ่ง
กระแสยังคงไม่ดร็อปหาย และยังเป็นที่นิยมของเหล่าไบค์เกอร์สายออโตเมติกกับสกู๊ตเตอร์พรีเมียมจากค่ายฮอนด้าในพิกัดเริ่มต้นอย่างเจ้า PCX160 2023 ที่เปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา และเพื่อที่จะสานต่อความต้องการของผู้ขับขี่ใช้งานไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดขี่ หรือผู้ที่หลงใหลในความสปอร์ตพรีเมียมของโมเดลรุ่นนี้ ทางค่ายจึงทำการเปิดตัว New PCX160 2024 รุ่นใหม่ปีล่าสุด มาพร้อมด้วยเฉดสีและลวดลายสะท้อนความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ดูโดดเด่น ให้เป็นทางเลือกในการตัดสินใจเป็นเจ้าของมากยิ่งขึ้น
แค่นั้นยังไม่พอ โมเดลปีล่าสุดจะถูกปรับเปลี่ยนมาใช้เป็นระบบเบรกที่เป็น ABS ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเท่ากับว่าจะไม่มีเจ้าระบบ Combie Brake System (CBS) หรือรุ่น Standard จำหน่ายในรุ่นปี 2024 แล้วนั่นเอง (แต่ถ้าใครอยากได้รุ่น Standard ปี 2023 สามารถเข้ามาดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ คลิ๊กที่นี่ ) ซึ่งนอกจากระบบเบรกที่เปลี่ยนมาใหม่แล้ว ตัวโมเดลยังโดดเด่นด้วยชุดสีค็อปเปอร์ที่ล้อ และเพลทโลโก้ด้านข้าง รวมถึงเบาะนั่งสีทูโทนปาดลายเว้าระดับ ดูดีในลุคสปอร์ตพรีเมียม
พร้อมด้วยสมรรถนะอันเร้าใจด้วยเครื่องยนต์รหัส eSP+ 4 วาล์ว ระบบ Piston Oiljet หรือหัวฉีดน้ำมันเครื่องใต้ลูกสูบ พร้อมส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่อง สมูท ลื่นไหลและทนทานมากยิ่งขึ้น ผ่านขุมพลังสูบเดียว 4 จังหวะ ขนาด 157 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI โดยให้แรงม้าสูงสุด 15.8 แรงม้าที่ 8,500 รอบ แรงบิดสูงสุด 15 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบ พร้อมกับถังน้ำมันขนาด 8.1 ลิตร
ต่อด้วยระบบซับแรงพื้นถนนด้วยโช้คหน้าเทเลสโคปิก โช้คหลังยูนิตสวิง ใช้ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อมระบบเบรก ABS พร้อมกับทำงานร่วมกับล้อแม็กหน้า 14 นิ้ว ล้อหลัง 13 นิ้ว และยางแบบไม่ใช้ยางในขนาด 110/70 และ 130/70 ซึ่งจะมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 131 กก. ถือว่าไม่ต่างจากรุ่นก่อน
ช่องเสียบ USB Type C | |
กล่องใต้เบาะความจุขนาด 30 ลิตร | |
เรือนไมล์ดิจิทัล Full LCD | |
กุญแจรีโมทอัจฉริยะ |
ในขณะที่ระบบฟังก์ชันการใช้งานนั้นมีไม่น้อยเช่นกัน ทั้งช่องเสียบ USB Type C กล่องใต้เบาะความจุขนาด 30 ลิตร เก็บหมวกเต็มใบได้ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เรือนไมล์ที่เป็น Full LCD บอกฟังก์ชันค่าต่าง ๆ ครบครันและอ่านง่าย รวมถึงเจ้าระบบ HSTC (ระบบป้องกันล้อหน้ายก) ช่วยในเรื่องของการทรงตัวรถและป้องกันไถลในเวลาขับขี่อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีระบบส่องสว่างที่เป็นไฟ LED ทั้งหมด สมาร์ทคีย์ที่ไม่ต้องเสียบกุญแจสตาร์ท และสามารถกดเรียกรถเวลาจอดแล้วหลงลืมได้นั่นเอง แถมมีไฟ Blue Ring LED สวย ๆ ติดมาตรงสวิทซ์ให้อีกด้วย
สีสันที่มีจำหน่าย
Caribbean Blue (สีน้ำเงิน-ดำ) |
|
Matt Gunpowder Black (สีดำ) | |
Candy Rosy Red (สีแดง-ดำ) |
|
Pearl Smoky Grey (สีเทา-ดำ) |
|
Pearl Metaloid White (สีขาว-ดำ) |
โดยมีจำหน่ายทั้งหมด 5 สีด้วยกันได้แก่ Candy Rosy Red (สีแดง-ดำ), Matt Gunpowder Black (สีดำ), Caribbean Blue (สีน้ำเงิน-ดำ), Pearl Metaloid White (สีขาว-ดำ) และ Pearl Smoky Grey (สีเทา-ดำ) ในราคาแนะนำที่ 93,900 บาท นอกจากนี้ ยังให้บริการรับประกัน 3 ปี หรือ 30,000 กม. และรับประกันอุปกรณ์หัวฉีด 5 ปี หรือ 50,000 กม. อีกด้วย
ก็สรุปกับโมเดลรุ่นนี้ ปีนี้ยังคงใช้ชุดสีเดิมเแบบเดียวกับปีก่อนแต่ปรับมาใช้เป็นรุ่น ABS เพื่อความหลากหลายในการตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ซึ่งท่านใดสนใจ สามารถเลือกชมและจับจองเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้ที่ตัวแทนจำหน่ายฮอนด้าทั่วประเทศ หรือเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th เฟสบุ๊ค : hondamotorcyclethailand และช่องทาง Youtube : HondaMotorcycleTHA
อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก