2568 พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ คุ้มครองอะไรบ้าง?
2568 พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนขี่รถจักรยานยนต์บางคน ‘มักมองข้าม’ ที่มาเพราะว่าผู้เขียนได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ แล้วได้ทำการสอบถามว่า ‘มี พรบ.ไหม’ จากนั้นก็โดนตอบสวนมาอย่างทันควันว่า ‘ไม่มี ไม่ได้ต่อนานแล้ว’ ซึ่งก็เลยคิดต่อว่าน่าจะมีเหล่าไบค์เกอร์อีกหลายคนที่ไม่ต่อ เนื่องจากคิดว่ามีไว้ก็ไม่ได้ใช้อะไร อีกอย่างต่อภาษีในแต่ละปีก็เสียเงินต่อครั้งตั้งหลายบาท และเสียเวลาไปต่อคิวที่ขนส่ง แต่แท้จริงแล้ว พบ.รถจักรยานยนต์ มันมีประโยชน์กับชาวสองล้อเป็นอย่างมาก
สิทธิ์คุ้มครอง พรบ.รถจักรยานยนต์
สิทธิคุ้มครองของ พรบ.รถจักรยานยนต์ และประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 กฎหมายมีการบังคับให้ยานพานพาหนะที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ‘จะต้องทำ พรบ.ทุกคัน’ เนื่องจากเป็นหลักประกันที่ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คู่กรณี รวมไปถึงบุคคลอื่นที่ประสบอุบัติเหตุ ให้ได้รับความคุ้มครองเงินค่ารักษาพยาบาล และค่าปลงศพ ซึ่งการต่อ พรบ ในหนนี้ก็เหมือนเป็นประกันภัยเบื้องต้นในระดับหนึ่ง
ซึ่งถ้าเจ้าของรถไม่ต่อ พรบ.รถจักรยานยนต์มีความผิดตามกฎหมาย โดยมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และถ้าหากต่อแล้วแต่ไม่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนจะมีโทษไม่เกิน 1,000 บาท
ประโยชน์ของ พรบ ที่ใครต่อหลายคนมองข้าม
1.ค่าเสียหายเบื้องต้น
เมื่อผู้ขับขี่ หรือเจ้าของรถ ขับขี่รถแล้วเกิดอุบัติเหตุ พรบ.ที่ติดกับตัวรถจะดำเนินการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้ ครอบคลุมทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร แม้ว่าจะยังไม่ได้พิสูจน์ความผิดก็ตาม
| กรณีได้รับบาดเจ็บ | ได้รับเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาล จ่ายตามค่าใช้จ่ายจริงด้วยวงเงินไม่เกิน 30,000 บาท/คน |
| เสียชีวิต ทุพพลภาพ หรือสูญเสียอวัยวะ | จะได้รับเงินชดเชย 35,000 บาท/คน |
2. ค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่เป็น ‘ฝ่ายถูก’
เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นฝ่ายถูก พรบ. จะดำเนินการชดเชยค่าสินไหมทดแทนให้ โดยมีการครอบคลุมทั้งตัวของผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
| ค่ารักษาพยาบาล | จ่ายตามที่รักษาจริง ในวงเงินไม่เกิน 80,000 บาท |
| เสียชีวิต หรือทุพพลภาพ | ได้รับเงินชดเชยจำนวน 300,000 บาท |
| เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วทำให้เกิดการสูญเสียอวัยวะบางส่วน เช่น นิ้วขาด 1 ข้อ | ได้รับเงินชดเชยจำนวน 200,000 บาท |
| กรณีรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือเป็นผู้ป่วยใน | ได้รับค่าชดเชย 200 บาท (ไม่เกิน 20 วัน) |
หากเจ้าของรถ หรือผู้ขับขี่ ‘เป็นฝ่ายผิด’
ในกรณีของการเกิดอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ แล้วได้มีการพิสูจน์เหตุการณ์ออกมาว่าผู้ขับขี่ หรือเจ้าของรถเป็นฝ่ายผิด เมื่อเกิดการบาดเจ็บของทั้งสองฝ่าย ทางฝ่ายที่เป็น ‘คนผิด’ จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนฝ่ายถูกจะได้รับค่าคุ้มครองการรักษาพยาบาลเบื้องต้นเช่นเดียวกัน แต่จะได้รับเงินสินไหมเพิ่มเติม
ขั้นตอนการเบิก พรบ.สำหรับรถจักรยานยนต์
เมื่อเกิดเหตุแล้วต้องการใช้ พรบ.รถจักรยานยนต์ในการเบิกทดแทนค่าสินไหม แล้วคิดว่าขั้นตอนจะยุ่งยาก ใช่ครับ เอ้ย ไม่ใช่ มันไม่ยุ่งยากขนาดนั้น โดยมีวิธีขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
- หลังจากเกิดเหตุแล้วนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่าขอใช้สิทธิ์เบิก พรบ.รถจักรยานยนต์
- จากนั้นโรงพยาบาลจะเป็นผู้ดำเนินการประสานงานให้
- แจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวน และพิสูจน์ว่าอุบัติเหตุที่เกิดฝ่ายไหนเป็น ‘ฝ่ายถูก’ หรือ ‘ฝ่ายผิด’
- เก็บเอกสารจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ใช้ในการเคลมค่าสินไหมทดแทน ที่ต้องพิสูจน์ว่าผู้ขับขี่เป็นฝ่ายถูก
- ยื่นเอกสารที่ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด โดยมีข้อกำหนดว่าต้องยื่นภายใน 180 วัน (ภายใน 3 เดือน) หลังจากวันเกิดเหตุ
- หากยื่นเอกสารครบถ้วน ภายใน 7 วัน จะได้รับค่าสินไหมทดแทน
ถ้าอ่านมาจนถึงตรงนี้แล้วในบทความนี้ก็ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน สนใจ และใสใจในการต่อภาษีประจำปี ไม่เพียงแค่ให้ผู้ขับขี่สามารถใช้รถนนใช้ถนนได้อย่างถูกกฏหมาย แต่ยังมีการคุ้มครองผู้ขับขี่ร่วมด้วย เพราะคำว่าอุบัติเหตุมักมาโดยที่ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิด หรือฝ่ายถูก ก็จะได้รับค่าคุ้มครองในการรักษาพยาบาลทุกกรณี
และถึงแม้จะมี พรบ. ก็ไม่ใช่ว่าจะขับขี่อย่างไรก็ได้ ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง สวมหมวกกันน็อค ขับขี่รถตามความเร็วที่กฏหมายกำหนด และปฏิบัติตามกฏจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดอุบัติเหตุ โชคเดดด
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก
 |
 |
