spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

9 จุดเด่น Honda XL750 Transalp สายลุยไซส์กลาง

9 จุดเด่น Honda XL750 Transalp

9 จุดเด่น Honda XL750 Transalp

เปิดตัวไปนานแล้ว แต่เพิ่งเปิดราคามานี้เองสำหรับสายลุยไซส์กลางของทางค่ายปีกนก แถมยังมาพร้อมราคาเร้าใจแบบสี่แสนมีทอน หรือที่ราคา 389,000 บาท งานนี้ทางเราก็เลยขอเรียบเรียง 9 จุดเด่น Honda XL750 Transalp มาช่วยให้คนที่กำลังลังเล เก้ ๆ กัง ๆ ได้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นกันครับ

จุดที่ 1 สวยโดดเด่น อันนี้การันตีด้วยรางวัล Reddot Winner 2023 ด้านการออกแบบรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งรางวัลนี้รถต้องสวยจริง ๆ ถึงจะได้รางวัลนะเออ ไม่ใช่ว่าจะได้กันทุกคันแบบง่าย ๆ นะ ซึ่งดีไซน์ก็ออกมาในแบบที่ดูเรียบง่ายลงตัว ไร้ซึ่งส่วนเกินที่จะทำให้ดูเทอะทะ

จุดที่ 2 ชิลด์หน้ากันลมได้เยี่ยม โดยมีการออกแบบชิลด์หน้าให้ป้องกันลมปะทะ และตัดลมเวลาขับขี่ที่ความเร็วสูงได้ดี ช่วยให้เวลาขับขี่ทางไกลไม่เหนื่อยล้าจนเกินไป และขับขี่ได้อย่างผ่อนคลายสบายใจยิ่งขึ้น

9 จุดเด่น Honda XL750 Transalp

จุดที่ 3 หน้าจอสีทันสมัย สำหรับโมเดลนี้มาพร้อมหน้าจอสี TFT ขนาดใหญ่ถึง 5 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ผ่านการใช้งาน Honda Road Sync ที่ช่วยให้สามารถสั่งงานด้วยเสียงเพื่อรับสาย โทรออก ส่งข้อความ หรือฟังเพลงได้อีกด้วย ตอบโจทย์การเดินทางที่แสนสะดวกสบายจริง ๆ อีกทั้งยังปรับรูปแบบการแสดงผลหน้าจอได้มากถึง 4 แบบเลยทีเดียว

จุดที่ 4 ขุมพลังแรงด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของทางค่าย เครื่องยนต์ 2 สูบเรียงขนาด 755 ซีซีระบายความร้อนด้วยน้ำ แบบ 4 วาล์วต่อสูบ ของเจ้าทรานส์แอลป์คันนี้ให้กำลังแรงถึง 90.5 แรงม้าที่ 9,500 รอบ และแรงบิดสูงมากถึง 77 นิวตันเมตรที่ 7,250 รอบ

ความแรงดังกล่าวได้มากด้วยการใช้เทคโนโลยีแอร์วอร์เท็กซ์ดึงอากาศป้อนเข้าสู้ห้องเผาไหม้ได้เร็วและมาก ทำให้ได้รอบต่ำที่นุ่มนวล ขณะเดียวกันรอบกลางก็ตอบสนองได้ทันใจ นอกจากนี้ตัวกระบอกสูบเองก็ใช้เทคโนโลยีการเคลือบสารนิกเกิ้ลและซิลิคอนคาร์บอน ช่วยให้มีความแข็งแรงทนทานต่อการสึกหรอและยังช่วยลดแรงเสียดทานในระบบได้เป็นอย่างดี และจุดนี้เองที่ช่วยให้เครื่องยนต์แรงขึ้นที่รอบสูง ๆ เรียกว่าตอบโจทย์ทั้งทางดำและทางดินเลยทีเดียว

จุดที่ 5 ตัวรถน้ำหนักเบา ตัวรถมีน้ำหนักรวมของเหลวแล้วเพียง 208 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่ารถสายลุยนั้นปกติแล้วส่วนใหญ่มักจะมีน้ำหนักค่อนข้างมาก แต่เจ้าคันนี้มี้น้ำหนักที่เบาแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีหลากหลายและมีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ การที่ตัวรถน้ำหนักเบาจะช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ขับขี่ได้สบาย และแน่นอนว่ามันให้ความคล่องตัวที่ดี

จุดที่ 6 โหมดการขับขี่ที่หลากหลาย โดยมีให้เลือกถึง 5 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Gravel, Sport, Standard, Rain และ User ที่สามารถตั้งค่าเองได้ ซึ่งการมีโหมดที่ให้มาหลากหลายทำให้สะดวกและง่ายต่อการเลือกใช้งานให้เหมาะกับสถานการณ์การขับขี่แบบต่าง ๆ หรือจะใช้โหมด User และปรับตั้งค่าต่าง ๆ เองก็ย่อมทำได้เช่นกัน

จุดที่ 7 มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลาย คุณลองคิดดูสิครับราคารถไม่ถึงสี่แสนแต่ได้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยในเรื่องของการขับขี่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบคันเร่งไฟฟ้า โหมดการขับขี่ หน้าจอสี TFT ที่มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแล้ว นั่นยังไม่หมดเลยนะครับ ยังมีระบบเบรก ABS ที่เปิดปิดเฉพาะที่ล้อหลังได้ มีระบบ HSTC หรือระบบแทร็คชันคอนโทรลอีก 3 ระดับ ระบบควบคุมการลอยตัวของล้อ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่อีกด้วย

Image Credit to Benoit Lafontaine

จุดที่ 8 มีช่องชาร์จไฟแบบ USB Type C โดยจะอยู่ใต้เบาะ ให้เราชาร์จอุปกรณ์หรือแก็ดเจ็ดต่าง ๆ ได้เร็วแรงยิ่งขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะเป็นแค่เพียง USB Type A หรือเป็นช่องจ่ายไฟแบบ 12 โวลต์ธรรมดา

9 จุดเด่น Honda XL750 Transalp 9 จุดเด่น Honda XL750 Transalp

จุดที่ 9 ราคาคุ้มค่ามาก ๆ สำหรับรถแอดเวนเจอร์ไบค์ไซส์ใกล้เคียงกันนี้บอกเลยว่าคันนี้ราคาดีมาก ๆ ยิ่งหากเทียบกันในเรื่องของออปชันที่ให้มารวมถึงสมรรถนะแล้วบอกเลยว่าราคา 389,000 บาทนั้นเป็นราคาที่คุ้มค่ามาก ๆ ราคาดีมาก ๆ จริง ๆ ครับ ถือเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่กำลังหาแอดเวนเจอร์ไบค์ไซส์กลางที่น่าสนใจมากจริง ๆ ครับ

9 จุดเด่น Honda XL750 Transalp

อ่านมาครบเก้าข้อแล้วผมก็เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะตัดสินใจกันได้แล้วครับว่าคันนี้เป็นยังไง โดนใจพอหรือยังนะครับ หวังว่าคอนเทนต์นี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านและผู้ที่สนใจอยู่ไม่มากก็น้อยนะครับ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -

บทความยอดนิยม