BMW Motorrad ประเทศไทย เปิดตัวโมเดลใหม่ 3 รุ่น

BMW Motorrad เปิดตัวบิ๊กไบค์สองรุ่นใหม่ตระกูล GS พร้อมเปิดตัว สกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่

 

BMW Motorrad ประเทศไทย กลับมาปลุกเร้าจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยของนักบิดชาวไทยอีกครั้ง ด้วยการเผยโฉมมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานในตระกูล GS สองรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ BMW F 750 GS และ BMW F 850 GS สานต่อเอกลักษณ์อันโดดเด่นของตระกูล F-Series ที่พกพาทั้งสมรรถนะออนโร้ดและออฟโร้ดมาอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมเปิดตัว BMW C 400 X สกู๊ตเตอร์น้องใหม่ในตระกูล Urban Mobility มอบความคล่องตัวในทุกโค้ง ครบครันทุกฟังก์ชั่นเพื่อความสะดวกสบาย ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสที่สุดของประสบการณ์แห่งความสนุกสนานขณะขับขี่ในเมือง

มร.มาร์คุส เกลเซอร์ ผู้อำนวยการ BMW Motorrad ประเทศไทย กล่าวว่า “หลังจากที่ได้เปิดตัว BMW F 800 GS ไปในปี พ.ศ. 2558 วันนี้เรากลับมาสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยมอเตอร์ไซค์เอ็นดูโร่ใหม่ถึงสองรุ่น BMW F 750 GS และ BMW F 850 GS ซึ่งได้รับ การพัฒนาให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นทั้งในด้านดีไซน์และสมรรถนะการขับขี่ เพื่อสร้างยนตรกรรมสองล้อที่สามารถมอบประสบการณ์ในการขับขี่อย่างสมบูรณ์แบบ ผสานทั้งความปราดเปรียวบนท้องถนน ความสะดวกสบายในสไตล์ทัวริ่ง และดีเอ็นเอของนักผจญภัยบนเส้นทางออฟโร้ด โดยทั้ง BMW F 750 GS และ BMW F 850 GS เป็นมอเตอร์ไซค์สองรุ่นล่าสุดที่ประกอบขึ้น ณ โรงงานของ บีเอ็มดับเบิ้ลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง และเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพในการผลิตที่แข็งแกร่งของโรงงาน BMW ในไทย

นอกจากนี้ เรายังเสริมความหลากหลายให้แก่ทัพมอเตอร์ไซค์ BMW ด้วยอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับขับขี่ในเมืองอย่างคล่องตัวและสะดวกสบาย กับ BMW C 400 X ที่สามารถพาคุณฝ่าฝันการจราจรในกรุงเทพฯ ได้อย่างสนุกสนานและง่ายดาย”

 

BMW F 750 GS

BMW F 750 GS
BMW F 750 GS

BMW F 750 GS สมาชิกล่าสุดในตระกูล GS ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อสิงห์นักบิดขาลุยผู้หลงใหลในจิตวิญญาณและรูปลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์เอ็นดูโร่ มาพร้อมเบาะนั่งที่ต่ำลง ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบเรียงขนาด 853 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ พกพากำลังสูงสุด 77 แรงม้าที่ 7,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 83 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที ระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐาน EU4 และได้รับการพัฒนาให้ลดแรงสั่นสะเทือนด้วยเพลาคู่พร้อมระบบ counterbalance ทำงานคู่กับเกียร์ 6 สปีด

เครื่องยนต์ใหม่สองสูบเรียง 853 ซีซี

มาในโครงสร้างเฟรมเหล็กกล้าแบบ monocoque เพื่อความแข็งแกร่งในการต้านทานแรงบิดและการขับขี่ที่แม่นยำยิ่งขึ้น ระบบกันสะเทือนล้อหน้าและล้อหลังสามารถตอบสนองได้อย่างฉับไว ด้วยโช้คแบบเทเลสโคปิก และสวิงอาร์มคู่อะลูมิเนียมพร้อม Central Spring strut พร้อมปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ด้วยระบบไฮดรอลิค อีกทั้งยังสามารถขับขี่ได้อย่างสนุกสนานด้วยโหมดการขับขี่ ‘Rain’ และ ‘Road’ ปลอดภัยทุกการเข้าโค้งด้วยระบบเบรก ABS และระบบ ASC (Automatic Stability Control)

เครื่องยนต์พร้อมท่อไอเสียดีไซน์ใหม่
เรือนไมล์และถังน้ำมันใหม่ 15 ลิตร

สำหรับรุ่น Exclusive style ยังมาพร้อม Riding Modes Pro, Dynamic Traction Control (DTC), Dynamic ESA และ ABS Pro

 

เส้นสายในการดีไซน์ของ BMW F 750 GS ตอกย้ำถึงความปราดเปรียวและความแข็งแกร่งของตระกูล GS มาพร้อมไฟหน้า LED แบบใหม่สะดุดตา ล้ออะลูมิเนียมขนาด 19 นิ้ว และ 17 นิ้ว โดยมาให้เลือกสรรใน 2 สี คือ Austin Yellow Metallic และ Stereo Metallic Matt (Exclusive Style)

ดีไซน์ใหม่พร้อมสีสันใหม่

 

BMW F 850 GS

BMW F 850 GS

BMW F 850 GS ผสานเอกลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์แบบทัวริ่งเข้ากับสมรรถนะออฟโร้ดที่เหนือชั้นไว้ได้อย่างลงตัว มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 853 ซีซี เช่นเดียวกับ BMW F 750 GS แต่ทรงพลังกว่าด้วยกำลัง 95 แรงม้า ที่ 8,250 รอบต่อนาที และแรงบิด 92 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบต่อนาที พร้อมระบบควบคุมไอเสียแบบ Closed-Loop ชนิด 3 ทาง Catalytic Converter ตามมาตรฐาน EU4

ขุมพลังใหม่ 853 ซีซี 2 สูบทรงพลังยิ่งกว่า F 750 GS

เฟรมโครงสร้างได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเช่นเดียวกับ F 750 GS เสริมประสิทธิภาพของระบบกันสะเทือนด้วยโช้คหัวกลับและสวิงอาร์มคู่อะลูมิเนียม พร้อมโหมดการขับขี่มาตรฐาน ‘Rain’ และ ‘Road’

โช้คหลังใหม่

สำหรับรุ่น Exclusive Style มาพร้อม Riding Modes Pro ที่เพิ่มโหมดการขับขี่ ‘Dynamic’, ‘Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย อาทิ Dynamic ESA, Dynamic Traction Control (DTC), Keyless Ride และ ABS Pro

ปุ่มควบคุมต่างๆ

ดีไซน์ใหม่เสริมเส้นสายความดุดัน รวมทั้งไฟหน้า LED แบบใหม่เช่นกัน พร้อมลุยบนออฟโร้ดด้วยล้อซี่ลวดขนาด 21 นิ้วและ 17 นิ้ว โดยBMW F 850 GS มาให้เลือกในสี Light White Uni (Rallye Style) และ Pollux Metallic Matt (Exclusive Style)

ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่

 

BMW C 400 X
ราคาจำหน่าย 399,000
บาท

สกู๊ตเตอร์น้องเล็กของทางค่าย

BMW C 400 X เป็นสกู๊ตเตอร์สุดหรูที่ผสมผสานเสน่ห์ และความคล่องตัวของสกู๊ตเตอร์เข้ากับความหรูหราระดับพรีเมียมในแบบของ BMW Motorrad เพื่อมอบทั้งความสะดวกสบายในการฟันฝ่าการจราจรในเมืองและความสนุกสนานในทุกขณะของการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์หนึ่งสูบขนาด 350 ซีซี ที่พัฒนาขึ้นเพื่อมุ่งเน้นความประหยัดน้ำมันโดยเฉพาะ มอบพละกำลังสูงสุด 34 แรงม้า ลงสู่ล้อหลังด้วยระบบเกียร์ CVT และสวิงอาร์มที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนและมอบความนุ่มสบายในขณะขับขี่ ส่วนระบบ Automatic Stability Control (ASC) ก็ช่วยให้ตัวรถมั่นคง ปลอดภัยขณะเร่งความเร็ว แม้บนถนนที่เปียกและลื่น

ขุมพลังขนาด 350 ซีซี

เฟรมเหล็กกล้าอันแข็งแกร่งของ BMW C 400 X ใหม่ ติดตั้งอยู่บนระบบช่วงล่างที่มีโช้คหน้าแบบเทเลสโคปิกและโช้คหลังแบบสปริงสตรัทคู่ ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาให้ครบเครื่องทั้งความสนุกและความสบายในยามขับขี่ ส่วนดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง พร้อมระบบ ABS ก็มอบความปลอดภัยด้วยแรงเบรกแบบเต็มประสิทธิภาพ

ดิสก์เบรคหน้าคู่พร้อม ABS

ดีไซน์ของ BMW C 400 X ใหม่ เปี่ยมด้วยความล้ำสมัยในแบบของมอเตอร์ไซค์ตระกูล Urban Mobility จาก BMW Motorrad และผสมผสานทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดดเด่นจากด้านหน้าด้วยไฟ LED ในรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ และแผงกันลมในขนาดที่พอดีเข้ากับตัวถังที่มีให้เลือกในสี Zenith Blue metallic และ Alpine White ส่วนช่องเก็บของแบ่งพื้นที่ภายในเป็นสองส่วนเพื่อความสะดวกสบายและเป็นระเบียบ พร้อมด้วยช่องเก็บหมวกกันน็อก Flexcase ที่พับเก็บอยู่ใต้เบาะแบบตอนเดียว ทำให้ BMW C 400 X ใหม่ ตอบได้ทุกโจทย์ในชีวิตประจำวัน และยังพร้อมรับมือกับการเดินทางไกลได้อีกด้วย

หน้าจอสี TFT ขนาด 6.5 นิ้ว

นอกจากนี้ BMW C 400 X ยังมาพร้อม Connectivity ด้วยหน้าจอ TFT Screen ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อม
BMW ConnectedRide ที่สามารถเชื่อมต่อและแสดงข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนและหมวกกันน็อกผ่านบลูทูธได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย

สีนี้ก็แจ่ม

พิเศษสุดสำหรับรุ่น Limited Edition ที่มีจำกัดเพียง 26 คันเท่านั้น มาพร้อมอุปกรณ์เสริมพิเศษ ได้แก่ Keyless Ride, ไฟส่องสว่างตอนกลางวัน Daytime Riding Lights, ระบบทำความอุ่นที่นั่ง Heated Seat และระบบทำความอุ่นมือจับ Heated Grip

หน้าหล่อๆ

สุดท้ายนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพของรถมอเตอร์ไซค์ทุกคัน ทาง BMW Motorrad พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่จับจองเป็นเจ้าของรถ BMW Motorrad ทุกรุ่น ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2561 รับฟรี BMW Motorrad Service Inclusive (BMSI) ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาเบื้องต้นตามมาตรฐานเป็นระยะเวลา 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร และ BMW Motorrad Extended Warranty ที่ขยายระยะเวลารับประกันเพิ่มเป็น 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

คลิกอ่านข่าวอื่นๆ ของ BMW ได้ที่นี่

ติดตามข่าวสารแบบรวดเร็วได้ทางแฟนเพจ SuperBike Magazine คลิก

- Advertisement -

บทความยอดนิยม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่