Tenere 700 World Rally ทัวริ่งสายลุยตัวสุดคันใหม่ของยามาฮ่า
เปิดตัว Tenere 700 World Rally ร่างสุดยอดของทัวริ่งสายลุยขนาดกลางจากยามาฮ่าที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการแข่งขันที่โหดหินที่สุดในโลกอย่าง Dakar Rally ซึ่งนับย้อนไปตั้งแต่ปี 1979 ที่ยามาฮ่าชนะรายการนี้เป็นครั้งแรก และในปี 1983 ที่โมเดลเทเนเร่ดั้งเดิมได้เริ่มเป็นที่จดจำด้วยการเป็นรถที่มีถังน้ำมันขนาดใหญ่ แชสซีที่ทนทาน เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง และยังเป็นแอดเวนเจอร์ไบค์คันแรกของยามาฮ่าที่เปิดโอกาสให้สาวกได้ผจญภัยไปในเส้นทางใหม่ ๆ
ซึ่งทีมแข่งของทางยามาฮ่า ทางซีอีโอยามาฮ่ามอเตอร์ฝรั่งเศส Jean Claude Olivier ต่างก็สัมผัสได้ถึงความยอดเยี่ยมอันน่าทึ่งของ Stephane Peterhansel ตำนานสิงห์ทะเลทราย 6 สมัยและรถแข่งของเขา จึงได้ถือกำเนิดโมเดลพิเศษนี้ขึ้นมาเพื่อยกย่องให้แก่ตำนานในครั้งนี้ กลายเป็นโมเดลที่ผสมผสานกันระหว่างสายเลือดรถแข่งในอดีตเข้ากับสมรรถนะในแบบสมัยใหม่ขึ้นมา
ดีไซน์ของเจ้าเวิลด์แรลลี่คันนี้โดดเด่นด้วยสีสันแบบเดียวกับรถแข่งดาการ์ของ Stéphane Peterhansel สังกัดทีมโรงงานยามาฮ่าเมื่อปี 1993 เลย คือมาในสีน้ำเงิน ตัดด้วยเส้นสายสีชมพูสะท้อนแสง และลายกราฟิกสีเงิน ส่วนเรื่องของสเปกที่ปรับเปลี่ยนไปก็จะเป็นไปในแนวทางของการขับขี่แบบแรลลี่เต็มระบบ
โดยตัวรถจะอัปเกรดมาใช้ถังน้ำมันคู่แบบยึดติดด้านข้างมีขนาด 23 ลิตรเพื่อรองรับการเดินทางไกล โดยมีจุดยึดถังน้ำมันที่ต่ำกว่าเดิม ทำให้รถมีศูนย์ถ่วงต่ำลง เสริมพละกำลังและสมรรถนะของเครื่องยนต์ด้วยปลายท่อจาก Akrapovic น้ำหนักเบาพร้อมสุ้มเสียงเร้าใจ
ทั้งนี้ยังอัปเกรดระบบกันสะเทือนจาก KYB ที่สเปกสูงขึ้น โช้คด้านหน้าหัวกลับสีดำปรับแต่งได้ทั้งสปริงพรีโหลด คอมเพรสชันและรีบาวด์ โดยจะมีขนาด 43 ม.ม.ระยะยุบ 230 ม.ม. เนหลังเองก็จะเป็นโช้คเดี่ยวพร้อมซับแทงค์ทำงานร่วมกับกระเดื่องให้ระยะยุบ 220 ม.ม. นอกจากนี้ยังให้กันสะบัดจาก Ohlins ปรับความหนืดได้ 18 ระดับติดรถมาเลย
ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม ที่ด้านหน้าก็จะมีหน้าจอสีแบบ TFT ขนาด 5 นิ้วเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ ปรับเปลี่ยนได้ 3 ระดับ ก็จะมีเบาะนั่งราบแบบ 2 ชิ้นพร้อมโลโก้ประจำรุ่น ซึ่งเบาะราบจะช่วยให้เปลี่ยนท่วงท่าขับขี่ได้ง่าย หรือจะถอดชิ้นหลังเพื่อขนสัมภาระก็สะดวก สุดท้ายเป็นเรื่องของระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่พิเศษมาก ๆ ของตัวนี้คือระบบเบรก ABS ที่ปรับเปลี่ยนได้ 3 โหมด โหมด 1 จะทำงานเต็มระบบ โหมด 2 จะทำงานที่ล้อหน้า ปิดล้อหลัง ส่วนโหมด 3 จะปิดทั้งสองล้อเพื่อการขับขี่แบบลุย ๆ เต็มพิกัด
งานนี้สายลุยที่ชอบเดินทางไกลเก็บเงินรอกันได้เลย ราคาแพงกว่าตัวทั่วไปอยู่พอสมควรแน่นอน แต่ต้องแย่งชิงกันหน่อยนะคาดว่าจะมีเข้าไทยไม่มากนักแน่ ๆ
อ่านข่าวอื่นๆ จาก Yamaha คลิกที่นี่
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก