spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

Honda CB750 HORNET 2023 การกลับมาของเน็กเก็ดระดับตำนาน

Honda CB750 HORNET 2023 การกลับมาของเน็กเก็ดระดับตำนาน

Honda CB750 HORNET 2023

เจ้าแตนซ่ากลับมาแล้วหลังจากหายไปนานกว่า 25 ปี เรียกได้ว่าบางคนอาจจะเกิดไม่ทัน สำหรับเน็กเก็ตไบค์ระดับตำนานอย่าง Honda CB750 Hornet 2023 โดยโมเดลแรกจะใช้ชื่อว่า CB600F Hornet ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 1998 และเป็นที่นิยมอย่างมากในฝากฝั่งยุโรป มาวันนี้มาพร้อมสไตล์ที่สดใหม่และสมรรถนะที่ดีเยี่ยมพร้อมกับราคาที่สัมผัสได้

Honda CB750 HORNET 2023

23YM HONDA CB750 HORNET

เริ่มต้นกันที่ดีไซน์ สำหรับโมเดลนี้เป็นการออกแบบจากทางทีมวิจัยและพัฒนาของทางกรุงโรม ดีไซน์ได้ออกมาเฉียบคมและมินิมัลตามแบบสมัยนิยม พร้อมท่านั่งหลังตรงสบาย ๆ ตามสไตล์เน็กเก็ด โดยไม่ทิ้งซิกเนเจอร์ของตัวเองซึ่งก็คือถังน้ำมันที่ได้แรงบันดาลใจมาจากปีกของแตนนั่นเอง ดุดันมาตั้งแต่แฟริ่งด้านหน้าและท้ายที่เฉียบคมเหมือนแตน

Honda CB750 HORNET 2023

ตัวรถทันสมัยด้วยระบบไฟ LED เต็มระบบ และหน้าจอสี TFT ขนาด 5 นิ้วที่แสดงผลได้ 4 รูปแบบตามใจผู้ใช้งาน และแน่นอนว่าแสดงผลได้ครบถ้วน โดยสามารถควบคุมผ่านสวิตช์เกียร์ที่แฮนด์ด้านซ้าย รวมไปถึงยังมีระบบ Honda Smart Voice Control System ซึ่งพัฒนาให้ดีขึ้นแล้วสามารถใช้งานร่วมกับ iPhone ได้แล้ว

ส่วนขุมพลังจะเป็นเครื่องยนต์ 2 สูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 755 ซีซี พร้อมระบบแอสซิสต์และสลิปเปอร์คลัตช์ โดยให้กำลังสูงสุด 90.5 แรงม้าที่ 9,500 รอบและแรงบิดที่ 75 นิวตันเมตรที่ 7,250 รอบ จากการใช้ท่อดักอากาศพิเศษ Vortex Air Flow ที่ได้สิทธิบัตรมาโดยเฉพาะ และด้วยน้ำหนักตัวรถรวมของเหลวที่ 190 ก.ก. ทำให้เจ้าแตนมีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักมากเป็นระดับแนวหน้าของคลาสที่ 0.48 แรงม้าต่อก.ก. และเคลมความเร็วสูงสุดมาที่ 205 กม./ชม.

มาต่อเรื่องของช่วงล่างกันบ้าง เฟรมที่ใช้วางเครื่องจะเป็นเฟรมไดมอนด์ใหม่ซึ่งน้ำหนักเบาจากการออกแบบความหนาบางที่เหมาะสมกับการโหลดน้ำหนัก ส่วนระบบกันสะเทือน โช้คหน้าหัวกลับ Showa SFF-BP ขนาด 41 ม.ม. ปรับแต่งได้  และโช้คหลังเดี่ยวปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับพร้อมกระเดื่องโปรลิงก์ ระบบเบรก ด้านหน้าจะเป็นคาลิเปอร์เบรก Nissin แบบเรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบพร้อมดิสก์เบรกคู่ขนาด 296 ม.ม. ขณะที่ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 20 ม.ม. พร้อมคาลิเปอร์เบรกลูกสูบเดี่ยว ส่วนขนาดล้อและยางจะเป็น 120/70 ZR-17” และ 160/60 ZR-17”

ในส่วนของเทคโนโลยี ตัวรถใช้ระบบคันเร่งไฟฟ้า มีโหมดขับขี่รวมทั้งหมด 4 โหมด ได้แก่ Sport, Standard, Rain และ User ซึ่งสามารถตั้งค่าระดับระบบต่าง ๆ ได้เอง พร้อมระบบ HSTC หรือแทร็คชันคอนโทรลทั้งหมด 3 ระดับ ระบบควบคุมการลอยตัวของล้อ ระบบควบคุมเครื่องยนต์ 3 ระดับ ระบบควบคุมเอ็นจิ้นเบรก ระบบเบรก ABS แบบ 2 ชาแนล ระบบไฟเตือนฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหันหรือ ESS พร้อมระบบยกเลิกไฟเลี้ยวอัตโนมัติ เรียกว่าค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว

สุดท้ายนี้มีจำหน่ายด้วยกัน 4 เฉดสี คือ

  • สีขาวมุก เฟรมแดง กระบอกโช้คแดง
  • สีดำกราไฟต์ เฟรมแดง กระบอกโช้คแดง
  • สีเทาอิริเดียมเมทัลลิกแบบด้าน
  • สีเหลืองแบบด้าน

ส่วนเรื่องเข้ามาจำหน่ายในไทยคิดว่าไม่น่าพลาด แต่ก็น่าจะมาจำหน่ายในบ้านเราก็ปีหน้าเลยครับ ส่วนราคาน่าจะอยู่ที่ราว ๆ 3 แสนปลาย ๆ ครับ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -

บทความยอดนิยม