spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

Ducati Monster SP 2023 สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยช่วงล่างระดับแนวหน้า

Ducati Monster SP 2023 สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยช่วงล่างระดับแนวหน้า

Ducati Monster SP 2023

เปิดตัวกันไปแล้วสด ๆ ร้อน ๆ กับ Ducati Monster SP 2023 เวอร์ชันพิเศษของอสูรร้ายไซส์กลางของทางค่าย โดยมุ่งเน้นให้ตัวรถมีการขับขี่ที่สปอร์ตและสนุกมากยิ่งขึ้น

Ducati Monster SP 2023

หลังจากที่เคยนำเสนอเจ้ามอนสเตอร์ในรูปแบบใหม่อีกครั้งเมื่อปี 2021 ให้ตัวรถมีสไตล์ที่ออกมากะทัดรัดมากขึ้นและมีน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่เคยมีมา เมื่อเทียบกับโมเดลดั้งเดิมที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1993 ตอนนี้ก็ได้มอนสเตอร์พิกัดกลางที่เหมาะกับการขับขี่ถนนและเมื่อบวกกับเฟรมแบบรถซูเปอร์ไบค์แล้วก็ทำให้มันกลายเป็นรถที่เหมาะกับการขับขี่ในทุก ๆ วัน

ดีไซน์ของโมเดลพิเศษนี้จะมาพร้อมกับสีสันแบบเดียวกับ Desmosedicio GP รถแข่ง MotoGP ทีมโรงงานของทางค่าย มาพร้อมเบาะหนังสีแดง ด้านข้างบริเวณครอบเบาะท้ายยังเด่นด้วยโลโก้ประจำรุ่น และยังมีโลโก้ดูคาติขนาดใหญ่ตรงถังน้ำมันซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากซูเปอร์ไบค์เรือธงของทางค่าย

Ducati Monster SP 2023

ขุมพลังของรถยังคังเป็นเครื่องยนต์ Testastretta 11 องศา สองสูบวี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังแรงสูงสุดที่ 111 แรงม้า วางบนเฟรมอลูมิเนียมด้านหน้าที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเฟรมของ Panigale V4 มาใช้ ซึ่งทั้งเบาและมีขนาดกะทัดรัด กลายเป็นสูตรผสมใหม่ของเน็กเก็ดไบค์ที่ลงตัวของทางค่าย

แต่ส่วนที่โดดเด่นที่สุดของโมเดลนี้เห็นจะเป็นในส่วนของช่วงล่างที่เลือกใช้แต่ชิ้นส่วนคุณภาพสูงจากแบรนด์ดังระดับโลกและในสนามแข่ง ไม่เพียงแต่จะทำให้รถนั้นเบา ขับขี่ได้ดี ยังให้ความหล่อเท่ดุดันอีกด้วย

เริ่มต้นกันที่ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าจะเป็นโช้ค Ohlins NIX30 อโนไดซ์สีทองดูโดดเด่น ด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยว Ohlins เช่นกัน โดยทั้งคู่ปรับแต่งได้เต็มระบบ ซึ่งสามารปรับแต่งให้เหมาะกับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน หรือขับขี่แบบสปอร์ตตอนที่ไปขับขี่ในสนามก็ทำได้เช่นกัน

ขณะที่ระบบเบรกเองก็ได้ของดีมา โดยระบบเบรกด้านหน้าจะเป็นดิสก์เบรกคู่ขนาด 320 ม.ม.พร้อมกับคาลิเปอร์เบรก Brembo Stylema เลยทีเดียว ด้านหลังก็จะเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวพร้อมคาลิเปอร์จาก Brembo เช่นกัน

Ducati Monster SP 2023

ส่วนยางที่ใช้จะเป็นยาง Pirelli Diablo Rosso IV ที่เหมาะกับการขับขี่บนถนนเป็นหลัก แต่จะใช้ขับขี่ในสนามก็ทำได้เช่นกัน

ตัวรถยังใช้แบตเตอรีแบบลิเธียมไอออนเพื่อทำให้รถมีน้ำหนักเบาเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยรวม ๆ แล้วตัวรถโมเดลนี้จะมีน้ำหนักเบาลงราว ๆ 2 กิโลกรัม แม้ว่าจะมีอุปกรณ์เพิ่มเข้ามาอย่างกันสะบัดและชิลด์หน้าขนาดเล็ก

นอกจากนี้แล้วยังมีการอัปเกรดในส่วนของอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย ซึ่งเดิมทีก็ถือเป็นเบอร์ต้น ๆ ของเน็กเก็ดพิกัดนี้อยู่แล้ว โดยตัวรถมีระบบอิเล็กทรอนิกส์มากมาย อาทิ ระบบเบรก ABS แบบใช้งานในโค้งได้ แทร็คชันคอนโทรล ระบบควบคุมการลอยตัวของล้อ ซึ่งเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว แต่ใน SP จะมีระบบช่วยออกตัว ไปจนถึงการเพิ่มโหมดการขับขี่อย่างโหมด Wet เข้ามาอีกด้วย

สำหรับการวางจำหน่ายนั้นจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงมกราคม 2023 เป็นต้นไป ส่วนในบ้านเรานั้นเร็วสุดก็คงจะเป็นกลางปีหน้าเลยครับผม

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -

บทความยอดนิยม