spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

Honda CL500 สแครมเบลอร์ไซส์กลางสุดเท่โดนใจสายเรโทร 

Honda CL500 สแครมเบลอร์ไซส์กลางสุดเท่โดนใจสายเรโทร 

Honda CL500

และนี่คือโมเดลใหม่จากค่ายปีกนก Honda CL500 ที่จะมาตอบโจทย์นักบิดที่เป็นสายเรโทรแบบเข้าเส้น เพราะโมเดลนี้มีแรงบันดาลใจการออกแบบดีไซน์มาจาก CL รุ่นดั้งเดิมจากยุค 60 และยุค 70 มาผสานเข้ากับเครื่องยนต์ 2 สูบเรียงจากรถในตระกูล CB500 ซี่รี่ส์ยอดนิยม ได้ออกมาเป็นสแครมเบลอร์ไบค์ไซส์กลางสุดเท่ได้กลิ่นอายเรโทรแบบเต็ม ๆ แต่ก็มาพร้อมความร่วมสมัยด้วยเทคโนโลยีของยุคใหม่ ให้มันขับขี่ใช้งานในชีวิตจริงได้อย่างไม่เคอะเขิน 

Honda CL500 2023
Honda CL500 สแครมเบลอร์ไซส์กลางสุดเท่โดนใจสายเรโทร 

 

 

สำหรับการดีไซน์ก็อย่างที่เกริ่นไปคือมีดีไซน์มาจากโมเดลดั้งเดิมในช่วงปี 60 และ 70 ซึ่งจะเป็นรถที่มีน้ำหนักเบาและความสามารถในการขับขี่ในทางฝุ่น โดยตัวรถมีรายละเอียดแบบรถเรโทรคลาสสิกมาแบบครบครัน อาทิ ไฟหน้า ไฟเลี้ยว (ระบบไฟทั้งหมดเป็น LED) กระจกมองหลัง และเรือนไมล์ LCD จอกลับสีแบบทรงกลม ด้านหน้ามีโช้คเทเลสโคปิกที่มาพร้อมปลอดยางกันฝุ่น เบาะหนังแบบจับจีบบริเวณคนขับ ส่วนคนซ้อนแบบปาดเรียบ  

 

นอกจากนี้ยังมีการทำชิ้นส่วนส่วนใหญ่โดยเฉพาะในส่วนของช่วงล่างให้เป็นสีดำ เพิ่มความหล่อเท่ดุดันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ปิดท้ายด้วยดีไซน์ท่อไอเสียปลายยกสูงตามแบบฉบับของรถสไตล์สแครมเบลอร์ ซึ่งก็ทำออกมาได้ดีลงตัวเลยทีเดียว 

Honda CL500 2023

สำหรับขุมพลังหลาย ๆ ท่านน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วกับขุมพลังยอดฮิตจากทางค่าย มันคือเครื่อง 2 สูบเรียงในรถตระกูล 500 ของทางค่าย ที่มีจำหน่ายอยู่บ้านเราหลากหลายโมเดลเหลือเกิน โดยจะเป็นเครื่องขนาด 471 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมหัวฉีด PGM-FI ให้กำลัง 46 แรงม้าที่ 8,500 รอบและแรงบิด 43.4 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบ ใช้เชื้อเพลิงจากถังน้ำมันขนาด 12 ลิตร  

โดยในคราวนี้จะมีการปรับอัตราทดเกียร์ใหม่ มีระบบแอสซิสต์และสลิปเปอร์คลัตช์ที่ช่วยให้มือคลัตช์เบาและเพิ่มความปลอดภัยเวลาเชนจ์เกียร์ลงเร็ว ๆ ทำให้ล้อหลังไม่เกิดอาการสลิป 

Honda CL500 2023

ในส่วนของช่วงล่างนั้นตัวรถใช้เฟรมท่อโลหะแบบไดมอนด์เฟรมที่ให้ความคล่องตัวและนุ่มสบาย โดยอาศัยคอมพิวเตอร์ในการออกแบบประมวลผล ให้มีความสมดุลกันระหว่างความแข็งแรงและน้ำหนักที่เหมาะสม ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหน้าจะเป็นโช้คแบบเทเลสโคปิกขนาด 41 ม.ม. ด้านหลังจะเป็นโช้คคู่ที่สามารถปรับพรีโหลดได้ ขณะที่ระบบเบรกด้านหน้าจะเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 310 ม.ม.ร่วมกับคาลิเปอร์เบรกแบบ 2 ลูกสูบ ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 240 ม.ม.พร้อมคาลิเปอร์เบรก 1 ลูกสูบ พร้อม ABS ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนล้อจะเป็นล้ออลูมิเนียมขนาด 19 นิ้วและ 17 นิ้ว หน้าหลังตามลำดับ ส่วนยางก็จะเป็นยางแบบกึ่งนะครับ 

 

ส่วนในเรื่องเทคโนโลยีนั้นนอกจาก ABS ที่กล่าวไปแล้วก็จะยังมีระบบไฟกระพริบเตือนฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหันหรือ ESS นะครับ  

โดยบอกตรงนี้ได้เลยว่ามีจำหน่ายในไทยแน่นอน ราคาจะไม่แรงด้วย เพราะไม่ได้ให้อ็อปชันมามากนัก นับได้ว่าเป็นสแครมเบลอร์ที่น่าจับตามองมาก ๆ เลยล่ะครับ  

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -

บทความยอดนิยม