spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

F900GS และ F900GS Adventure สายลุยตัวจบของไซส์กลาง

F900GS และ F900GS Adventure สายลุยตัวจบของไซส์กลาง

F900GS และ F900GS Adventure

เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วจากทางฝากฝั่งยุโรปสำหรับสายลุยตัวจบไซส์กลาง BMW F900GS และ F900GS Adventure ที่ครั้งนี้เป็นการอัปเกรดขนานใหญ่ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องน้ำหนักที่โมเดลใหม่นี้รีดออกไปมากถึง 14 กก. ซึ่งเป็นอะไรที่ดี ๆ มาก เวลาขับขี่ โดยเฉพาะกับสายลุยด้วยยิ่งดีมาก ๆ

เข้าเรื่องกันเลย สำหรับดีไซน์นั้นโมเดลรหัส 900 นี้แทบไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงภายนอกมากนัก ที่เห็นว่าเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนจะเป็นเรื่องของกราฟิก แต่จริง ๆ แล้วก็มีส่วนที่เปลี่ยนแปลงอยู่คือถังน้ำมันพลาสติกที่ดีไซน์ขึ้นมาใหม่ เพรียวบางและรับกับสรีระมากขึ้น รวมถึงเบามากขึ้นด้วย และจะมีการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนหลาย ๆ อย่างต่างจาก F800GS ให้มาในทางขับขี่เอ็นดูโร่ มีการเปลี่ยนชิ้นส่วนตัวรถเล็ก ๆ น้อย ๆ หลายจุดอยู่เหมือนกัน

ทีนี้เรามาต่อกันเรื่องเครื่องยนต์กันบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็มีการปรับเปลี่ยนให้มีความจุมากขึ้น จากเดิม 2 สูบเรียงขนาด 853 ซีซี ก็ขยับเพิ่มมาเป็น 895 ซีซี ทำให้มีกำลังและแรงบิดเพิ่มมากขึ้น โดยแรงม้าสูงสุดเคลมมาที่ 105 แรงม้าที่ 8,500 รอบ และแรงบิดที่ 93 นิวตันเมตรที่ 6,750 รอบ มาพร้อมระบบคันเร่งไฟฟ้า ใช้น้ำมันจากถังน้ำมันพลาสติกขนาด 14.5 ลิตรที่ดีไซน์มาใหม่ ช่วยให้ลดน้ำหนักจากส่วนนี้ไปได้มากถึง 4.5 กก. แถมมีปลายท่อไอเสียจาก Akrapovic มาให้จากโรงงานเลยด้วย

ขณะที่ช่วงล่างก็เป็นอีกจุดที่สำคัญมาก ๆ สำหรับสายลุย ตัวรถมีเฟรมแบบบริดจ์ที่ทำจากเหล็กกล้าเชื่อมเข้าด้วยกันและใช้เครื่องเป็นส่วนนึงของการรับโหลดน้ำหนัก พร้อมยึดซับเฟรมท้ายเข้าไว้ด้วย ทำให้ได้ท้ายที่สั้นและปราดเปรียว

ส่วนเรื่องของระบบกันสะเทือนนั้นด้านหน้าจะเป็นโช้คหัวกลับ Showa ขนาด 43 ม.ม.ที่สามารถปรับแต่งค่าต่าง ๆ ได้เต็มระบบ ส่วนด้านหลังจะเป็นโช้คเดี่ยวที่ปรับแต่งได้เช่นเดียวกัน ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มคู่ ซึ่งในจุดนี้จะแตกต่างกับ 800 ตรงที่น้ำหนักสวิงอาร์มจะเบากว่าเล็กน้อยที่ 250 กรัม และระยะยุบของโช้คจะให้มีมากกว่า เนื่องจากเป็นโมเดลเน้นออฟโร้ดมากกว่านั้นเอง

F900GS และ F900GS Adventure

เรื่องของระบบเบรกนั้นจะเป็นดิสก์เบรกหน้าคู่ขนาด 305 ม.ม.พร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบ 2 ลูกสูบ และด้านหลังจะเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 265 ม.ม. พร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบ 1 ลูกสูบ และแน่นอนว่ามาพร้อมระบบเบรก ABS Pro ส่วนล้อจะเป็นล้อซี่ลวดขนาด 21 นิ้วและ 17 นิ้วตามลำดับ โดยใช้ยางขนาด 90/90-21 และ 150/70-R17 ตามลำดับ ซึ่งจะต่างกับตัว 800 ที่ให้มาเป็นล้อแม็ก ซึ่งเหมาะกับการขับขี่ออนโร้ดมากกว่า

ต่อกันเรื่องเทคโนโลยีกันบ้าง ตัวรถแน่ ๆ ว่ามาพร้อมหน้าจอสี TFT ขนาด 6.5 นิ้วที่แสดงผลข้อมูลได้ครบถ้วน ไฟหน้า LED เต็มระบบ ระบบอุ่นมือ ส่วนเทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องของการขับขี่และความปลอดภัยนอกจากระบบเบรก ABS Pro ที่กล่าวไปแล้วจะยังมีโหมดการขับขี่ 2 โหมดคือ Rain และ Road รวมไปถึงระบบไดนามิกแทร็คชันคอนโทรลอีกด้วย

F900GS และ F900GS Adventure

ทีนี้มาเรื่องของเจ้า GSA ก็จะมีลูกเล่นเพิ่มขึ้นมาจากโมเดลสแตนดาร์ด ให้เหมาะกับการขับขี่ทางไกลทัวริ่งมากยิ่งขึ้น มีการปรับเปลี่ยนแฟริ่งด้านข้างถังน้ำมัน ถังน้ำมันจุได้มากขึ้นเป็น 23 ลิตร และมีอกล่างอลูมิเนียมเพิ่มเติมมาให้

F900GS และ F900GS Adventure

และสุดท้ายเรื่องของการจำหน่าย จะอยู่ที่เริ่มต้น 13750 ยูโร และ 14750 ยูโรตามลำดับ หรือคิดเป็นเงินไทยก็คือ 523,000 บาท และ 561,000 บาท ตามลำดับ แต่ก็ต้องมารอดูราคาจำหน่ายในไทยกันอีกทีว่าจะบวกเพิ่มกันไปอีกเท่าไหร่ครับ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -

บทความยอดนิยม