Daytona 660 2024 กลับมาอย่างสปอร์ตสายผู้ดี..!!
เผยโฉมพร้อมกันทั่วโลก สำหรับตำนานบทใหม่จาก ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ประเดิมฤกษ์ต้นปีด้วยการเปิดตัวโมเดลสปอร์ตไบค์พิกัดไซส์กลางสุดเท่ มาพร้อมกับสไตล์การขับขี่ที่สนุก และมีสมรรถนะที่เหมาะกับการใช้งานทั้งในสนามแข่งและบนท้องถนน กับ Daytona 660 2024
ในด้านการดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยการถอด DNA มาจากโมเดลต้นฉบับ ได้รับการปรับโฉมด้วยมุมมองที่สดใหม่ รวมไปถึงเส้นสายที่มีโฉบเฉี่ยว ดูคม รวมถึงแฟริ่งด้านข้างที่มีการออกแบบใหม่ และลวดลายที่มีความเนียนสะอาดตามากขึ้น มาพร้อมกราฟิก “660” สุดโดดเด่นที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง
นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยไฟหน้า LED แบบคู่ เสริมด้วยขอบคิ้วสีดำ และแรมแอร์บริเวณตรงกลางดูเท่มากขึ้น รวมถึงตัวถังแบบมินิมอล ตัวเบาะสีดำปาดเว้า รองรับท่านั่งขับขี่แบบสปอร์ต และปิดท้ายด้วยไฟ LED แบบโค้งมน อีกทั้งยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมของแท้จากไทรอัมพ์มากกว่า 30 รายการ เพื่อปรับแต่งสมรรถนะ ความสะดวกสบาย สไตล์ และการใช้งานจริง
ในด้านขุมพลังเจ้ารุ่นนี้เป็นแบบ 3 สูบ ขนาด 660 ซีซี ระบายความร้อนด้วยของเหลว ใช้ระบบวาล์วแบบ DOHC 12 วาล์ว พร้อมระบบจ่ายน้ำมันแบบอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ถังน้ำมันติดตั้งมาให้ขนาด 14 ลิตร ใช้ระบบส่งกำลังผ่านชุดเกียร์ 6 สปีดที่ติดมาพร้อมกับควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง
โดยให้พละกำลังแรงม้า 95 แรงม้าที่ 11,250 รอบต่อนาที และรอบเรดไลน์สูงสุดที่ 12,650 รอบ มาพร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 65 นิวตันเมตรที่ 3,125 รอบต่อนาที ซึ่งโดยรวมโมเดลรุ่นนี้ มีการตอบสนองเป็นเส้นตรงด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแรงบิดรอบต่ำ รอบกลาง ไปจนถึงรอบสูง และให้พละกำลังมากกว่าเจ้า Trident ถึง 17% และแรงบิดมากกว่าถึง 9% เลยทีเดียว
อีกทั้งเครื่องยนต์ยังให้เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยท่อไอเสียแบบใหม่มีด้วยคอท่อแบบ 3 ออก 1 และติดตั้งแคทเก็บเสียงมาให้เรียบร้อย พร้อมปลายท่อแบบสเตนเลสนั่นเอง รวมไปถึงระบบแอสซิสต์แอนด์สลิปเปอร์คลัตช์ ที่ช่วยในเรื่องของการเชนเกียร์ลงได้นุ่มนวลมากยิ่งขึ้น
มาต่อที่ระบบซับแรงกระแทกด้วยโช้คหน้าแบบหัวกลับจาก Showa SFF-BP ขนาดแกน 41 มม. มีระยะยุบ 110 มม. และโช้คหลังเดี่ยวจาก Showa เช่นเดียวกัน มีระยะยุบ 130 มม. สามารถปรับพรีโหลดได้
พร้อมระบบเบรกกับดิสก์เบรกด้านหน้าแบบคู่ขนาด 310 มม. พ่วงคาลิเปอร์เบรกแบบเรเดียลเม้าท์ 4 ลูกสูบ ขณะที่ด้านหลังเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดียว โดยมาพร้อมระบบ ABS Dual Channel มาคู่กับล้ออลูเนียมขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ 5 ก้านที่มีน้ำหนักเบาและยางขนาด 120/17-R17 และ 180/55-R17 โดยทางค่ายเคลมน้ำหนักที่ 201 กก.
ในด้านเทคโนโลยีที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานทั้ง หน้าจอ 2 แบบทั้ง TFT และดิจิทัล แสดงผลฟังก์ชันครบครัน และสามารถอ่านค่าง่ายในสภาพแสงที่แตกต่างกัน โดยอุปกรณ์นี้สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมที่เหมาะกับระบบ My Triumph ที่มีทั้งการนำทางแบบ Turn-by-turn การเชื่อมต่อการโทรศัพท์และฟังเพลง
โดยฟังก์ชันทั้งหมดจะแสดงอย่างชัดเจนบนหน้าจอ TFT และควบคุมผ่านสวิตช์เกียร์ เพื่อความสะดวกในการใช้งานขณะขับขี่ แถมยังมาพร้อมกับ ระบบแทร็คชันคอนโทรล โหมดขับขี่ 3 โหมด (Road, Rain, Sport) ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง อีกทั้งยังติดตั้ง ช่องเสียบ USB บริเวณใต้เบาะไว้ให้ใช้งาน และระบบอุ่นมือ
สำหรับเจ้าเดย์โทนา เปิดตัวมาพร้อมถึง 3 เฉดสี ประกอบไปด้วย สีแดง สีดำ และสีเทา โดยเปิดราคาที่ 8,595 สปอนด์สเตอริงหรือราว ๆ 3.8 แสนบาท สำหรับเรื่องการจัดหน่ายในบ้านเราก็คงต้องรอทางผู้แทนจำหน่ายคอมเฟิร์มอีกครั้ง หรืออาจจะเป็นช่วงงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ก็เป็นได้ ยังไงแฟน ๆ สาวกไทรอัมพ์ที่ชื่นชอบสายสปอร์ต ก็อดใจรอกันซักนิดกันนะครับ
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก